'สมคิด' จี้! เเก้สนามบินเเน่นให้จบใน 3 เดือน เเนะหาพื้นที่ใหม่สร้าง 2 เเอร์พอร์ตในเชียงใหม่/ภูเก็ต
รองนายกฯ ‘สมคิด’ จี้! ทอท. ทำแผนระยะสั้นแก้ปัญหาสนามบินแออัดในช่วง 3 เดือนนี้ ทั้งให้มองสร้าง 2 สนามบินใหม่ รับดีมานต์ผู้โดยสาร เหตุสนามบินภูเก็ตและเชียงใหม่มีข้อจำกัดของพื้นที่ ด้าน ทอท. เล็งชง 1.2 แสนล้านบาท ชงบอร์ด พ.ค. นี้ ลงทุนสนามบินใหม่ที่พังงาและลำพูน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการเดินทางมามอบนโยบายแก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ว่า การทำงานของ ทอท. ในช่วงที่ผ่านมาถือว่า ทำงานให้รัฐบาลได้ดี เป็นบริษัทที่มีผลประกอบการดี แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากจำนวนผู้โดยสารมาไทยสูงมากเกินเป้ากว่าที่คาดไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค แต่เราก็ต้องรักษาการให้บริการของสนามบินให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมจึงได้มาร่วมหารือถึงการให้ ทอท. เร่งแก้ไขปัญหาความแออัดของสนามบิน ซึ่งการลงทุนขยายสนามบินก็ดำเนินการเร่งลงทุนให้แล้วเสร็จไปตามแผนที่วางไว้อยู่แล้ว เช่น การขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 ที่ก็ต้องใช้เวลา แต่ ทอท. ก็ต้องมีแผนระยะสั้น 3-4 เดือน ว่า จะระบายการแออัดในสนามบินต่าง ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้อย่างไร
เช่น การเพิ่มบุคลากร การเพิ่มออโต เกต ในสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนสนามบินดอนเมือง ก็ให้เร่งขยายการลงทุนในเฟส 3 สนามบินเชียงใหม่ ที่ให้ไปดูเรื่องการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพิ่มขึ้น รวมถึงการตัดสินใจสร้างสนามบินแห่งที่ 2 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเชียงใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่สนามบินภูเก็ต ปัจจุบันมี 1 รันเวย์ มีข้อจำกัดในการขยายในอนาคต ก็ให้ ทอท. ไปดูการสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ในพื้นที่ ซึ่ง ครม. ก็จะช่วยดูตรงนี้ให้
นอกจากนี้ ยังมองถึงการจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 35 ล้านคนที่เดินทางมาไทย กระจายไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ด้วย จึงให้ ทอท. ไปหารือกับกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ถึงการให้ ทอท. รับบริหารสนามบิน ซึ่งหนึ่งในจะต้องมีสนามบินหัวหินหรือสนามบินชุมพร เนื่องจากรัฐบาลกำลังโปรโมทโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า
ด้าน นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เผยว่า หลังจากนี้ ทอท. จะทำเรื่องเสนอบอร์ด ทอท. ถึงแผนการแก้ไขปัญหาความแอัดของสนามบินสุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ภูเก็ต ซึ่งเป็นแผนแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนในช่วง 3 เดือน รวมไปถึงแผนการลงทุนสร้าง 2 สนามบินใหม่ ในภาคเหนือ และภาคใต้ ที่คาดว่าจะเสนอบอร์ดพิจารณาได้ภายในเดือน พ.ค. นี้ โดยมองไว้ว่าทั้ง 2 สนามบิน จะรองรับผู้โดยสารได้แห่งละ 10 ล้านคนต่อปี ความยาวรันเวย์น่าจะอยู่ที่ราว 3,600-4,000 เมตร โดย ทอท. มีพื้นที่ซึ่งได้เลือกไว้แล้ว แต่พร้อมจะเปิดเผยได้หลังเข้าบอร์ด เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการเกร็งกำไรราคาที่ดิน ซึ่งจากการประมาณการเบื้องต้น คาดว่าสนามบินใหม่ที่ภูเก็ต จะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท สถานที่ที่มองไว้อยู่เลยสะพานสารสินข้ามไปยัง จ.พังงา ซึ่งก็ไม่ห่างจากสนามบินภูเก็ต โดย ทอท. มองไว้ว่า สนามบินแห่งใหม่นี้จะใช้รองรับกสรให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ ส่วนสนามบินภูเก็ตที่เปิดให้บริการอยู่ก็จะให้บริการเฉพาะเที่ยวบินระหว่างประเทศ ส่วนสนามบินแห่งใหม่ ในภาคเหนือก็คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 5 หมื่นล้านบาท
ส่วนการบริหารสนามบินของ ทย. ก็จะต้องไปหารือและประสานงานกันต่อไป ซึ่งนอกจากสนามบินอุดรธานี สนามบินตาก ที่มีการหารือเบื้องต้นไปแล้ว ก็อาจต้องเพิ่มหัวหินหรือชุมพร ตามนโยบายไทยแลนด์ริเวียร่าของรัฐบาล ซึ่งโมเดลการโอนสนามบินมีหลายโมเดล แต่หากจะอิงโมเดลที่ ทอท. ใช้ในปัจจุบัน คือ ทย. จะโอนไปให้กรมธนารักษ์ และ ทอท. จะไปเช่าจากธนารักษ์อีกทีหนึ่ง
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจาก ทอท. เผยว่า พื้นที่ในการสร้าง 2 สนามบินใหม่ของ ทอท. จะเป็น 2 พื้นที่ ที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้จัดทำโรดแม็บไว้ ซึ่งในส่วนของภาคใต้ จะอยู่ที่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ส่วนภาคเหนือ กพท. แนะไว้ 2 พื้นที่ คือ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งสนามบินแห่งใหม่ที่ ทอท. จะลงทุนดูไว้ที่บ้านธิ จ.ลำพูน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการเดินทางมามอบนโยบายแก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ว่า การทำงานของ ทอท. ในช่วงที่ผ่านมาถือว่า ทำงานให้รัฐบาลได้ดี เป็นบริษัทที่มีผลประกอบการดี แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากจำนวนผู้โดยสารมาไทยสูงมากเกินเป้ากว่าที่คาดไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค แต่เราก็ต้องรักษาการให้บริการของสนามบินให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมจึงได้มาร่วมหารือถึงการให้ ทอท. เร่งแก้ไขปัญหาความแออัดของสนามบิน ซึ่งการลงทุนขยายสนามบินก็ดำเนินการเร่งลงทุนให้แล้วเสร็จไปตามแผนที่วางไว้อยู่แล้ว เช่น การขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 ที่ก็ต้องใช้เวลา แต่ ทอท. ก็ต้องมีแผนระยะสั้น 3-4 เดือน ว่า จะระบายการแออัดในสนามบินต่าง ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้อย่างไร
เช่น การเพิ่มบุคลากร การเพิ่มออโต เกต ในสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนสนามบินดอนเมือง ก็ให้เร่งขยายการลงทุนในเฟส 3 สนามบินเชียงใหม่ ที่ให้ไปดูเรื่องการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพิ่มขึ้น รวมถึงการตัดสินใจสร้างสนามบินแห่งที่ 2 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเชียงใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่สนามบินภูเก็ต ปัจจุบันมี 1 รันเวย์ มีข้อจำกัดในการขยายในอนาคต ก็ให้ ทอท. ไปดูการสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ในพื้นที่ ซึ่ง ครม. ก็จะช่วยดูตรงนี้ให้
นอกจากนี้ ยังมองถึงการจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 35 ล้านคนที่เดินทางมาไทย กระจายไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ด้วย จึงให้ ทอท. ไปหารือกับกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ถึงการให้ ทอท. รับบริหารสนามบิน ซึ่งหนึ่งในจะต้องมีสนามบินหัวหินหรือสนามบินชุมพร เนื่องจากรัฐบาลกำลังโปรโมทโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า
ด้าน นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เผยว่า หลังจากนี้ ทอท. จะทำเรื่องเสนอบอร์ด ทอท. ถึงแผนการแก้ไขปัญหาความแอัดของสนามบินสุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ภูเก็ต ซึ่งเป็นแผนแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนในช่วง 3 เดือน รวมไปถึงแผนการลงทุนสร้าง 2 สนามบินใหม่ ในภาคเหนือ และภาคใต้ ที่คาดว่าจะเสนอบอร์ดพิจารณาได้ภายในเดือน พ.ค. นี้ โดยมองไว้ว่าทั้ง 2 สนามบิน จะรองรับผู้โดยสารได้แห่งละ 10 ล้านคนต่อปี ความยาวรันเวย์น่าจะอยู่ที่ราว 3,600-4,000 เมตร โดย ทอท. มีพื้นที่ซึ่งได้เลือกไว้แล้ว แต่พร้อมจะเปิดเผยได้หลังเข้าบอร์ด เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการเกร็งกำไรราคาที่ดิน ซึ่งจากการประมาณการเบื้องต้น คาดว่าสนามบินใหม่ที่ภูเก็ต จะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท สถานที่ที่มองไว้อยู่เลยสะพานสารสินข้ามไปยัง จ.พังงา ซึ่งก็ไม่ห่างจากสนามบินภูเก็ต โดย ทอท. มองไว้ว่า สนามบินแห่งใหม่นี้จะใช้รองรับกสรให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ ส่วนสนามบินภูเก็ตที่เปิดให้บริการอยู่ก็จะให้บริการเฉพาะเที่ยวบินระหว่างประเทศ ส่วนสนามบินแห่งใหม่ ในภาคเหนือก็คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 5 หมื่นล้านบาท
ส่วนการบริหารสนามบินของ ทย. ก็จะต้องไปหารือและประสานงานกันต่อไป ซึ่งนอกจากสนามบินอุดรธานี สนามบินตาก ที่มีการหารือเบื้องต้นไปแล้ว ก็อาจต้องเพิ่มหัวหินหรือชุมพร ตามนโยบายไทยแลนด์ริเวียร่าของรัฐบาล ซึ่งโมเดลการโอนสนามบินมีหลายโมเดล แต่หากจะอิงโมเดลที่ ทอท. ใช้ในปัจจุบัน คือ ทย. จะโอนไปให้กรมธนารักษ์ และ ทอท. จะไปเช่าจากธนารักษ์อีกทีหนึ่ง
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจาก ทอท. เผยว่า พื้นที่ในการสร้าง 2 สนามบินใหม่ของ ทอท. จะเป็น 2 พื้นที่ ที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้จัดทำโรดแม็บไว้ ซึ่งในส่วนของภาคใต้ จะอยู่ที่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ส่วนภาคเหนือ กพท. แนะไว้ 2 พื้นที่ คือ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งสนามบินแห่งใหม่ที่ ทอท. จะลงทุนดูไว้ที่บ้านธิ จ.ลำพูน
