‘เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย’ เปิดเกมบุกงานเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลก ออกบูธนำทัพลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ‘ซีรีส์อินเดีย’ และ ‘คอนเทนต์จากช่อง 8’ ตีตลาด หวังขยายตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าสิ้นปีมียอดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ 120 ล้านบาท
บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล
ชูแนวคิดอภินิหารการตลาด JKN บุกขายลิขสิทธิ์คอนเทนท์รุกตลาดโลก เดินหน้าออกบูธตามงานเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศ ตั้งเป้าปีนี้ 4 งาน ทั้งในเอเชียและยุโรป ประเดิมงานแรก ‘ฮ่องกง อินเตอร์เนชั่นแนลฟิล์ม มาร์ท’ ที่ฮ่องกง
นำทัพซีรี่ส์ภาพยนต์อินเดีย 3 เรื่อง ไปแนะนำ
พร้อมเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 จำนวน 7 เรื่อง ไปออกบูธเปิดตัวเพื่อพบปะผู้ซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากทั่วโลก
ตั้งเป้าหมายทำรายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท อนาคตเร่งเจรจาสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิทัลอีกหลายช่อง เพื่อเป็นตัวแทนขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากประเทศไทยไปตีตลาดโลก พร้อมขยายธุรกิจเข้าสู่การเป็นผู้จัดการลิขสิทธิ์ของศิลปินต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจจำหน่ายคอนเทนท์โดยจะเข้าไปร่วมออกบูธแนะนำลิขสิทธิ์ตามงานเทศกาลภาพยนตร์ชั้นนำทั่วโลก จำนวน 4 งานใหญ่ ที่ประเทศจีน ฝรั่งเศส และเกาะฮ่องกง โดยงานแรก ได้แก่ งาน ‘ฮ่องกง อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม มาร์ท’ ที่เกาะฮ่องกง ในเดือน มี.ค. นี้
สำหรับลิขสิทธิ์คอนเทนท์ที่จะนำไปจำหน่ายภายในงานดังกล่าว ประกอบด้วย ซีรี่ส์อินเดีย จำนวน 3 เรื่อง ได้แก่ Porus ศึกสองราชันย์, Prithvi Vallabh วัลลภ มหากษัตริย์ชาตินักรบ และ Ganesha ไอยรามหาเทพ และภาพยนตร์สารคดีจากช่อง เจเคเอ็น ออริจินัล 3 เรื่อง รวมถึงการเป็นตัวแทนจำหน่ายให้แก่ลิขสิทธิ์คอนเทนท์ประเภทละครไทยของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 จำนวน 7 เรื่อง จากที่ได้รับสิทธิ์ทั้งหมดจำนวน 47 เรื่อง ไปร่วมออกบูทในครั้งนี้ โดยรูปแบบนั้นจะเป็นการจำหน่ายลิขสิทธิ์ทุกช่องทางการเผยแพร่ ได้แก่ สถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี เคเบิ้ลทีวี วิดีโอออนดีมานด์ และโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมโทรทัศน์ซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ โดยสามารถเลือกแพคเกจซื้อลิขสิทธิ์ที่ตรงกับความต้องการและช่องทางเผยแพร่ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลของไทยอีกหลายช่อง เพื่อขอเป็นตัวแทนนำลิขสิทธิ์คอนเทนต์รายการต่าง ๆ ที่ผลิตทางสถานี ไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มเติม คาดว่าจะสรุปรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า การเข้าร่วมออกบูธตามงานเทศกาลภาพยนตร์ จะได้รับความสนใจจากจากผู้เข้าร่วมงานเลือกซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปออกอากาศ ซึ่ง JKN มีเป้าหมายต้องการขยายไปยังกลุ่มประเทศใน CLMV หรือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงตลาดใหม่ ๆ เช่น บรูไน มาเลเซีย ที่มีความนิยมประเภทลิขสิทธิ์คอนเทนต์คล้ายคลึงกับคนไทย
โดยคาดว่าจากแผนงานการรุกจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังต่างประเทศในปีนี้ทั้งหมด จะทำยอดขายได้ประมาณ 120 ล้านบาท ไม่รวมส่วนแบ่งรายได้ที่เกิดจากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้แก่สถานีโทรทัศน์ดิจิทัล
“เราตั้งเป้าว่า ปีนี้จะไปร่วมออกบูธตามงานเทศกาศภาพยนตร์นานาชาติ 4 งาน ทั้งในอาเซียน เอเชีย และยุโรป เพื่อแนะนำและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่เรามีในมือให้แก่ผู้ที่สนใจเพื่อนำไปออกอากาศผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงจะเป็นตัวแทนนำลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่ผลิตรายการจากสถานีโทรทัศนทีวีดิจิทัลของคนไทยไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้า ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาดและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่สถานีโทรทัศน์” คุณจักรพงษ์ กล่าว
นอกจากนี้ JKN อยู่ระหว่างดำเนินการเป็นผู้บริหารจัดการลิขสิทธิ์ของศิลปินต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ขณะนี้มีศิลปินดาราจากประเทศฟิลิปปินส์และอินเดียแสดงความสนใจเข้าร่วมสังกัดแล้ว ได้แก่ Ishant Bhanushali หรือ น้องมารุติ หนุมานน้อย จากซีรีย์หนุมาน สงครามมหาเทพ ที่เตรียมเปิดตัวเป็นศิลปินคนแรกของ JKN
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
หุ้น JKN แจกกำไรวันแรก 5%
หุ้นน้องใหม่ JKN เหนือจอง 12.5%