เปิดไฮไลต์ Soft Ware Expo SIPA ชูแนวคิด Digital Integration ดึงบริษัทระดับโลกร่วม

19 ม.ค. 2559 | 08:00 น.
"ซิป้า" เตรียมจัดใหญ่ งาน "Software Expo Asia: Digital Integration" มหกรรมงานแสดงนวัตกรรมซอฟต์แวร์แห่งภูมิภาคเอเชีย หวังเสริมศักยภาพธุรกิจยุคดิจิตอลในเอเชียให้เติบโต ดึง 6 กลุ่มธุรกิจร่วมแชร์ประสบการณ์ความสำเร็จ

aaa13102016-01

พล.อโสภณ เวคะวากยานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (ซิป้า) เปิดเผยว่า ซิป้าได้เตรียม จัดงาน "Software Expo Asia: Digital Integration" มหกรรมงานแสดงนวัตกรรมซอฟต์แวร์แห่งภูมิภาคเอเชีย ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 21-23 มกราคม 2559 ภายใต้แนวคิด Digital Integration การบูรณาการเทคโนโลยีดิจิตอลเชื่อมโยงกับธุรกิจต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับภาคธุรกิจสูงสุด ซึ่งเป็นงานแสดงนวัตกรรมซอฟต์แวร์แห่งภูมิภาคเอเชีย งานเดียวที่เชื่อมโยงทุกกิจกรรมของธุรกิจซอฟต์แวร์และดิจิตอลคอนเทนต์ เพื่อเสริมศักยภาพของธุรกิจยุคดิจิตอลในภูมิภาคเอเชียให้เติบโต ในงานจะมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการทำธุรกิจซอฟต์แวร์ของบริษัทชั้นนำระดับโลกและบริษัทซอฟต์แวร์ในภูมิภาค เพื่อให้เกิดความร่วมมือในอนาคต ขณะเดียวกันงานนี้เหมาะกับผู้ประกอบการ กลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดย่อม หรือผู้ริเริ่มจะทำธุรกิจ เพราะมีการให้คำปรึกษาฟรี

โดยงานนี้ถือเป็นประตูที่จะเชื่อมโยงทุกธุรกิจสู่เอเชียตลาดเอเชียและตลาดโลก โดยซิป้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า งาน Software Expo Asia: Digital Integration จะเป็นเวทีซอฟต์แวร์ระดับเอเชียที่ผนึกกำลังสู่เวทีโลก โดยจะมีส่วนจุดประกายและส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และดิจิตอลคอนเทนต์ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาสังคมเศรษฐกิจดิจิตอลของไทย อันจะช่วยให้ผู้ประกอบการและประชาชนไทยได้รับประโยชน์จากการเติบโตและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในอนาคตขณะเดียวกันจะทำให้เศรษฐกิจดิจิตอลของประเทศไทย มีความชัดเจน และเป็นรูปธรรมจับต้องได้

สำหรับไฮไลต์ภายในงาน Software Expo Asia: Digital Integration จะมีโซนนิทรรศการรูปแบบใหม่ Smart Business Model ใน 6 กลุ่มธุรกิจ ที่ใช้ซอฟต์แวร์จับคู่การค้าประสบความสำเร็จมาร่วมจัดแสดง เพื่อให้เห็นภาพว่า การใช้ซอฟแวร์จะเป็นการพัฒนาธุรกิจแบบก้าวกระโดด และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาด และยังขนเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจากผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ของทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 250 บริษัทและหน่วยงานมาร่วมจัดแสดง มีวิทยากรกูรูชื่อดังจากทั้งไทยและเทศ มาร่วมไขเทคนิคความสำเร็จ อาทิ Amazon Web Services กับระบบการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ สร้างรายได้จำนวนมากในเวลาไม่กี่ปี Nasscom สมาคมบริการซอฟต์แวร์และบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของอินเดีย คณะผู้บริหารเมืองอินชอน ประเทศเกาหลี ที่จะมาบอกเล่าถึงการสร้างโมเดลต้นแบบของเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สนใจ พร้อมให้คำปรึกษาฟรีสำหรับผู้ที่จะเริ่มดำเนินธุรกิจหรือต่อยอดทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์ "ดินสอมินิ" ที่สร้างขึ้นมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่ต้องอยู่เพียงลำพัง และ ดิจิตอล ซินีม่า หนังแอนิเมชันจากผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย 2 เรื่อง คือ พระมหาชนก และ เมืองนิรมิตแห่งจิตตนคร มาจัดแสดง

ด้าน ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมในการปรับเปลี่ยนการทำงานและบริการภาครัฐสู่ดิจิตอลอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วย Digital Integration หรือการบูรณาการด้านดิจิตอล เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน เพราะลดความซ้ำซ้อน ประหยัดงบประมาณ ที่สำคัญสามารถตอบสนองและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ดังนั้นอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและสนับสนุนอุตสาหกรรมในยุทธศาสตร์ของรัฐบาลทั้ง 6 กลุ่ม เพราะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับประเทศไทยในเวทีโลก "Digital Integration เป็นหนึ่งในแนวคิดเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล ที่ทางกระทรวงไอซีทีและซิป้า ได้ร่วมกันส่งเสริมให้แนวคิดและนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลเป็นรูปธรรม ผ่านหลายโครงการของสำนักงานและหนึ่งในนั้นคือ งาน "Software Expo Asia: Digital Integration" ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้ว งานนี้ผู้จัดงานมีความตั้งใจอย่างสูงที่จะให้เป็นเวทีแสดงนวัตกรรมระดับภูมิภาค และแสดงให้ผู้ใช้ หรือกลุ่มธุรกิจอื่นๆ เห็นภาพชัดเจนเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ และยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พัฒนาสังคมเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล เป็นเวทีระดับเอเชียที่เป็นความร่วมมือกันสู่เวทีโลกให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการปักธงให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางไอซีทีภูมิภาคได้อย่างมั่นคง"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,123 วันที่ 17 - 20 มกราคม พ.ศ. 2559