จี้กลต.เรียกประชุมผู้ถือหุ้น IFEC ตั้งบอร์ดชุดใหม่สางปัญหา

14 มี.ค. 2561 | 15:18 น.
จี้ กลต.ใช้อำนาจศาล สั่งกรรมการที่เหลือใน IFEC เรียกประชุมผู้ถือหุ้น ตั้งบอร์ดชุดใหม่ เร่งปรับโครงสร้างหนี้ ่เดินหน้าสอบโครงการลงทุน -โรงแรมดาราเทวี

พลตรี บุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ ประธานกรรมการตรวจสอบ พร้อมด้วย นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ. กรรมการตรวจสอบ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ”IFEC” ร่วมกันแถลงข่าวว่า เพื่อให้สถานการณ์บริษัทพ้นภาวะสูญญากาศ ทาง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( กลต.) ควรเป็นผู้ร้องขออำนาจศาลสั่งให้ กรรมการที่เหลืออยู่ เรียกประชุมผู้ถือหุ้น พร้อมเปิดให้ผู้ที่ต้องการสมัคร. สมัครเข้ามาเป็นกรรมการชุดใหม่.

เพราะปัญหาของ IFEC ขณะนี้คือกรรมการไม่ครบ ล่าสุดมีกรรมการอีก 3 ท่านที่จะลาออกคือ พล.ต ไชยนาจ ญาติฉิมพลี ,นายพีรธัช สุขพงษ์ และนายปิยะพงศ์ วงศ์สุวัฒน์

ส่วนที่ี่เหลือคือนายศุภนันท์ ฤทธิ์ไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จะหมดวาระภายในเดือนนี้ ดังนั้นจะเหลือเพียงกรรมการ 2 คนคือ พล.ต บุญเลิศ และนายฉัตรณรงต์ เท่านั้น

"ผมเชื่อว่า กลต.ตระหนักถึงเรื่องนี้ และมีข้อมูลเชิงลึก ทั้งเอกสารงบการเงินและการทำธุรกิจของอดีตผู้บริหาร. เพราะเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลต.ได้ใช้อำนาจคำสั่งศาลฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ.เข้ามาตรวจสอบบริษัทและทำการยึดเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้องของอดีตผู้บริหารบริษัทที่เข้า

ข่ายว่าอาจไม่โปร่งใส แสดงว่า กลต.ตระหนักปัญหาเหล่านี้ดี" นายฉัตรณรงค์ กล่าว และว่าสิ่งที่เรา 2 คนยังทำหน้าที่อยู่และต้องการที่สุด คือให้มีการเลือกกรรมการชุดใหม่เร็วที่สุด เพื่อคืนอำนาจให้ผู้ถือหุ้นและเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบให้เร็วทีสุด

ด้านพล.ตล บุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ กล่าวว่า หลังจากตนเข้ามาบริหารพร้อม นายฉัตรณรงค์ ตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ในการเข้าตรวจสอบก็ดี ไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ โดยมักถูกมองว่าเป็นการล้วงลูก ทำให้การตรวจสอบเป็นอุปสรรค

โดยประเด็นที่กรรมการตรวจสอบ ได้ให้ความคิดเห็นสำคัญๆ คือ เรื่อง การปรับโครงสร้างหนี้ จากการที่ IFEC มีภาระหนี้จากการออกตั๋วทุกประเภทราว 8,500 ล้านบาทไม่รวมดอกเบี้ยและBank Loan
ที่ผ่านมาเราได้พยายามที่จะเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้าง โดยการขยายระยะเวลาชำระหนี้ตั๋วทุกประเภทออกไปเป็น 5 ปี ีโดยในไตรมาสแรกปี 2560 จะชำระเงินต้นให้ราว 25-28% ของมูลหน ี้ด้วยดอกเบี้ยราว 7% สูงสุด เงินต้นส่วนที่เหลือจะขยายไป 5 ปี. เมื่อใดไอเฟคขายทรัพย์สินได้ก็ไห้นำมาชำระเพื่อลดภาระดอกเบี้ย แตไม่สามารถประชุมได้ มีคำสั่งผู้บริหารออกมาว่าผิดกฏหมาย

ประเมินการตรวจสอบ การเข้าไปซื้อโรงแรมดาราเทวีราว 4170 ล้านบาทในลักษณะเร่งรีบทำไห้ราคาซื้อเกินกว่ามูลค่าความเป็นจริงซึ่งเมื่อมีการคำนวนถึง income/cost approach ราคาที่ได้มาไม่น่าคุ้มค่าต่อการลงทุนอีกทั้งมิได้ทำ due diligence อย่างถูกต้อง

และในเรื่องการลงทุนในโครงการลงทุนในต่างประเทศ เช่น เขมร เวียนนาม ญี่ปุ่น ออสเตรเลียรวมทั้งมิได้มีการทำดีลแคร์ก่อไห้เกิดคำถามในสังคมว่าเงินหายไปไหนซึ่งผู้สอบบัญชีก็อ้างว่าไม่มีเอกสารเพียงพอต่อการตรวจสอบ และเป็นประเด็นที่ผู้สอบบัญชีไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้

นายฉัตรณรงค์ กล่าวว่า ลำพังธุรกิจโดยตัวของIFEC สามารถสร้างรายได้ได้อยู่แล้ว และที่ผ่านมาปีกว่า ธุรกิจก็ยังเดินหน้าตามปกติ มีรายได้จากบริษัทลูกที่ส่งเข้ามา .