KTISควง GGCโรดโชว์ญี่ปุ่นเสียงตอบรับไบโอคอมเพล็กซ์ดีเกินคาด

09 มี.ค. 2561 | 04:48 น.
ผู้บริหารกลุ่ม KTIS ควง GGC ออกเชิญชวนนักลงทุนทั่วโลกร่วมโครงการไบโอคอมเพล็กซ์ เริ่มจากประเทศญี่ปุ่น เผยเสียงตอบรับดีเกินคาด มั่นใจเมื่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับเรียบร้อย นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุน สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย ทั้งจะมีการจ้างแรงงานเพิ่ม และเสริมสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เผยว่า โครงการไบโอคอมเพล็กซ์ (Biocomplex) ที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเกิดจากการร่วมลงทุนของ 2 ฝ่ายคือกลุ่ม KTIS และ GGC (บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล) ฝ่ายละเท่าๆ กัน คือร้อยละ 50 ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบทางวิศวกรรมขั้นสุดท้าย เพื่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับโครงการในเฟสที่ 1 และเฟสที่ 2บนพื้นที่โครงการรวมประมาณ 2,000 ไร่ โดยใช้สำหรับเฟส 1 ประมาณ 1,000 ไร่

ktis

“โครงการนี้ไม่ได้มีเฉพาะโรงงานของกลุ่ม KTIS และ GGC แต่จะมีโรงงานผลิตภัณฑ์ชีวภาพของผู้ลงทุนอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศที่เข้ามาใช้ระบบสาธารณูปโภคของโครงการ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในเฟสแรกคือเอทานอล ไอน้ำ และไฟฟ้า ในการสร้างผลิตภัณฑ์ต่อยอดอื่นๆ ดังนั้น ผู้บริหารและทีมงานของ KTIS และ GGC จึงได้เดินทางไปแนะนำโครงการไบโอคอมเพล็กซ์เพื่อเชิญชวนนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุน โดยประเทศแรกที่ไปคือประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากเกินความคาดหมาย” นายณัฎฐปัญญ์ กล่าว

ทั้งนี้ จุดเด่นของโครงการไบโอคอมเพล็กซ์ที่จังหวัดนครสวรรค์คือ ตั้งอยู่ในแหล่งศูนย์กลางวัตถุดิบหลักคืออ้อย มีผลิตภัณฑ์ตั้งต้นอย่างเอทานอล พลังงานไฟฟ้าและไอน้ำจากเชื้อเพลิงชีวมวล ที่สามารถส่งเข้าโรงงานอื่นที่จะเข้ามาตั้งในไบโอคอมเพล็กซ์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร ทำให้มีความสะดวกในการขนส่งผลิตภัณฑ์ชีวภาพไปยังพื้นที่ต่างๆ ในประเทศ รวมทั้งส่งออกไปต่างประเทศด้วย

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

“โครงการไบโอคอมเพล็กซ์ที่จะเกิดขึ้นที่จังหวัดนครสวรรค์นี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับเศรษฐกิจของไทย เพราะที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความได้เปรียบทางด้านวัตถุดิบทางการเกษตรและความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ออกมานั้นยังเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นพื้นฐานซึ่งมีมูลค่าค่อนข้างต่ำ โครงการไบโอคอมเพล็กซ์ ซึ่งอยู่ภายใต้แนวนโยบายการสร้างเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) เป็นโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ต่อยอดที่มีมูลค่าสูงขึ้น จะส่งผลให้มูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศสูงขึ้นด้วย รายได้ของเกษตรกรก็จะสูงขึ้น เกษตรกรจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โครงการลงทุนต่างๆ จะก่อให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ชุมชนใกล้เคียงก็จะมีเศรษฐกิจและสภาพความเป็นอยู่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน”

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว