บล.กสิกรไทยฯครองแชมป์ที่ปรึกษาทางการเงินขายหุ้น IPO 2 ปีซ้อน เผยปีนี้มีแผนนำ 4 บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก และการเงิน มองการระดมทุนด้วย ICO ไร้เกณฑ์กำกับดูแลที่ชัดเจน ยังไม่สามารถทดแทน IPO ได้
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ครองแชมป์ในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและจัดการระดมทุนผ่านตราสารทุนโดยขายหุ้นครั้งแรกต่อประชาชนทั่วไป(Initial Public Offering) ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน จากผลงานในปี 2559 และ 2560 ได้จัดการเสนอขาย Equity IPO 5,436 ล้านบาท และ 15,882 ล้านบาท ตามลำดับ
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทยฯ เปิดเผยว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา สายงานวาณิชธนกิจ บล.กสิกรไทยฯ ประสบความสำเร็จด้านงานที่ปรึกษาทางการเงิน โดยสามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 5 บริษัท ได้แก่ TOA, SSP, PRM, BGRIM และ GULF มีมูลค่าการเสนอขายทั้งสิ้นกว่า 54,000 ล้านบาท (บางบริษัททำร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ) โดยทุกบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด ทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในประเทศ มีการจองซื้อเต็มจำนวน และราคาหุ้นในวันเปิดขายวันแรกสามารถปิดเหนือราคาจองได้ทั้งหมด
[caption id="attachment_268464" align="aligncenter" width="335"]
แมนพงศ์ เสนาณรงค์[/caption]
“การระดมทุนด้วย ICO (Initial Coin Offering) ตอนนี้บริษัทยังไม่สนใจศึกษา เนื่องจากกฎเกณฑ์การกำกับดูแลยังไม่ชัดเจน และเชื่อว่าแม้จะมีกระแสแรงในช่วงนี้ แต่จะไม่สามารถมาทดแทนการระดมทุนด้วยตราสารทุน หรือตราสารหนี้ได้ เชื่อว่านักลงทุนยังให้ความสนใจการลงทุนในหุ้น IPO อย่างต่อเนื่อง” นายแมนพงศ์กล่าว
สำหรับเป้าหมายใน ปี 2561-2562 บริษัทมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาด หลักทรัพย์ฯ อีกกว่า 10 บริษัท โดยในปี 2561 มีเป้าหมาย 4 บริษัท ปี 2562 จำนวน 5-7 บริษัท
ในปี 2561 จะมีบริษัทระดมทุนขนาดใหญ่เกิน 10,000 ล้านบาท 2 บริษัท และบริษัทที่ระดมทุนขนาดกลางอีก 2 บริษัท โดยตั้งเป้าหมายว่า Equity IPO ในปีนี้จะมียอดใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา คือประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยประเภทของบริษัทที่ระดมทุนทำ IPO ในปีนี้จะมีกลุ่มธุรกิจค้าปลีก, ธุรกิจการเงิน, ธุรกิจขนส่งสินค้า(Logistics) และธุรกิจสุขภาพ (Health Care)
นายแมนพงศ์กล่าวว่า สำหรับการตั้งราคา IPO นั้น จะตั้งราคาจากมูลค่าหุ้นที่เหมาะสม และคำนวณส่วนลดลงมา 10-15% เมื่อหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯผู้จองซื้อหุ้นก็จะทำกำไรได้ 10-20% แล้วแต่ความต้องการซื้อขายของนักลงทุนในตลาด
“หุ้นบริษัทเล็กๆ ที่มีการกระจายจำนวนหุ้นน้อยก็มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะพุ่งขึ้นได้แรงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการกระจายจำนวนหุ้นมากกว่า” นายแมนพงศ์กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2560 ที่ผ่านมา บล.กสิกรไทยฯ ได้รับ 5 รางวัลจาก 3 สถาบัน ได้แก่ 1. รางวัล Best IPO, Thailand หุ้น BGRIM จาก The Asset Triple A Country Awards 2017 2. รางวัล Best Mid-Cap Equity หุ้น TOA จาก The Asset Triple A Regional Awards 2017
3. รางวัล Best IPO Deal in Southeast Asia 2017 หุ้น BGRIM 4. รางวัล Best IPO Deal for Retail Investors in Southeast Asia 2017 หุ้น GULF จาก 11 th Annual Alpha Southeast Asia Deal & Solution Awards 2017
และ 5. รางวัล Thai land Capital Markets Issue of the Year หุ้น TOA จาก The 21th IFR Asia Annual Award 2017
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561