"กอบศักดิ์"มอบนโยบายการขับเคลื่อน SME 4.0 เน้นปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล ควบคู่การเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานราก ผุดโครงการปั้นดาว ปูพรมพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคการค้าและบริการในเมืองรองเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่ชุมชน
[caption id="attachment_268567" align="aligncenter" width="503"]
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล[/caption]
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหาร สสว. ว่า ได้มอบหมายให้ สสว. เป็นหน่วยงานกำหนดยุทธศาสตร์ และเป็นศูนย์กลางประสานเชื่อมต่องานส่งเสริมเอสเอ็มอีของประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน โดยนโยบายสำคัญที่มอบหมายให้ สสว. เร่งดำเนินการคือ การจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับเอสเอ็มอี (Big Data) เพื่อเป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลเอสเอ็มอีแห่งชาติที่สามารถสะท้อนตัวตน รองรับการแนวทางการส่งเสริมที่ต่อเนื่องและสอดคล้องอย่างเป็นระบบ
ขณะเดียวกัน สสว. จะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์จากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งต่อให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดย สสว. จะเป็นหน่วยงานกลางในการบริหารจัดการฐานข้อมูลเอสเอ็มอีแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่ง สสว. ในฐานะเจ้าภาพปีที่ 3 การจัดทำงบประมาณบูรณาการด้านการส่งเสริมเอสเอ็มอีของประเทศร่วมกับ 25 หน่วยงาน ภายใต้วงเงิน 3,810.41 ล้านบาท จึงมอบหมายให้ทำหน้าที่ประสาน กำกับ และติดตามการดำเนินงานภายใต้แผนดังกล่าว ให้มีความสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ คือ เน้นปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจสู่ SME 4.0 โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการเสริมศักยภาพ สื่อสารด้านการตลาด วางระบบการพัฒนาเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้างสังคมผู้ประกอบการตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรง รวมถึงเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานรากระดับชุมชนในภาคการค้าและบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลจะใช้เป็นเครื่องมือลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ซึ่งสอดรับกับตัวเลขจีดีพีเอสเอ็มอี (GDP SME) ปี 2560 ที่ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 5.1 และเติบโตสูงสุดในภาคการท่องเที่ยว
“รัฐบาลมีนโยบายต้องการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก โดยพิจารณาจากพื้นที่ ผลผลิต และความร่วมมือของชุมชน เพื่อผลักดันให้เมืองรองมีการเติบโต โดยจะคัดเลือกจังหวัดที่ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ เพื่อค้นหาสาเหตุ ศึกษาปัญหา และวางแนวทางนำไปสู่การพัฒนา โดยหยิบยกศักยภาพในแต่ละพื้นที่ใช้เป็นเครื่องมือในการปลดล็อคและสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม อาทิ การลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนพบว่า ประชาชนมีปัญหาการอยู่อาศัยทับซ้อนพื้นที่ป่า ขณะที่จังหวัดมีศักยภาพเด่นเรื่องการท่องเที่ยว รัฐบาลจึงช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิในการอยู่อาศัยให้ถูกต้อง พร้อมขับเคลื่อนให้มีสายการบินรองรับการท่องเที่ยว หรือที่จังหวัดกาฬสินธุ์มีความโดดเด่นเรื่องของ อาหาร อาทิ กุ้งก้ามกราม มะม่วงสีทอง ไส้กรอกปลา ฯลฯ”
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้ติดต่อให้ไปรษณีย์ไทยไปช่วยดำเนินการด้านการขาย การขนส่ง เป็นต้น โดยผลจากการลงพื้นที่จึงต่อยอดเป็น “โครงการปั้นดาว” โดยผลักดันให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ บูรณาการทำงานร่วมกันตามบทบาทหน้าที่เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจรายย่อย วิสาหกิจชุมชน ให้มีศักยภาพ พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ถือเป็นการทำงานตามแนวพระราชดำริโดยการระเบิดจากข้างใน
ด้านนายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่า ในปีนี้ สสว. วางแนวทางในการส่งเสริมเอสเอ็มอีที่ตอบโจทย์นโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ใน 4 แนวทางคือ 1) ปรับรูปแบบธุรกิจสู่เอสเอ็มอี 4.0 (Transformation to SME 4.0 ,2) การพัฒนาผู้ประกอบการฐานราก (Community Based Area Based) ,3) การยกระดับธุรกิจสู่การค้าออนไลน์ (Business shift up to E-Market place) และ 4.) การจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data for SME) โดยคาดว่า การดำเนินงานตามแผนบูรณาการส่งเสริมเอสเอ็มอีในปีนี้จะสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการ 331,315 ราย สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้ 90,000 ล้านบาท