งัด11ปมพิรุธฟันIFEC ปกปิดข้อมูล-เงินกู้ 6.5 พันล้านล่องหน
บอร์ดตรวจสอบ IFEC แฉสารพัดข้อสงสัย ทั้ง “ปกปิดข้อมูล-ตั้งสำรองหนี้น่าสงสัย-ลงทุนต่างประเทศเงินกู้กว่า 6.5 พันล้านบาทล่องหน” แม้พยายามปรับโครงสร้างหนี้ให้แล้วแต่ก็ล้มเหลว ถูกแทรกแซงกระบวน การตรวจสอบทุกทาง
นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ กรรมการตรวจสอบ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ร่วมแถลงข่าวเปิดโปงกระบวนการทุจริต ใน IFEC ร่วมกับ พล.ต.บุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ ประธานกรรมการตรวจสอบ IFEC ระบุว่า ตนในฐานะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 พร้อมกับ พล.ต. บุญเลิศ
ในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาตนพยายามใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่สะสมมาให้การแนะนำแก่ฝ่ายบริหารของ IFEC และชี้ให้เห็นถึงแนวทางแก้ปัญหาของบริษัท เพื่อหวังว่าจะนำพา IFEC ไปสู่บริษัทที่มีศักยภาพประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดรับกับรายได้ของบริษัท
แต่ภายใต้โครงสร้างขององค์กร และเงื่อนไขการบริหารจัดการในรูปแบบของ IFEC ที่ไม่พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้โปร่งใสชัดเจนดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมได้เลย ตนไม่ปล่อยให้ผู้ถือหุ้น IFEC กว่า 30,000 คน ต้องได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้ ตนและประธานกรรมการตรวจสอบจึงเปิดเผยข้อมูลและปัญหาต่างๆให้ทราบ
นายฉัตรณรงค์ ได้ชี้แจงรายละเอียดข้อสงสัยของคณะกรรมการตรวจสอบในการบริหารจัดการของฝ่ายบริหาร IFEC ที่เห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่โปร่งใส และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำทุจริต โดยสรุปเป็นประเด็นๆ ดังนี้
1. ผูกขาดอำนาจ แม้ถูกกล่าวโทษยังฝืนบงการสั่งการฝ่ายบริหารอยู่เบื้องหลัง
2. สร้างอาณาจักรพวกพ้องแต่ขาดความรู้ความเข้าใจในเชิงบริหาร
3. ปกปิดข้อมูลเชิงลึกที่ต้องรายงานให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ, ก.ล.ต.,ผู้ถือหุ้น,เจ้าหนี้
4. มีการทุจริต/ฉ้อโกงเกิดขึ้นในบริษัท ตั้งแต่ปี 2557-2559 เป็นต้นมาและมีการต่อสู้ฟ้องร้องกันไปมาอยู่ในขณะนี้ยิ่งนานวันยิ่งเสียหายมากขึ้น
5. ปี 2559 มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญสูงมากราว 1,800 ล้านบาท
6. เงินลงทุนในต่างประเทศไม่โปร่งใสจนผู้สอบบัญชีไม่ขอแสดงความคิดเห็น
7. ปิดบังข้อมูลการใช้เงินจากการออกตราสารหนี้กว่า 6,500 ล้านบาท
8. ซื้อโรงแรมดาราเทวี 4,170 ล้านบาทแพงเกินจริง ไม่คุ้มค่าลงทุน
9. บริษัทมิได้วางรูปแบบบริหารตามหลัก Corporate Governance
10 . การปรับโครงสร้างหนี้ล้มเหลว
11. ไม่ให้ข้อมูล ไม่ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการตรวจสอบ
“วันนี้ พวกเราคณะกรรมการตรวจสอบรู้สึกสบายใจ และยินดีมากที่ ก.ล.ต. และ DSI ได้เข้ามาตรวจค้นและตรวจสอบข้อมูลเอกสารที่สำนักงานของบริษัท เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็น่าจะยึดเอกสาร ข้อมูลจากอุปกรณ์ดักฟัง/กล้องวงจรปิดและเอกสารทางบัญชีการเงินที่สามารถตรวจสอบการลงทุนในต่างประเทศ การซื้อโรงแรมดาราเทวี การลงทุนของบริษัทลูกทุกบริษัท เพื่อนำไปตรวจสอบและสามารถดำเนินคดีลงโทษต่อผู้ที่กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนได้ในเร็ววันนี้” นายฉัตรณรงค์กล่าว
นายฉัตรณรงค์ กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบเห็นควรให้คืนสิทธิกลับไปยังผู้ถือหุ้นเพื่อให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริษัทขึ้นมาใหม่ และเมื่อได้คณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยบุคคลที่ผู้ถือหุ้นเห็นชอบร่วมกันว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมแล้ว คณะกรรมการบริษัทจะได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัด การของกลุ่มบริษัท IFEC กันใหม่ เพื่อให้การดำเนินงานและการบริหารจัดการของ IFEC เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีอย่าง แท้จริงต่อไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561
นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ กรรมการตรวจสอบ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ร่วมแถลงข่าวเปิดโปงกระบวนการทุจริต ใน IFEC ร่วมกับ พล.ต.บุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ ประธานกรรมการตรวจสอบ IFEC ระบุว่า ตนในฐานะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 พร้อมกับ พล.ต. บุญเลิศ
แต่ภายใต้โครงสร้างขององค์กร และเงื่อนไขการบริหารจัดการในรูปแบบของ IFEC ที่ไม่พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้โปร่งใสชัดเจนดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมได้เลย ตนไม่ปล่อยให้ผู้ถือหุ้น IFEC กว่า 30,000 คน ต้องได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้ ตนและประธานกรรมการตรวจสอบจึงเปิดเผยข้อมูลและปัญหาต่างๆให้ทราบ
นายฉัตรณรงค์ ได้ชี้แจงรายละเอียดข้อสงสัยของคณะกรรมการตรวจสอบในการบริหารจัดการของฝ่ายบริหาร IFEC ที่เห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่โปร่งใส และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำทุจริต โดยสรุปเป็นประเด็นๆ ดังนี้
2. สร้างอาณาจักรพวกพ้องแต่ขาดความรู้ความเข้าใจในเชิงบริหาร
3. ปกปิดข้อมูลเชิงลึกที่ต้องรายงานให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ, ก.ล.ต.,ผู้ถือหุ้น,เจ้าหนี้
4. มีการทุจริต/ฉ้อโกงเกิดขึ้นในบริษัท ตั้งแต่ปี 2557-2559 เป็นต้นมาและมีการต่อสู้ฟ้องร้องกันไปมาอยู่ในขณะนี้ยิ่งนานวันยิ่งเสียหายมากขึ้น
5. ปี 2559 มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญสูงมากราว 1,800 ล้านบาท
6. เงินลงทุนในต่างประเทศไม่โปร่งใสจนผู้สอบบัญชีไม่ขอแสดงความคิดเห็น
7. ปิดบังข้อมูลการใช้เงินจากการออกตราสารหนี้กว่า 6,500 ล้านบาท
8. ซื้อโรงแรมดาราเทวี 4,170 ล้านบาทแพงเกินจริง ไม่คุ้มค่าลงทุน
9. บริษัทมิได้วางรูปแบบบริหารตามหลัก Corporate Governance
10 . การปรับโครงสร้างหนี้ล้มเหลว
11. ไม่ให้ข้อมูล ไม่ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการตรวจสอบ
“วันนี้ พวกเราคณะกรรมการตรวจสอบรู้สึกสบายใจ และยินดีมากที่ ก.ล.ต. และ DSI ได้เข้ามาตรวจค้นและตรวจสอบข้อมูลเอกสารที่สำนักงานของบริษัท เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็น่าจะยึดเอกสาร ข้อมูลจากอุปกรณ์ดักฟัง/กล้องวงจรปิดและเอกสารทางบัญชีการเงินที่สามารถตรวจสอบการลงทุนในต่างประเทศ การซื้อโรงแรมดาราเทวี การลงทุนของบริษัทลูกทุกบริษัท เพื่อนำไปตรวจสอบและสามารถดำเนินคดีลงโทษต่อผู้ที่กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนได้ในเร็ววันนี้” นายฉัตรณรงค์กล่าว
นายฉัตรณรงค์ กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบเห็นควรให้คืนสิทธิกลับไปยังผู้ถือหุ้นเพื่อให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริษัทขึ้นมาใหม่ และเมื่อได้คณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยบุคคลที่ผู้ถือหุ้นเห็นชอบร่วมกันว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมแล้ว คณะกรรมการบริษัทจะได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัด การของกลุ่มบริษัท IFEC กันใหม่ เพื่อให้การดำเนินงานและการบริหารจัดการของ IFEC เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีอย่าง แท้จริงต่อไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561
