2 พรรคใหญ่ มั่นใจเลือกตั้ง ก.พ. 62
2 พรรคใหญ่ “ปชป.-ภูมิใจไทย” มั่นใจเลือกตั้งก.พ.62 ตามโรดแมปนายกฯ เชื่อชงศาลตีความกฎหมายส.ว.ไร้ผล “อภิสิทธิ์” ต้านนายกฯคนนอก “อนุทิน” ขอรอดูผลเลือกตั้ง ขณะแจ้งตั้งพรรคใหม่ยอดพุ่ง 55 กลุ่ม
หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างพ.ร.บ.การได้มาซึ่งวุฒิสภา (ส.ว.) 2 ฉบับ ตามที่คณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายปรับแก้ ทำให้เกิดความมั่นใจต่อบรรดาพรรคการเมืองว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2561
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวตอนหนึ่งในวงเสวนา CLSA Asean Forum 2018 : The Future of Thai politics : Election Ahead” หรือ “การเลือกตั้งไทยในอนาคต” โดยแสดงความมั่นใจว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศไว้ แม้จะมีการเปิดช่องทางให้สามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ แต่เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการตามกรอบเวลา 90 วัน ซึ่งคาดว่ากฎหมายที่จะถูกส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคือ กฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว.
[caption id="attachment_267155" align="aligncenter" width="503"]
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)[/caption]
ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) จะจัดตั้งพรรคการเมืองจะเป็นการแย่งฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ กังวล เพราะถือเป็นสิทธิ์ของทุกคนที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองได้ แต่ยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะคนของ กปปส.ก็เป็นส่วนหนึ่งในฐานเดียวของพรรค ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองจะสนับสนุนนายกฯ คนนอกนั้น ตนไม่กังวล แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่เคยปฏิเสธ หรือยอมรับว่ามีพรรค การเมืองเสนอชื่อ
ต่อกรณีระหว่าง 3 พรรค การเมือง (ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ภูมิใจไทย) จะมีโอกาสจับมือกันเพื่อป้องกันนายกฯ คนนอกหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรคต่างมีจุดยืนของตัวเอง ซึ่งบางจุดยืนของแต่ละพรรคก็มีโอกาสตรงกันได้ ยืนยันว่าไม่ใช่การจับมือ หรือบางคนอาจกล่าวหาว่าเป็นการสมคบคิดกันซึ่งไม่ใช่
นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนไม่แปลกใจกับพรรคใหม่ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯ ขณะเดียวกันยังมองไม่เห็นศักยภาพของพรรคการเมืองที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นหากพล.อ.ประยุทธ์ จะมาเป็นนายกฯ ต่อ ก็เชื่อว่าจะต้องหาวิธีอื่น หรือใช้ช่องทางพิเศษในกระบวนการกฎหมาย หรือการ กระทำใดที่ทำให้พรรคการเมืองเดิมอ่อนแอ จนต้องสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ซับซ้อน แต่ก็จะต้องรอดูต่อไป ส่วนพรรคเพื่อไทยยืน ยันชัดเจนว่า ไม่สนับสนุนนายกฯ คนนอก และมั่นใจว่าชื่อของพล.อ. ประยุทธ์ จะไม่อยู่ในบัญชี 3 รายชื่อนายกฯของพรรค
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แสดงความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ประ กาศยืนยันโรดแมปไว้ และผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้วัดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมวิปสนช.เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยในกรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญมีความเป็นห่วงร่างพ.ร.บ.การได้ มาซึ่ง ส.ว.อาจขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ที่ประชุมจึงได้มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หลังสนช.มีมติให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว โดยต้องรวบรวมรายชื่อสมาชิก 1 ใน 10 หรือ 25 คน เพื่อให้ประธานสนช.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ
ด้านความเคลื่อนไหวการเปิดให้จดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ถือเป็นวันที่ 6 ปรากฏว่า มีกลุ่มการเมืองเข้าแจ้งขอตั้งพรรคเพิ่มคือ กลุ่มนายสุรพจน์ เพชรกรรพุม ขอตั้งพรรคเพื่อฅนไทย, นายสมัคร พรมวาด ขอตั้งพรรคภูมิพลังเกษตรไทย, นายพิเชษฐ สถิรชวาล ขอตั้งพรรคประชาธรรมไทย, นายอนุชิต งามพัฒนพงศ์ชัย ขอจัดตั้งพรรคมติประชา และนางสาวรัชฎาภรณ์ ธารธนศักดิ์ ขอตั้ง พรรคไทยสาธุชน เบื้องต้นแจ้ง ตั้งพรรคแล้ว 55 พรรค
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,347 วันที่ 11 - 14 มีนาคม พ.ศ. 2561
หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างพ.ร.บ.การได้มาซึ่งวุฒิสภา (ส.ว.) 2 ฉบับ ตามที่คณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายปรับแก้ ทำให้เกิดความมั่นใจต่อบรรดาพรรคการเมืองว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2561
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวตอนหนึ่งในวงเสวนา CLSA Asean Forum 2018 : The Future of Thai politics : Election Ahead” หรือ “การเลือกตั้งไทยในอนาคต” โดยแสดงความมั่นใจว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศไว้ แม้จะมีการเปิดช่องทางให้สามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ แต่เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการตามกรอบเวลา 90 วัน ซึ่งคาดว่ากฎหมายที่จะถูกส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคือ กฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว.
[caption id="attachment_267155" align="aligncenter" width="503"]
ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) จะจัดตั้งพรรคการเมืองจะเป็นการแย่งฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ กังวล เพราะถือเป็นสิทธิ์ของทุกคนที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองได้ แต่ยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะคนของ กปปส.ก็เป็นส่วนหนึ่งในฐานเดียวของพรรค ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองจะสนับสนุนนายกฯ คนนอกนั้น ตนไม่กังวล แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่เคยปฏิเสธ หรือยอมรับว่ามีพรรค การเมืองเสนอชื่อ
ต่อกรณีระหว่าง 3 พรรค การเมือง (ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ภูมิใจไทย) จะมีโอกาสจับมือกันเพื่อป้องกันนายกฯ คนนอกหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรคต่างมีจุดยืนของตัวเอง ซึ่งบางจุดยืนของแต่ละพรรคก็มีโอกาสตรงกันได้ ยืนยันว่าไม่ใช่การจับมือ หรือบางคนอาจกล่าวหาว่าเป็นการสมคบคิดกันซึ่งไม่ใช่
นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนไม่แปลกใจกับพรรคใหม่ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯ ขณะเดียวกันยังมองไม่เห็นศักยภาพของพรรคการเมืองที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นหากพล.อ.ประยุทธ์ จะมาเป็นนายกฯ ต่อ ก็เชื่อว่าจะต้องหาวิธีอื่น หรือใช้ช่องทางพิเศษในกระบวนการกฎหมาย หรือการ กระทำใดที่ทำให้พรรคการเมืองเดิมอ่อนแอ จนต้องสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ซับซ้อน แต่ก็จะต้องรอดูต่อไป ส่วนพรรคเพื่อไทยยืน ยันชัดเจนว่า ไม่สนับสนุนนายกฯ คนนอก และมั่นใจว่าชื่อของพล.อ. ประยุทธ์ จะไม่อยู่ในบัญชี 3 รายชื่อนายกฯของพรรค
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แสดงความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ประ กาศยืนยันโรดแมปไว้ และผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้วัดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะเป็นอย่างไร
ด้านความเคลื่อนไหวการเปิดให้จดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ถือเป็นวันที่ 6 ปรากฏว่า มีกลุ่มการเมืองเข้าแจ้งขอตั้งพรรคเพิ่มคือ กลุ่มนายสุรพจน์ เพชรกรรพุม ขอตั้งพรรคเพื่อฅนไทย, นายสมัคร พรมวาด ขอตั้งพรรคภูมิพลังเกษตรไทย, นายพิเชษฐ สถิรชวาล ขอตั้งพรรคประชาธรรมไทย, นายอนุชิต งามพัฒนพงศ์ชัย ขอจัดตั้งพรรคมติประชา และนางสาวรัชฎาภรณ์ ธารธนศักดิ์ ขอตั้ง พรรคไทยสาธุชน เบื้องต้นแจ้ง ตั้งพรรคแล้ว 55 พรรค
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,347 วันที่ 11 - 14 มีนาคม พ.ศ. 2561
