ดังนั้นบริษัทได้พัฒนา “เกด” (KADE: K PLUS AI-Driven Experience) บริการทางการเงินแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นตัวจักรสำคัญในการสร้างความฉลาดให้กับบริการต่างๆ ใน K PLUS ให้สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน คาดว่า น่าจะได้เห็นภายในปีนี้ โดย “เกด” จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ K PLUS เป็น Digital Banking อย่างแท้จริง เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีมาพัฒนานี้จากปี 2559 มีเพียง 1-2 คน ปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญเป็น 40 คน และคาดว่าภายในสิ้นปีจะเป็น 100 คน
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปี เกดจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้า K PLUS เป็น 20 ล้านราย จากฐานลูกค้า 8 ล้านรายในปัจจุบัน คาดสิ้นปีนี้จบอยู่ที่ 10.8 ล้านราย อย่างไรก็ดี ภายในสิ้นเดือนนี้บริษัทจะออกบริการ “Machine Commerce” ซึ่งเป็นการนำสินค้าไปเสนอขายให้กับผู้ซื้อผ่านปัญญาประดิษฐ์ โดยผู้ซื้อจะเป็นลูกค้าที่อยู่ใน K PLUS ที่มีกว่า 8 ล้านราย ซึ่งได้ทดลองบริการนี้ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา โดยทดลองขายดอกกุหลาบ หนังสือ และขนมไหว้พระจันทร์ให้กับพนักงาน