มุมมองเมืองไทยประกันชีวิต Disrupt...โอกาสและความท้าทาย
ในวิกฤติ มักมีโอกาสซ่อนอยู่...มันคือความจริงที่ “สาระ ลํ่าซำ” กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) พูดอยู่เสมอ
ขณะที่หลายๆ ธุรกิจกำลังถูกโลกยุคใหม่ Disruptive ธุรกิจประกัน ก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่หนีไม่พ้น เมืองไทยประกันชีวิตต้องมองหาโปรดักต์ใหม่ๆ บริการใหม่ๆ เพื่อสื่อสารและเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภค “สาระ” บอกว่า เขาถูก Disrupt โดยโลกปัจจุบัน (current world) และโลกอนาคต (tomorrow world) ที่มาเร็วมาก
[caption id="attachment_267482" align="aligncenter" width="372"]
สาระ ลํ่าซำ[/caption]
ความเสียเปรียบของผู้ประกอบการธุรกิจประกันคือ ประกันชีวิต ไม่มีใครเดินมาซื้อ ประกันต้องขายตัวเองให้ได้ ในขณะนี้ที่โลกยุคปัจจุบัน เป็นโลกของคอนซูเมอร์ เขาจะทำอย่างไร ให้สามารถขายโปรดักต์ได้ถูกใจลูกค้า ซึ่งเขามองว่า คนที่คิดหาทางออก หรือมองเห็นช่องโหว่ ที่สามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้คือ บรรดานักคิดสตาร์ตอัพทั้งหลาย
เมืองไทยประกันชีวิต จึงเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน โครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท โครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ที่จัดขึ้นมาเป็นปีที่ 6
“สาระ” ยอมรับว่า เมื่อก่อนเขามองว่า สตาร์ตอัพคือคนที่จะเข้ามา Disrupt ธุรกิจของประกันชีวิต แต่หลังจากเขาได้เจอกับผู้บริหาร Health at Home ผู้ผลิตแอพพลิเคชัน Home care solution ให้ผู้สูงอายุ หรือ ผู้ป่วยสามารถพักฟื้นที่บ้านได้ ทำให้เขามองเห็นโอกาส ทีมผู้ผลิต Health at Home ได้นำเรื่องของสังคมผู้สูงอายุ (aging society) ที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองไทย มาพัฒนา สร้างแอพพลิเคชันขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการดูแลผู้สูงอายุได้ถึงบ้าน
จากไอเดีย และแอพพลิเคชันนี้ ทำให้ผู้บริหารเมืองไทยประกันชีวิต มองเห็นว่า นี่คือ โอกาสที่จะเติมเต็ม และตอบโจทย์ พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับเมืองไทยประกันชีวิตอีกครั้ง
“Disrupt เป็นเรื่องของโอกาส ไม่ใช่เแค่เรื่องของความท้าทายเพียงอย่างเดียว มันคือโอกาสที่ทำให้เมืองไทยประกันชีวิต มีมูลค่าเพิ่มในบริการประกันชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องกรมธรรม์”
จากไอเดียใหม่ๆ และการเข้ามาสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมสตาร์ตอัพ ทำให้ “สาระ” ได้ไอเดียที่ว่า การทำธุรกิจต้องมองไปข้างนอก ต้องมองไปที่ไลฟ์สไตล์ของคน การพัฒนาธุรกิจของเขา จะไม่ได้หยุดอยู่แค่โปรดักต์เดิมๆ แต่จะเป็นทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคน ที่เขาสามารถนำมาพัฒนาและสร้างเป็นโปรดักต์ใหม่ๆ ให้กับประกันชีวิตได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561
ขณะที่หลายๆ ธุรกิจกำลังถูกโลกยุคใหม่ Disruptive ธุรกิจประกัน ก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่หนีไม่พ้น เมืองไทยประกันชีวิตต้องมองหาโปรดักต์ใหม่ๆ บริการใหม่ๆ เพื่อสื่อสารและเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภค “สาระ” บอกว่า เขาถูก Disrupt โดยโลกปัจจุบัน (current world) และโลกอนาคต (tomorrow world) ที่มาเร็วมาก
[caption id="attachment_267482" align="aligncenter" width="372"]
ความเสียเปรียบของผู้ประกอบการธุรกิจประกันคือ ประกันชีวิต ไม่มีใครเดินมาซื้อ ประกันต้องขายตัวเองให้ได้ ในขณะนี้ที่โลกยุคปัจจุบัน เป็นโลกของคอนซูเมอร์ เขาจะทำอย่างไร ให้สามารถขายโปรดักต์ได้ถูกใจลูกค้า ซึ่งเขามองว่า คนที่คิดหาทางออก หรือมองเห็นช่องโหว่ ที่สามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้คือ บรรดานักคิดสตาร์ตอัพทั้งหลาย
เมืองไทยประกันชีวิต จึงเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน โครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท โครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ที่จัดขึ้นมาเป็นปีที่ 6
“สาระ” ยอมรับว่า เมื่อก่อนเขามองว่า สตาร์ตอัพคือคนที่จะเข้ามา Disrupt ธุรกิจของประกันชีวิต แต่หลังจากเขาได้เจอกับผู้บริหาร Health at Home ผู้ผลิตแอพพลิเคชัน Home care solution ให้ผู้สูงอายุ หรือ ผู้ป่วยสามารถพักฟื้นที่บ้านได้ ทำให้เขามองเห็นโอกาส ทีมผู้ผลิต Health at Home ได้นำเรื่องของสังคมผู้สูงอายุ (aging society) ที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองไทย มาพัฒนา สร้างแอพพลิเคชันขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการดูแลผู้สูงอายุได้ถึงบ้าน
“Disrupt เป็นเรื่องของโอกาส ไม่ใช่เแค่เรื่องของความท้าทายเพียงอย่างเดียว มันคือโอกาสที่ทำให้เมืองไทยประกันชีวิต มีมูลค่าเพิ่มในบริการประกันชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องกรมธรรม์”
จากไอเดียใหม่ๆ และการเข้ามาสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมสตาร์ตอัพ ทำให้ “สาระ” ได้ไอเดียที่ว่า การทำธุรกิจต้องมองไปข้างนอก ต้องมองไปที่ไลฟ์สไตล์ของคน การพัฒนาธุรกิจของเขา จะไม่ได้หยุดอยู่แค่โปรดักต์เดิมๆ แต่จะเป็นทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคน ที่เขาสามารถนำมาพัฒนาและสร้างเป็นโปรดักต์ใหม่ๆ ให้กับประกันชีวิตได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561
