รถนำเข้า... เรื่องยังไม่จบ!!

อาทิตย์ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวจากฟากฝั่งผู้นำเข้าอิสระมาเป็นระลอกๆ โดยทางชมรมผู้ประกอบการรถยนต์นำเข้าอิสระ นำโดย “ชัชวัฏ สุวรรณโณชิน” ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในกรณีที่กรมศุลกากร ได้เปลี่ยนแปลงราคาส่วนลดการตลาดนำเข้ารถหรู ทั้งขอความช่วยเหลือเพื่อ นำรถออกจากท่าเรือ หลังจากมีการกักรถไว้นานกว่า 7 เดือน

งานนี้ก็ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆหลังจากทางชมรมยื่นหนังสือช่วงเช้า ในช่วงเย็นทางสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ นำโดยนายกสมาคม“สมศักดิ์ ศรีรัตน-ประภาส” ที่ก่อนหน้านั้นได้เข้าไปพูดคุยกับทางกระทรวงการคลัง ก็ออกมาแถลงการณ์ว่า

“กลุ่มที่ไปยื่นเรื่องในวันนี้ กับสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ถือว่าอยู่คนละกลุ่มกัน ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด และแม้ว่าปัญหาหรือจุดมุ่งหมายที่ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหมือนกัน แต่ในแง่แนวทางปฏิบัติแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยทางสมาคม มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะใช้การร่วมเจรจาสร้างความรู้ความเข้าใจกับหน่วยงานรัฐเป็นหลัก เพื่อกำหนดทิศทางและนโยบายในการรองรับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด”

นายกสมาคมบอกต่อไปว่า จริงๆแล้วสถานการณ์ผู้นำเข้าในช่วงนี้ถือว่าทรงตัว หลังจากที่กรมศุลกากรมีแนวทางใหม่ออกมา โดยมีรถที่เริ่มทยอยนำออกมาขายได้ 50-60 คัน จากจำนวนรถที่ค้างอยู่ที่ท่าเรือกว่า 400-500 คัน ซึ่งผู้ประกอบการก็ต้องมีการจ่ายเพิ่มกว่า 1 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต้นทุนที่ต้องจ่ายรวมๆแล้วกว่า 2 ล้านบาท

“แม้ต้นทุนจะขึ้น และขาดทุน ก็ต้องยอมเอาออกมาขาย เพราะหากไม่รีบขายก็จะยิ่งขาดทุน ยิ่งหากเป็นบริษัทเล็ก ก็อาจจะถึงขั้นล้มละลายหากยังไม่นำรถออกมา เพราะต้นทุนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะค่าจอดที่ท่าเรือ, ดอกเบี้ยต่างๆ”
นายกสมาคมทิ้งท้ายว่า หากกรมศุลฯนำมาตรการ 317 กลับมาใช้กับรถยนต์นำเข้าทุกยี่ห้ออีกครั้ง ก็จะเป็นการดี เพื่อแก้ไขปัญหาชั่วคราวให้กับเหล่าผู้ประกอบการ แล้วหลังจากนั้นเมื่อภาครัฐได้ข้อสรุปที่แน่ชัดเมื่อไร ทางสมาชิกของสมาคมก็พร้อมจะเดินตามแนวทางที่ได้ประกาศออกมาอย่างเคร่งครัด!!
ก็ไม่รู้ว่า (นิยาย) เรื่องนี้จะจบยังไง!!คงต้องติดตามกันต่อไป...

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,346 วันที่ 8 - 10 มีนาคม พ.ศ. 2561