การออกมาแฉ โพยเปิดโปงทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ป่วยเอดส์ ของนางสาวปณิดา ยศปัญญา อายุ 23 ปี นิสิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) และ นางสาวณัฐกานต์ หมื่นพล อายุ 26 ปี อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ซึ่งถูกศูนย์เลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม เป็นที่น่าชื่นชมและน่ายกย่องอย่างยิ่งในความกล้าหาญเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่ชอบ ฝ่าฝืนจริยธรรมทั้งในฐานะหน้าที่การงาน และในฐานะพลเมืองที่ไม่อ่อนแอก้มหน้ารับสิ่งไม่ถูกต้องเมื่อมองเห็น
เป็นที่ทราบกันดีว่าทุกวันนี้สังคมไทยกำลังอยู่ในอาการป่วยไข้ ค่อนข้างผิดทิศผิดทาง กลับหัวกลับหางกันไปเสียเกือบทุกเรื่อง โดยเฉพาะสังคมวัยทีน ไปหลงชื่นชมกับเน็ตไอดอล ที่เน้นอวดอ้างเรือนร่างและอุปโลกน์เป็นเน็ตไอดอล โดยไร้ซึ่งแก่นสาร และกลับกลายเป็นว่าเน็ตไอดอลเหล่านี้เป็นผู้ชี้นำให้สังคมก้าวผิดทิศผิดทางไปเสียด้วย
การออกมาเปิดเผยขบวนการปลอมแปลงเอกสารเพื่อทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่งและคนป่วยเอดส์ ของทั้งนักศึกษาและลูกจ้างทั้ง 2 รายนี้ นำไปสู่การขยายผลของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ลงไปสอบสวนพบการนำสำเนาบัตรประชาชนของชาวบ้านที่มาอบรมที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกว่า 90 ราย ทั้งหมดถูกนำไปลงทะเบียนรายชื่อในบัญชีเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งคนละ 2,000-3,000 บาท ซึ่งต้องขยายผลตรวจสอบทั่วประเทศทั้ง 37 ศูนย์
การตรวจสอบในพื้นที่เป้าหมายป.ป.ท.ได้ตรวจสอบแล้วกว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ พบการกระทำส่อทุจริตใน 12 จังหวัด มีการทำพฤติการณ์คล้ายคลึงกัน แทบจะเรียกได้ว่าเป็นขบวนการ แต่พฤติกรรมแห่งการกระทำผิด ดูเหมือนไม่ได้สลับซับซ้อน ที่ต้องใช้เวลาและเสาะหาหลักฐาน ในการแกะรอยมากนัก เพียงแค่นำสำเนาบัตรไปเบิกเงินเชิดเข้ากระเป๋าเท่านั้น เพียงแต่เข้ากระเป๋าเฉพาะตัวเล็กหรือส่งไปที่ตัวใหญ่ๆระดับเป้งหรือที่เรียกว่าส่งขึ้นข้างบนมากน้อยแค่ไหนนั้นอาจจะต้องใช้เวลา
มีการมองมาจากทั้งภายนอกประเทศ กระทั่งภายในประเทศเองที่ผลสำรวจการทุจริตแต่ละครั้งนั้นไทยมักติดอันดับในทางยํ่าแย่โดยตลอด กล่าวกันว่าทุจริตกันทุกหย่อมหญ้า ที่ร้ายยิ่งกว่าคือการทุจริตเอาเงินจากคนจน คนไร้ที่พึ่ง ที่พวกเขาแทบจะไร้ความสามารถในการหาเลี้ยงชีพ ซึ่งผู้กระทำผิดต้องถูกลงโทษอย่างเฉียบขาดไม่ให้มีที่หยัดที่ยืนในสังคมนี้
ที่สำคัญต้องไม่ลืมยกย่องเชิดชูผู้ออกมาจุดประกายให้เกิดการตรวจสอบ ทั้ง 2 คนถือได้ว่าเป็นฮีโร่อย่างแท้จริงในยามนี้ ยามที่องคาพยพสังคมกะปลกกะเปลี้ย จึงต้องช่วยกันปกป้องไม่ให้การกระทำที่กล้าหาญสู้อย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง
...................
บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3345 ระหว่างวันที่ 4-7 มี.ค.2561
