ไร้เงา‘เอ็กซ์แพนเดอร์’ มิตซูบิชิเปิดตัวไม่ทันมอเตอร์โชว์-อัดโบนัสดีลเลอร์ทุก6เดือน

17 มี.ค. 2561 | 01:53 น.
ปีนี้น่าจะเป็นอีก 1 ปีที่คึกคักของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย หลังประธานใหญ่ “โมะริคาซุ ชกกิ” ประกาศว่า เตรียมเปิดตัวรถยนต์โมเดลใหม่ที่ไม่เคยทำตลาด 2 รุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง “เอ็กซ์แพนเดอร์” และยังไม่รวมรถแบบไมเนอร์เชนจ์อีก 3 รุ่น และรถรุ่นพิเศษ 4 รุ่น ทั้ง มิราจ แอททราจ ไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต

สำหรับ “เอ็กซ์แพนเดอร์” ผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิ ประเทศอินโดนีเซีย เริ่มปลุกกระแสตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ด้วยการเป็นรถอเนกประสงค์สายพันธุ์ใหม่ วางเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง มิติตัวถังยาว 4,475 มม. กว้าง 1,750 มม. สูง 1,700 มม ระยะฐานล้อ 2,775 มม. และระยะตํ่าสุดจากพื้น 205 มม.ซึ่งมิตซูบิชิชูเรื่องพื้นที่ใช้สอย หรือเคลมว่ากว้างที่สุดในรถระดับเดียวกัน พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC 104 แรงม้า ในอินโดนีเซียมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

อย่างไรก็ตาม หลังเปิดตัวในประเทศอินโดนีเซียช่วงปลายปีที่แล้ว รถยนต์รุ่นนี้ได้กระแสตอบรับดีเกินคาด หรือผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศไม่ทันกับความต้องการจึงทำให้แผนการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศ อื่นๆในอาเซียนต้องเลื่อนออกไป

[caption id="attachment_268180" align="aligncenter" width="503"] บรรยากาศงานเปิดตัว เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่อินโดนีเซียเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้การตอบรับจากตลาดดีเกินคาด บรรยากาศงานเปิดตัว เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่อินโดนีเซียเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้การตอบรับจากตลาดดีเกินคาด[/caption]

ล่าสุด“เอ็กซ์แพนเดอร์” เตรียมข้ามนํ้าผ่านทะเลไปเปิดตัวที่ประเทศฟิลิปปินส์ในเดือนมีนาคมนี้ แบ่งการขายเป็น 4 รุ่นย่อย เริ่มต้นด้วยรุ่น GLX MT เกียร์ธรรมดา ราคา 8.85 แสนเปโซหรือประมาณ 5.34 แสนบาท และรุ่นท็อป GLS Sport AT เกียร์อัตโนมัติ 1.06 ล้านเปโซ หรือประมาณ 6.93 แสนบาท ส่วนการส่งมอบให้ลูกค้าจะเริ่มเดือนพฤษภาคมนี้

ส่วนเมืองไทย ชัดเจนว่าในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2018 “เอ็กซ์แพนเดอร์” ยังไม่มาปรากฏโฉม และขยับการเปิดตัวไปเป็นช่วงกลางปี นั่นเพราะมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ต้องการเปิดตัวและมีรถพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าทันที ซึ่งต่างจากแผนงานของฟิลิปปินส์ที่ชิงเปิดตัวก่อน

แม้การเปิดตัวในเมืองไทยจะล่าช้าออกไปเล็กน้อย แต่ไม่น่ากระทบกับยอดขายในภาพรวมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยมากนัก เพราะประธาน“โมะริคาซุ ชกกิ” คาดว่า “เอ็กซ์แพนเดอร์” จะมีสัดส่วนไม่ถึง 10% จากยอดขายมิตซูบิชิรวมทุกรุ่นในปีนี้ (ตั้งเป้าขายเกิน 7 หมื่นคันในปีนี้) ขณะที่ยอดขายในเดือนแรกของปีถือว่าน่าพอใจด้วยตัวเลข 5,878 คัน เติบโต 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นอกจาก “เอ็กซ์แพนเดอร์” และรถโมเดลใหม่อีก 1 รุ่น รวมถึงการไมเนอร์เชนจ์ของ ปาเจโร สปอร์ต อีกไฮไลต์ที่สร้างความสดใหม่ตลอดทั้งปีของมิตซูบิชิคือการเปิดตัวรุ่นพิเศษให้รถยนต์ทุกรุ่น ประเดิมด้วย “มิราจ ลิมิเต็ด อิดิชั่น” มีให้เลือก 2 สีตัวถังคือ แดงเมทัลลิก และสีขาวมุก โดดเด่นด้วยการตัดกับหลังคาสีดำ พร้อมเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่ง 10 รายการ ไล่ตั้งแต่ กระจกมองข้างสีดำพร้อมไฟเลี้ยวแอลอีดี สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบแอลอีดี ล้ออัลลอยสีดำขนาด 15 นิ้ว และตกแต่งด้วยสติกเกอร์ลายกราฟิก

ภายในใช้เบาะผ้าสีทูโทน ดำ-แดงพร้อมตะเข็บสีแดง หัวเกียร์และพวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งเสริมเพิ่มความเป็นสปอร์ตด้วยสีดำแบล็กเปียโนและโครเมียม เดินตะเข็บสีแดง มาพร้อมกระจกส่องหน้าบนแผงบังแดดคู่หน้า และราวมือจับเหนือศีรษะ 3 ตำแหน่งแบบพับได้ ส่วนเครื่องยนต์ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร กับเบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่วนราคาตัวถังสีแดงเมทัลลิก 5.64 แสนบาท สีขาวมุก 5.71 แสนบาท

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-2 นั่นเป็นการขยับดอกแรกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในช่วงต้นปีปฏิทิน 2561 หรือเดือนมีนาคมที่เป็นเดือนสุดท้ายของงบประมาณปี 2560 เชื่อว่าทุกค่ายรถยนต์จะอัดงบสนับสนุนการขายอย่างเต็มที่ สอดคล้องกับบรรดาดีลเลอร์ต่างพยายามปิดตัวเลขให้ได้ตามเป้า

ด้านมิตซูบิชิ ยังเน้นแคมเปญ “5 ปี ดูแลดีถึงใจ” อย่างลูกค้าที่ซื้อ “มิราจ” ได้ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี และช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. 5 ปี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี พร้อมรับประกันคุณภาพและฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี มูลค่าร่วม 5 หมื่นบาท

ส่วนปาเจโร สปอร์ต เลือกผ่อนในอัตราดอกเบี้ย 0.99% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1ปี หรือเลือกดอกเบี้ย 1.99% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 3 ปีก็ได้ เมื่อรวมกับแคมเปญ 5 ปีตัวอื่นๆ ก็มีมูลค่าประมาณ 1.2 แสนบาท

นอกจากเงินสนับสนุนด้านการขาย ที่มิตซูบิชิจัดหนักเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ปีนี้ยังเพิ่มเงิน“ควอลิตีโบนัส”ให้โชว์รูมที่พัฒนาจนผ่านตามมาตรฐานอันเข้มงวด ทั้งงานขาย บริการหลังการขาย การวัดความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งหมายรวมถึง ความสะอาด และความทันสมัยของโชว์รูม การดูแลลูกค้า การติดตาม และการบันทึกข้อมูลลูกค้าเข้าระบบออนไลน์

โดยปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิ ให้“ควอลิตีโบนัส” แก่ดีลเลอร์ที่ทำตัวดี 1 หมื่นบาทต่อการขายรถ 1 คัน แต่ปีนี้ปรับเพิ่มเป็น 1.4 หมื่นบาทต่อคัน ซึ่งโบนัสดังกล่าวจะจ่ายตามยอดขายจริงทุกๆ 6 เดือน

“เราพยายามเพิ่มความพอใจของลูกค้าด้วยการพัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์ อาทิ ปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการ ส่วนซอฟต์แวร์ มีการพัฒนาตัวแทนจำหน่ายทั้งก่อนและหลังการขาย” นายโมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า

ปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิได้พัฒนาตัวแทนจำหน่ายทั้งก่อนและหลังการขาย ดังนั้นในปีนี้ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง พร้อมการลงทุน 200 ล้านบาท ในการเปิดศูนย์ฝึกอบรม “Education Academy” ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 10 ไร่ ย่านลำลูกกา

“ขณะที่โชว์รูมและศูนย์บริการจะพัฒนาและปรับโฉม พร้อมทั้งเปิดเพิ่มจากปัจจุบันที่มี 217 แห่ง และปีนี้จะเพิ่มเป็น 230 แห่ง จากนั้นภายใน 3 ปี จะขยายเป็น 250 แห่งทั่วประเทศ” นายชกกิ สรุป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว