"บอร์ดดิจิทัล" ขีดเส้นใน 6 เดือน! เลิกใช้สำเนาบัตรติดต่อราชการ

09 มี.ค. 2561 | 14:02 น.
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 61 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 1/2561 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

นายกฯ ย้ำในที่ประชุมว่า แนวทางขับเคลื่อนประเทศ ทั้งส่วนราชการ ภาคธุรกิจ ประชาชน ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านการบูรณาการการทำงาน และมีการเชื่อมโยงข้อมูลซึ่งกันและกัน และต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีการกำหนดโรดแมปที่ชัดเจนในแต่ละขั้น การใช้ดิจิทัลจะเป็นเครื่องมือที่ดีในการตรวจสอบและสร้างความโปร่งใส ในการบริหารราชการที่รวดเร็ว อำนวยความสะดวก และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และภาคส่วนต่าง ๆ มากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการประชุมเห็นชอบให้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด ได้แก่ 1.อนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลด้านการบริการประชาชน เพื่อพัฒนาระบบการให้บริการประชาชนด้วยดิจิทัล เพื่อให้เกิดเป็นบริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) 2.อนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรภายในองค์กรภาครัฐ 3.อนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ด้านการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อการตัดสินใจอย่างมีคุณภาพ เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลที่ใช้ในการวางแผน และตัดสินใจของผู้กำหนดนโยบายประเทศ รวมทั้งติดตามประเมินผลการดำเนินงานทุกระดับและทุกมิติ และ4.อนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ด้านความมั่นคงปลอดภัยในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลภาครัฐ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลภาครัฐที่มีความมั่นคงปลอดภัย ทั้งนี้ แต่ละชุดจะเป็นรูปแบบของการทำงานอย่างรวดเร็ว และได้รับผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ให้หารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

สำหรับมาตรการเร่งด่วนที่ดำเนินการได้ทันทีและจะเห็นผลใน 3 เดือน จะมีระบบที่สามารถวิเคราะห์และแสดงความสัมพันธ์ และความซ้ำซ้อนของนโยบายต่าง ๆ และใน 6 เดือน ภาครัฐจะเลิกเรียกสำเนาเอกสารจากประชาชน เมื่อต้องมีการติดต่อหน่วยงานรัฐ เพื่อลดภาระประชาชน อาทิเช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น และใน 1 ปี จะมีระบบบริหารทรัพยากรภายในองค์กรภาครัฐให้มีการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานรัฐทั้งประเทศ และมีมาตรฐานการเชื่อมโยงเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐกับภาครัฐและเอกชนที่มีความมั่นคงปลอดภัยทั้งรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม นายกฯ มีแนวคิดว่าด้วยว่า เนื่องจากแต่ละกระทรวงมีการทำงานบริหารเป็นของตนเอง ขอให้คณะกรรมการชุดนี้ เป็นคณะกรรมการกลางในการเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลที่ไม่ใช่ชั้นความลับ หรือข้อมูลขนาดใหญ่ รวมทั้งจำแนกรูปแบบการทำงานที่สร้างความโปร่งใสอย่างแท้จริง โดยให้มีการศึกษารูปแบบและแนวทางจากต่างประเทศประกอบด้วย โดยคำนึงถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ลดภาระทั้งในแง่ของค่าใช้จ่ายและระยะเวลาของประชาชนด้วยระบบดิจิทัลเป็นหลัก และให้มีช่องทางการสื่อสาร การเชื่อมต่อให้ประชาชน และสาธารณชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว