ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบ การขนส่งสินค้าเชียงของ

17 มี.ค. 2561 | 14:30 น.
โครงการ “ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ” จังหวัดเชียงรายนี้ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติรูปแบบการร่วมลงทุนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) จะเร่งจัดหาเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนบริหารจัดการโครงการโดยเร็วต่อไป

“ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ” เกิดขึ้นจากวัตถุประสงค์ที่ประเทศไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้เหมาะสม เช่นเดียวกับการพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนให้ดีขึ้น ตลอดจนสร้างประโยชน์จากการขนส่งสินค้าผ่านแดนและการใช้เส้นทางการขนส่งสินค้าเข้าสู่ประเทศไทย

TP12-3348-1A ปัจจุบันโครงการนี้อยู่ระหว่างการเร่งก่อสร้างบนพื้นที่โครงการ 336 ไร่ ติดกับด่านเชียงของและสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 ประมาณ 1 กิโลเมตร แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จะเปิดให้บริการในปี 2563 ส่วนระยะที่ 2 จะเปิดให้บริการในปี 2566 นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคตเอาไว้อีกด้วย

ในส่วนพื้นที่ภายในโครงการจะมีพื้นที่ให้บริการเปลี่ยนหัวลาก-หางพ่วงกับรถบรรทุกต่างประเทศ พื้นที่รวบรวมสินค้าและบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ พื้นที่อำนวยความสะดวกในการทำพิธีการศุลกากรและเป็นพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (CCA) อีกทั้งยังมีพื้นที่เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งกับระบบราง พื้นที่การให้บริการคลังสินค้าทัณฑ์บนและคลังสินค้าศุลกากร พร้อมมีพื้นที่ลานจอดรถพร้อมตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็น ตลอดจนอาคารสำนักงานและอาคารที่พัก

โครงการดังกล่าวนี้พัฒนาขึ้นเพื่อเชื่อมโยงและรองรับการขนส่งสินค้าจากภาคตะวันตกของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วแต่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ประกอบกับประเทศไทยมีความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ของการเป็นประตูเชื่อมโยงการขนส่ง และเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค จึงถือเป็นโอกาสที่ในการขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนกับมณฑลต่างๆของจีนตะวันตกเฉียงใต้ที่อยู่ใกล้กับประเทศไทย

บาร์ไลน์ฐาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโครงการนี้แม้จะลงทุนหลักพันล้านบาทแต่จะมีส่วนช่วยเชื่อมโยงและรองรับการขนส่งสินค้าจากด้านตะวันตกของสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งรัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการลงทุน รวมถึงการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มนํ้าโขง ประการสำคัญรัฐบาลยังมีแผนลงทุนในอีกหลายจุดเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าแต่ละภูมิภาคให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว