ฐานโซไซตี : สัญญาณเลือกตั้ง ก.พ. 62 ชัด กฎหมายลูกฉลุย?

ยืนยันชัดเจนอีกครั้งจากปาก “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ภายหลังการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า การเลือกตั้งทั่วไป หรือที่เรียกว่าการเลือกตั้งส.ส.จะมีขึ้นไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ร่างพ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. และพ.ร.บ.การได้มาซึ่งวุฒิสภา (ส.ว.) อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วม 3 ฝ่าย

หลังกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยมีระยะเวลาประมาณ 3 เดือน จากนั้นจะจัดประชุมแม่นํ้า 5 สายร่วมกับพรรคการเมืองเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งได้ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ว่าจะเลือกตั้งวันใด

คาดหมายกันว่าในการจัดทำกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. ทางสนช.จะสามารถดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคม 2561 หลังจากนั้นก็จะนำร่างกฎหมายลูกขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงมีพระราชวินิจฉัยใน 3 เดือน หรือราวเดือนมิถุนายน 2561 หลังจากโปรดเกล้าฯ แล้วจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้หลังจากนั้น 90 วัน หรือราวเดือนกันยายน 2561

เมื่อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งประกาศใช้แล้ว กฎหมายกำหนดให้ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน ซึ่งจะต้องจัดเลือกตั้งไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ดังนั้นการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 ไปจนถึงกุมภาพันธ์ 2562

เมื่อ “นายกรัฐมนตรี” ส่งสัญญาณถึงกำหนดการเลือกตั้งออกมาชัดเจนเช่นนี้ น่าจะเป็นทิศทางให้กับ “สนช.” ที่กำลังจะโหวต “รับ-ไม่รับ” ร่างพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส. และร่างพ.ร.บ.การได้มาซึ่ง ส.ว. ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ น่าจะ “ผ่านฉลุย” ไม่มีปัญหาข้อขัดแย้งใดๆ ให้ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะหากต้องส่งศาลตีความ ก็อาจจะทำให้การเลือกตั้งต้อง “ยืด” ออกไปอีกหลายเดือนซึ่งก็จะไม่เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้อย่างเป็นทางการ “ผลเสีย” ก็จะตกกับ พล.อ.ประยุทธ์ จนถึงขั้น “ล้มละลายทางความเชื่อถือ” เอาได้

ความสัมพันธ์ระหว่าง “ไทย” กับ “สหรัฐฯ” ดีวันดีคืน นอกจากการฝึกร่วมผสม “คอบร้าโกลด์ 2018” ระหว่างวันที่ 13-23 กุมภาพันธ์ 2561 ในพื้นที่ภาคตะวันออก และจังหวัดนครราชสีมา จะปิดฉากไปแล้วแต่ล่าสุดพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาเปิดเผยว่าระหว่างที่เดินทางไปเยือนกองทัพบกสหรัฐฯ ที่รัฐฮาวาย เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทาง ผบ.ทบ.กองกำลังทหารสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก ได้เสนอให้“กองทัพไทย”เป็นเจ้าภาพประชุม ผบ.ทบ.ภาคพื้นแปซิฟิกฯ 30 ประเทศ ในปี 2019 คงเป็นเพราะเห็นว่า ไทยมีความพร้อม สถานการณ์เรียบร้อย และถือเป็นการให้เกียรติประเทศไทย โดยได้เสนอเรื่องให้สภากลาโหมรับทราบ และ พล.อประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้อนุมัติแล้ว

ถือเป็นเรื่องดีสำหรับ “ชาวนา” เมื่อราคาข้าวเปลือกที่ชาวนาขายได้ตั้งแต่ช่วงต้นปีมาถึงขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยราคาข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2561) เฉลี่ยตันละ 7,748 บาท สูงขึ้นจากตันละ 7,438 บาท ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็น 4.17%

ทั้งนี้ผลผลิตข้าวนาปรังจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมีนาคม- เมษายน 2561 ราว 58% ของผลผลิตข้าวนาปรังทั้งหมด คาดว่าผลผลิตข้าวนาปรังปีนี้ จะมีปริมาณ 7.8 ล้านตัน เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้ หากมีการบริหารจัดการที่ดี...ราคาข้าวดี “ชาวนา” ก็มีความสุข ความกดดันต่อรัฐบาลก็คงจะลดลงไปได้บ้าง แต่หากราคาไม่ดี ชาวนาต้องเป็นหนี้เป็นสิน ไฉนเลย “ความสุข” จะเกิดขึ้นได้