รัสเซียจัดชุดใหญ่ดูลู่ทางอีอีซี เซ็นเอ็มโอยูหนุนการค้า-การลงทุน

04 มี.ค. 2561 | 03:12 น.
ในปีที่ผ่านมา (2560) สหพันธรัฐรัสเซียและราชอาณาจักรไทยเพิ่งฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 120 ปีท่ามกลางบรรยากาศความร่วมมือทั้งด้านการค้า-การลงทุนที่ขยายตัวมากขึ้นตามลำดับ ส่วนหนึ่งจากนโยบายของรัสเซียที่ต้องการแสวงหาตลาดใหม่ทดแทนคู่ค้าในอเมริกาและยุโรปที่กำลังมีปัญหาบาดหมางทางการเมืองส่งผลให้รัสเซียถูกควํ่าบาตรทางเศรษฐกิจ ขณะที่ไทยเองก็มีนโยบายเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมตามยุทธศาสตร์ “ประเทศ ไทย 4.0” ซึ่งแน่นอนว่า รัสเซียเป็นพันธมิตรที่ช่วยตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

TP10-3344-A และด้วยความที่ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นมายาวนาน จึงไม่น่าแปลกใจที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (20-22 ก.พ.) จะเกิดกิจกรรมสำคัญที่ช่วยตอกยํ้าความสัมพันธ์และความร่วมมือที่เพิ่มแรงกระชับระหว่างไทยและรัสเซียอีกครั้ง นั่นคือการจัดคณะนักธุรกิจชุดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาจากรัสเซีย นำโดยนายอเล็กเซย์ กรูซเดฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย เยือนประเทศไทย ซึ่งครั้งนี้นอกจากทางคณะซึ่งประกอบด้วยตัวแทนภาครัฐและบริษัทเอกชนมากกว่า 50 บริษัท จะเข้าเยี่ยมคารวะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังมีการจัดงานสัมมนาและจับคู่ธุรกิจกันที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท และที่เป็นไฮไลต์คือการนำคณะเข้าเยี่ยมชมพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งฝ่ายรัสเซียให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

++หนุนการลงทุนเชิงสร้างสรรค์
“เราต้องมองหารูปแบบความร่วมมือใหม่ๆ เริ่มจากการใช้อีอีซีเป็นแพลตฟอร์มที่จะก้าวต่อไป และเป็นจุดเริ่มความร่วมมือในทุกๆ ด้านรวมทั้งการค้าและการลงทุน” รัฐมนตรีรัสเซียกล่าวในงานสัมมนา ความสนใจของรัสเซียนั้นสะท้อนให้เห็นจากรายชื่อบริษัทที่ร่วมคณะมาลงพื้นที่ ซึ่งครอบคลุมถึงธนาคารใหญ่อย่าง Sberbank และ Vneshekonombank ที่เข้ามาดูศักยภาพของโครงการอีอีซีและพร้อมจะให้ความสนับสนุนด้านการเงินแก่บริษัทรัสเซียที่จะเข้ามาลงทุน รวมทั้งยินดีร่วมมือกับธนาคารของไทยในการจัดตั้งกองทุน Innovation Fund เพื่อช่วยให้เกิดผู้ประกอบการรุ่นใหม่หรือ startup ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์เพิ่มมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รัสเซียเองยังมองเห็นศักยภาพการลงทุนในไทยทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ เป็นต้น

TP10-3344-1A ด้านนายวิคเตอร์ เอ็น คลาดอฟ ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศและนโยบายภูมิภาคของรอสเทก (Rostec) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจใหญ่ประกอบด้วยบริษัทในเครือด้านเทคโนโลยี 16 บริษัทและยังมีบริษัทย่อยในเครืออีกกว่า 600 บริษัท กล่าวว่ามีความสนใจเข้ามาดูลู่ทางการค้า-การลงทุนในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี เพราะบริษัทมีความเชี่ยวชาญในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีครอบคลุมหลากหลายสาขาอุตสาหกรรม อาทิ ระบบรักษาความปลอดภัยและอาวุธ อากาศยานและชิ้นส่วนอากาศยาน เฮลิคอปเตอร์ รถถัง รถยนต์ และรถบรรทุก “ยกตัวอย่างเฮลิคอปเตอร์ บริษัทเรามีความเชี่ยวชาญทั้งด้านเฮลิคอปเตอร์ทางการทหารและเฮลิคอปเตอร์เพื่อการพาณิชย์ การท่องเที่ยว และการขนส่งทั่วไป เราผลิตเฮลิคอปเตอร์ป้อนให้กองทัพอากาศ(ของไทย)มาหลายเครื่องแล้ว และปลายปีนี้ยังจะมีการส่งมอบเฮลิคอปเตอร์สำหรับงานพลเรือน อีกล็อตหนึ่งด้วย” คลาดอฟกล่าวว่า หากไทยเป็นตลาดที่ใหญ่พอสำหรับเฮลิคอปเตอร์จากรัสเซีย บริษัทก็อาจเข้ามาลงทุนเปิดศูนย์ซ่อมบำรุงในไทย ซึ่งอาจเป็นในพื้นที่อีอีซี แต่ทั้งนี้ก็มีอีกหลายปัจจัยที่ต้องใช้ประกอบการตัดสินใจ

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ ++ร่วมกันส่งเสริมการค้า
ผลการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างบริษัทไทยและรัสเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการมาเยือนของคณะนักธุรกิจรัสเซียในครั้งนี้ ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมของทางสถานทูตรัสเซีย กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ภายในงานสัมมนาได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยและศูนย์ส่งเสริมการส่งออกรัสเซีย (REC) เพื่อร่วมกันส่งเสริมการเพิ่มพูนปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายต่อไปในอนาคต อาทิ การให้ความสนับสนุนทางการเงินเพื่อการส่งออก รวมทั้งการส่งเสริมโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยและรัสเซีย

สำหรับการค้าไทยและรัสเซียในปี 2560 มีมูลค่ารวม 3,130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 61% โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ ฯลฯ สินค้านำเข้าสำคัญจากรัสเซีย ได้แก่ นํ้ามันดิบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ ฯลฯ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,344 วันที่ 1 - 3 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว