จัดสรรเขตอีอีซีทะลัก อสังหาฯแห่ขอใบอนุญาต-โฟกัสทำเลบ้านโพธิ์-บางปะกง

21 มี.ค. 2561 | 08:09 น.
สำนักงานที่ดิน 3 จังหวัดพื้นที่อีอีซีเผยบริษัทอสังหาฯชั้นนำจากกรุงเทพฯและผู้ประกอบการท้องถิ่น ระดมซื้อที่ดินและยื่นขออนุญาตจัดสรรสูงมาก แต่ละเดือนเข้ามาเฉลี่ยสาขาละ 6-7โครงการ โฟกัสอำเภอบ้านโพธิ์ กับบางปะกง

ผลพวงจากการที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีความชัดเจน โดยรัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-ชลบุรี-ศรีราชา-ระยอง , โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และโครงการทางถนน ให้เกิดความเชื่อมโยงกรุงเทพฯกับพื้นที่อีอีซี ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีความเชื่อมั่นลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวอย่างคึกคัก

mp29-3349-a แหล่งข่าวจากสำนักงานที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา 1 ใน 3 จังหวัดเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจ อำเภอบ้านโพธิ์ และอำเภอบางปะกงพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรกันมาก เนื่องจาก การเดินทางสะดวก มีทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วน) และทางพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) เชื่อมต่อไปยังชลบุรีและระยอง ประกอบกับรัฐบาลกำหนดให้ฉะเชิง เทราเป็นหนึ่งในโครงการอีอีซี ยิ่งมีบริษัทรายใหญ่จากส่วนกลางเข้าพื้นที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดบริษัทเอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซื้อที่ดินพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 2 โครงการในอำเภอบ้านโพธิ์ 1 โครงการและอำเภอบางปะกง อีก 1 โครงการรวม 300 หน่วย ราคาเฉลี่ย 4-9 ล้านบาทต่อหน่วย และนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทดังกล่าวเข้ามาพัฒนาโครงการที่แปดริ้ว ซึ่งที่ผ่านมา ได้ออกใบอนุญาตจัดสรร ไปแล้ว 1 โครงการ และจดทะเบียนขอแบ่งแยกแปลงที่ดินจำนวน 144 แปลง โอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกบ้าน ริมถนนฉะเชิงเทรา-บางปะกง หรือ ทางหลวงสาย 314 ส่วนทำเลบ้านโพธิ์ คาดว่าจะยื่นขออนุญาตจัดสรรเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ยังมีโครงการบ้านเดี่ยวของบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน), บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เคยเข้ามาพัฒนาโครงการก่อนหน้านี้แต่ล่าสุดยังไม่ยื่นขออนุญาตจัดสรรเพิ่ม

ส่วนบริษัทพัฒนาที่ดินเจ้าถิ่น อาทิ บริษัท มารวยฯ ยื่นขออนุญาตจัดสรร ทำเลบางปะกง จำนวน 2 โครงการ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์ จำนวน 500 หน่วย แยกเป็น โครงการริเวอร์ไซด์ บางปะกง จำนวน 300 หน่วย ซึ่งระดับราคาประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งมารวย พัฒนาที่ดินในฉะเชิงเทราหลายโครงการ และมีการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง บ้านสุขุมวิทและเดอะทัช ซึ่งเป็นโครงการของบริษัทในเครือกระดาษดับเบิลเอ ที่ สำนักงานที่ดินอยู่ระหว่างพิจารณาออกใบอนุญาตจัดสรร

ขณะเดียวกันยังมี บริษัทจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ มาปรึกษากับสำนักงานที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ หลายรายประเมินว่าจากการเปิดอีอีซี ทำให้เกิดความสนใจลงทุนโครงการซึ่งแหล่งข่าวกล่าวว่าแต่ละเดือนจะมีโครงการยื่นขออนุญาตจัดสรรเข้ามาเฉลี่ยสาขาละ 6-7 โครงการ

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-2 แหล่งข่าวจากสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า เดือนนี้ มีโครงการยื่นขออนุญาตจัดสรรใหม่ ได้แก่ โครงการเนเจอโฮม บริษัท นอร์ทเทิร์น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด อำเภอบางละมุง โครงการ ศิริมงคล อำเภอบางละมุง โครงการ เกสินี อำเภอพนัสนิคม โครงการ เอฟพี ทาวน์ อำเภอเมือง ส่วนค่ายแสนสิริ เตรียมยื่นขออนุญาตแนวราบ ส่วนศุภาลัยอยู่ระหว่างก่อสร้างคอนโดมิเนียม

แหล่งข่าวจากสำนัก งานที่ดินจังหวัดระยอง กล่าวว่าเอกชนยื่นขออนุญาตจัดสรรมากขึ้นซึ่งเดือนที่ผ่านมา 12โครงการ และเดือนนี้ 6-7 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นจัดสรรในท้องถิ่น เช่น บริษัท กนกทรัพย์ จำกัด ส่วนค่ายใหญ่ ศุภาลัย พัฒนาในเขตอำเภอเมือง ไม่ถึง 100หน่วย ขณะที่ ค่ายพฤกษา เรียลเอสเตท อยู่ทำเลปลวกแดง จำนวน 200 หน่วย และเตรียมยื่นขออนุญาตอีก 2-3 โครงการ นอกจากนี้ยังมีโครงการคาซ่าวิล ระยอง ของค่ายคิวเฮ้าส์ ซึ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ราคา 1 ล้านบาทต้นๆ ขายให้กับสาวโรงงาน และล่าสุดทราบว่าบมจ. แสนสิริ และดับเบิลเอที่พัฒนาโครงการในแปดริ้วมากที่สุด กำลังขยายพื้นที่เข้ามาพัฒนาในระยอง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,349 วันที่ 18 - 21 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว