“เซ็นทรัล”ทุ่มงบลงทุน4.75 หมื่นล.ดันยอดขาย 4 แสนล.

05 มี.ค. 2561 | 09:25 น.
กลุ่มเซ็นทรัลประกาศยุทธศาสตร์ “นิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี” ทุ่มงบลงทุน 4.75 หมื่นล้านดันยอดขายเฉียด 4 แสนล้านบาท

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เผยว่า ยุทธศาสตร์ 5 ปี หรือยุทธศาสตร์ใหม่สำหรับปี 2561-2565 ที่จะนำพากลุ่มเซ็นทรัลสู่การเป็น ‘นิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี’ (NEW CENTRAL, NEW E-CONOMY) ครองตำแหน่งผู้นำด้านดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม (Digi-Lifestyle Platform) แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่า และครองใจลูกค้าตลอดกาล

ceng

โดยดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม จะถูกพัฒนาในทุกกลุ่มธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัล รวมถึงต่อยอดไปยังธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผ่านการขับเคลื่อนใน 3 มิติสำคัญ คือ 1.ข้อมูล (Data) จัดเก็บข้อมูลทั้งหมด (Data Lake) จากทุกกลุ่มธุรกิจ ไว้บนระบบคลาวด์ เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน เกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าเชิงลึก (Single view of customer) และสามารถมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าคนพิเศษ

2. ลอยัลตี้ และการตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Loyalty & Personalized experience) ผ่านทางแพลตฟอร์มใหม่ของเดอะวัน (The 1) จะทำให้กลุ่มเซ็นทรัลสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับลูกค้า และตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น 3. ออมนิแชแนล แพลตฟอร์ม (Omnichannel Platform) พัฒนาให้ทุกธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัลก้าวสู่การเป็นออมนิแชแนล แพลตฟอร์มอย่างแท้จริง สามารถเชื่อมต่อประสบการณ์การช้อปปิ้งระหว่างโลกออฟไลน์ และออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทุกที่ ทุกเวลา
ceng1 นอกจากนี้กลุ่มเซ็นทรัลยังร่วมทุนกว่า 17,500 ล้านบาท กับ JD.Com ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน ในการจัดตั้ง เจดี เซ็นทรัล (JD CENTRAL) สร้างมาร์เก็ตเพลส (Marketplace) แห่งใหม่ในชื่อ JD.co.th เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าของกลุ่มธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนให้เกิดดิจิ- ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม อย่างรวดเร็วและครบวงจรยิ่งขึ้น โดยภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เว็บไซต์ JD.co.th จะพร้อมเปิดให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึงเปิดโอกาสให้สินค้าไทย และสินค้า SMEs ได้เผยแพร่สู่ตลาดโลก

โดยบริษัทมีแผนขยายธุรกิจใหม่ได้แก่ อี-โลจิสติกส์ (E-Logistics) และอี-ไฟแนนซ์ (E-Finance) กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งหน้าสู่การเป็นบริษัทฟินเทค (Fintech) เต็มตัว ให้บริการด้านการเงินอย่างครบวงจร (One stop-integrated financial system) ครอบคลุมทั้งบริการอีเพย์เมนต์ (E-Payment) และอีไฟแนนเชียล (Financial) สำหรับทั้งลูกค้า และซัพพลายเออร์ และเพื่อให้การพัฒนาดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

ceng3

โดยปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุน 47,500 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 27.8% จากปี 2560) เพื่อขยายการลงทุนต่อเนื่องทั้งในและนอกประเทศ พร้อมพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า โดยมีแผนจะเปิดให้บริการศูนย์การค้า และโรงแรมแห่งใหม่ โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้บริษัทจะมียอดขาย 397,308 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว