ส่ง‘เกด’ติดปีก KPLUS

19 มี.ค. 2561 | 14:46 น.
KBTG ทุ่มงบ 5 พันล้านบาทต่อปี ลงทุนเทคโนโลยีและนวัตกรรม เล็งพัฒนา “เกด” ติดปีกบริการพื้นฐาน K PLUS ตั้งเป้า 5 ปี ฐานลูกค้าแตะ 20 ล้านราย

นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธาน กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า บริษัทใช้งบพัฒนาและลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเฉลี่ยประมาณ 5,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อรองรับการแข่งขันในตลาด เพราะจะเห็นว่า ดิจิตอลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทุกองค์กรพยายามปรับตัว โดยการ Transformation เพื่อลดค่าใช้จ่าย ปรับองค์กรเพื่อแข่งขันในสงครามดิจิตอล ซึ่งบริษัทพยายามสร้างพื้นฐานให้ดีขึ้นผ่านเทคโนโลยีตต่างๆ เช่น AI , Machine Learning หรือ Blockchain แต่อาจไม่เพียงพอในการแข่งขันภายใต้สงครามการแข่งขันครั้งนี้ บริษัทจึงต้องเข้าไปยึดพื้นที่ในใจของลูกค้าให้ได้ รู้จักลูกค้าให้มากขึ้น ตอบโจทย์ได้ดีขึ้น ไม่เพียงแค่ธุรกรรมการเงินเท่านั้น แต่ต้องตอบโจทย์เป็น Total Solution

บาร์ไลน์ฐาน ดังนั้นบริษัทได้พัฒนา “เกด” (KADE: K PLUS AI-Driven Experience) บริการทางการเงินแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นตัวจักรสำคัญในการสร้างความฉลาดให้กับบริการต่างๆ ใน K PLUS ให้สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน คาดว่า น่าจะได้เห็นภายในปีนี้ โดย “เกด” จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ K PLUS เป็น Digital Banking อย่างแท้จริง เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีมาพัฒนานี้จากปี 2559 มีเพียง 1-2 คน ปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญเป็น 40 คน และคาดว่าภายในสิ้นปีจะเป็น 100 คน

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปี เกดจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้า K PLUS เป็น 20 ล้านราย จากฐานลูกค้า 8 ล้านรายในปัจจุบัน คาดสิ้นปีนี้จบอยู่ที่ 10.8 ล้านราย อย่างไรก็ดี ภายในสิ้นเดือนนี้บริษัทจะออกบริการ “Machine Commerce” ซึ่งเป็นการนำสินค้าไปเสนอขายให้กับผู้ซื้อผ่านปัญญาประดิษฐ์ โดยผู้ซื้อจะเป็นลูกค้าที่อยู่ใน K PLUS ที่มีกว่า 8 ล้านราย ซึ่งได้ทดลองบริการนี้ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา โดยทดลองขายดอกกุหลาบ หนังสือ และขนมไหว้พระจันทร์ให้กับพนักงาน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว