"สยยท."ร่อนจม.ถึง"บิ๊กตู่"สอบทุจริตกยท.ลุยประมูลปุ๋ยฉาว
"สยยท." ร่อน จม.เปิดผนึกขอให้ "ประยุทธ์"สอบทุจริต-กยท.ไม่สนเดินหน้าประมูลปุ๋ยฉาว
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยยท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ได้ทำจดหมายเปิดผนึก ลงวันที่ 9 มีนาคม 2561 ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การจัดประมูลปุ๋ยยาง ของ การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) เนื่องจากที่ผ่านมาทาง สยยท.ได้มีหนังสือทักท้วงการดำเนินงานที่เกิดปัญหาต่อเกษตรกรชาวสวนยาง ที่เคยมีปัญหาในการประมูลปุ๋ย ล่าช้า ไม่ตรงกับความต้องการของเกษตรกร จนต้องยื่นหนังสือ ให้ บก.ปป.ให้ตรวจสอบทุจริตปุ๋ย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2560
ซึ่งต่อมาในวันที่ 15 มกราคม 2561 นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ การยางแห่งประเทศไทย( กยท.) จึงได้มีคำสั่งปลดพนักงานจังหวัดพัทลุง จำนวน 6 คน ซึ่งเป็นระดับซี 8 เซ่นสังเวย อย่างไรก็ดี คดีดังกล่าวนี้กำลังดำเนินการสอบสวน คาดว่าจะได้ผลสรุปในเร็วนี้
ในระหว่างการสอบสวนนี้ทางรัฐมนตรี ได้สั่งการให้รัฐมนตรีช่วยที่ดูแลกำกับ ออกคำสั่งให้จ่ายเงินโดยตรงเข้าบัญชีของเกษตรกร โดยไม่ต้องให้ กยท.จัดหาซื้อปุ๋ย หรือ ให้ สำหนักงาน กยท.จังหวัด หรือ กยท.อำเภอ คัดเลือกสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดเข้าร่วมโดยให้สถาบันเกษตรกรเป็นผู้จัดหาปุ๋ย ให้ กยท.จังหวัด กยท.อำเภอ เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการจัดหาประมูลปุ๋ย ของสถาบันเกษตรกร
นายอุทัย กล่าวว่า จากข้อสั่งการดังกล่าว ไม่มีข้อไหน ที่ให้ พ.ร.บ. กยท.หรือ จัดระเบียบให้ กยท. ล่าสุด กยท. ได้ประกาศผู้ชนะ การเสนอราคา การซื้อปุ๋ยเคมีผสม ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 จำนวน 5.37 หมื่นตัน มีทั้งหมด 3 รายที่ชนะการประมูลด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โดยแบ่งเป็น ผู้ที่ชนะสูงสุด เป็นบริษัท ปุ๋ยไวกิ้ง จำกัด เสนอราคาต่ำสุด กว่า 365 ล้านบาท จำนวน 3.04 หมื่นตัน แบ่งเป็นปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 ปุ๋ยไดแอมโมเนียมฟอสเฟต สูตร 18-46-0 ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ สูตร 0-0-60
ผู้ชนะรายที่ 2 บริษัท อัยย์ครอป จำกัด โดยเสนอราคาต่ำสุดเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 173 ล้านบาท เป็นปุ๋ยเคมีผสม สูตร 20-8-20 จำนวน 1.38 หมื่นตัน และผู้ชนะรายที่ 3 ได้แก่ บริษัท ปุ๋ยไวกิ้ง จำกัด เสนอราคาต่ำที่สุดกว่า 74 ล้านบาท ปุ๋ยสูตร 25-8-18 จำนวน 5,725 ตัน
"ทาง สยยท.เห็นว่า ทางผู้บริหาร กยท.ขัดคำสั่ง ทั้งๆ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ. กยท.หมวด 8 การกำกับและควบคุม มาตรา62 ให้รัฐมนตรรีมีอำนาจหน้าที่กำกับโดยทั่วไป ซึ่ง กิจการของ กยท.เพื่อสั่งให้ กยท.ชี้แจงข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็นทำรายงาน กระทำ หรือยับยั้ง การกระทำใดๆ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลหรือมติของคณะรัฐมนตรี ตลอดจนสั่งสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการของ กยท.ได้"
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยยท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ได้ทำจดหมายเปิดผนึก ลงวันที่ 9 มีนาคม 2561 ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การจัดประมูลปุ๋ยยาง ของ การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) เนื่องจากที่ผ่านมาทาง สยยท.ได้มีหนังสือทักท้วงการดำเนินงานที่เกิดปัญหาต่อเกษตรกรชาวสวนยาง ที่เคยมีปัญหาในการประมูลปุ๋ย ล่าช้า ไม่ตรงกับความต้องการของเกษตรกร จนต้องยื่นหนังสือ ให้ บก.ปป.ให้ตรวจสอบทุจริตปุ๋ย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2560
ซึ่งต่อมาในวันที่ 15 มกราคม 2561 นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ การยางแห่งประเทศไทย( กยท.) จึงได้มีคำสั่งปลดพนักงานจังหวัดพัทลุง จำนวน 6 คน ซึ่งเป็นระดับซี 8 เซ่นสังเวย อย่างไรก็ดี คดีดังกล่าวนี้กำลังดำเนินการสอบสวน คาดว่าจะได้ผลสรุปในเร็วนี้
ในระหว่างการสอบสวนนี้ทางรัฐมนตรี ได้สั่งการให้รัฐมนตรีช่วยที่ดูแลกำกับ ออกคำสั่งให้จ่ายเงินโดยตรงเข้าบัญชีของเกษตรกร โดยไม่ต้องให้ กยท.จัดหาซื้อปุ๋ย หรือ ให้ สำหนักงาน กยท.จังหวัด หรือ กยท.อำเภอ คัดเลือกสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดเข้าร่วมโดยให้สถาบันเกษตรกรเป็นผู้จัดหาปุ๋ย ให้ กยท.จังหวัด กยท.อำเภอ เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการจัดหาประมูลปุ๋ย ของสถาบันเกษตรกร
นายอุทัย กล่าวว่า จากข้อสั่งการดังกล่าว ไม่มีข้อไหน ที่ให้ พ.ร.บ. กยท.หรือ จัดระเบียบให้ กยท. ล่าสุด กยท. ได้ประกาศผู้ชนะ การเสนอราคา การซื้อปุ๋ยเคมีผสม ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 จำนวน 5.37 หมื่นตัน มีทั้งหมด 3 รายที่ชนะการประมูลด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โดยแบ่งเป็น ผู้ที่ชนะสูงสุด เป็นบริษัท ปุ๋ยไวกิ้ง จำกัด เสนอราคาต่ำสุด กว่า 365 ล้านบาท จำนวน 3.04 หมื่นตัน แบ่งเป็นปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 ปุ๋ยไดแอมโมเนียมฟอสเฟต สูตร 18-46-0 ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ สูตร 0-0-60
"ทาง สยยท.เห็นว่า ทางผู้บริหาร กยท.ขัดคำสั่ง ทั้งๆ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ. กยท.หมวด 8 การกำกับและควบคุม มาตรา62 ให้รัฐมนตรรีมีอำนาจหน้าที่กำกับโดยทั่วไป ซึ่ง กิจการของ กยท.เพื่อสั่งให้ กยท.ชี้แจงข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็นทำรายงาน กระทำ หรือยับยั้ง การกระทำใดๆ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลหรือมติของคณะรัฐมนตรี ตลอดจนสั่งสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการของ กยท.ได้"
