เว็บไซต์ของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสแถลงการณ์ยอมรับเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีในย่านธุรกิจกลางกรุงจาการ์ตา นครหลวงของอินโดนีเซีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 รายเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา โดยแถลงการณ์ชี้เป้าหมายการโจมตีมุ่งไปที่ชาวต่างชาติในอินโดฯ นักวิเคราะห์หวั่นกระแสโจมตีกลายเป็นเรื่องปกติ คือเครือข่ายไอซิสในแต่ละประเทศลงมือตามสะดวก โดยมีฐานบัญชาการที่ซีเรีย
โฆษกตำรวจของอินโดนีเซียแถลงว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อประมาณเวลา 10.55 น.ของวันที่ 14 มกราคม โดยเกิดระเบิดขึ้นครั้งแรกใกล้ๆร้านกาแฟสตาร์บัคส์บนถนนธัมรินซึ่งเป็นย่านธุรกิจ เป็นถนนสายบันเทิงและเป็นแหล่งช็อปปิ้งสำคัญของกรุงจาการ์ตาที่เต็มไปด้วยเชนร้านค้าแบรนด์เนมจากประเทศตะวันตก จากนั้นผู้ก่อการร้าย 2 คนได้จับตัวประกัน 2 คนบริเวณด้านนอกร้าน ลากเข้าไปในบริเวณที่จอดรถแล้วจ่อยิงจนเสียชีวิต จากนั้นก็กราดยิงผู้คนบนท้องถนน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าล้อมพื้นที่ได้มีการยิงต่อสู้กัน โดยผู้ก่อการร้ายได้ขว้างระเบิดมือ 2 ลูกเข้าใส่กลุ่มตำรวจด้วย ขณะเดียวกันมีผู้ก่อการร้ายอีก 2 คนขับมอเตอร์ไซค์มายังป้อมตำรวจในบริเวณใกล้เคียงและถอดสลักระเบิดพลีชีพ บ็อบ เบเยอร์ นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงภายในของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้กับเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า มีความคล้ายกันตรงที่ผู้ก่อการร้ายคือกลุ่มไอซิสและเลือกโจมตีหลายสถานที่ในเวลาเดียวกัน แตกต่างกันที่จำนวนผู้เสียชีวิตที่ในเหตุการณ์โจมตีปารีสมีผู้เสียชีวิตถึง 130 คน แต่ที่อินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิต 2 คนเป็นชาวต่างชาติ 1 คนและชาวอินโดนีเซีย 1 คน ส่วนผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต 5 คน
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งแรกในกรุงจาการ์ตานับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ซึ่งในครั้งนั้นผู้ก่อการร้ายได้โจมตีโรงแรมใหญ่ 2 แห่งในเวลาเดียวกัน คือโรงแรมเจดับบลิว แมริออท และริทซ์ คาร์ลตัน มีผู้เสียชีวิต 7 คน ทำให้หลังจากนั้นมารัฐบาลอินโดนีเซียซึ่งในจำนวนประชากร 225 ล้านคนนั้น เป็นชาวมุสลิมราว 87 % จำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มข้นปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายภายในประเทศ
นายสัจจัน โกเฮล ผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิ Asia-Pacific Foundation ให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องน่าวิตกที่สุดท้ายแล้วก็มีเหตุการณ์โจมตีแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอีก 1 ประเทศที่อยู่ในอีกซีกโลก "เราเริ่มกลัวกันแล้วว่า เหตุการณ์แบบนี้จะกลายมาเป็นเรื่องปกติเรื่องใหม่ที่เราต้องยอมรับกันนั่นคือเครือข่ายกลุ่มไอซิสจะก่อเหตุโจมตีอย่างเป็นอิสระโดยมีฐานบัญชาการอยู่ที่ซีเรีย"
โฆษกตำรวจอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งเตือนในระดับความระวังภัยสูงสุด ว่ามีชาวอินโดนีเซียฝักใฝ่ไอซิสจำนวนหนึ่งซึ่งเข้าไปสู้รบในประเทศซีเรียและอิรัก กำลังจะเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด ซึ่งบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมทางการทหารและมีประสบการณ์การสู้รบติดตัวกลับมาด้วย ขณะเดียวกันอินโดนีเซียเองก็มีภารกิจในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายมูจาฮาดีนที่มีแหล่งอิทธิพลอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศ กลุ่มดังกล่าวมีนายซานโตโซ เป็นผู้นำและเป็นผู้ก่อการร้ายที่ทางการอินโดนีเซียต้องการตัวมากที่สุด นอกจากนี้ นายซานโตโซยังเคยประกาศให้ความสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายไอซิสด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,123 วันที่ 17 - 20 มกราคม พ.ศ. 2559