PF-GRAND ตั้งเป้า 3 ปี รายได้ทะลุ 3 หมื่นล้าน

27 ก.พ. 2561 | 09:47 น.
“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค”และ“แกรนด์ แอสเสท” ตั้งเป้า 3 ปี รายได้ทะลุ 30,000 ล้านบาท ผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก ลุยเปิดโครงการใหม่ เพิ่มพอร์ตโรงแรม

362330 นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาตกรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)ร่วมด้วย นายวิทวัส วิภากุลประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และนายไพสิฐ แก่นจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโรงแรม บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)ร่วมกันแถลงถึงแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัทโดยนายชายนิดเปิดเผยว่าแผนงานปีนี้จะเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มบริษัทด้วยความร่วมมือกับผู้ประกอบการชั้นนำระดับโลกในด้านต่างๆ โดย พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีแผนร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากฮ่องกง พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ 2 โครงการ ซึ่งจะช่วยเสริมรายได้ในอนาคตปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

สำหรับแกรนด์ แอสเสทฯ ซึ่งได้ร่วมทุนกับ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี นอกจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม“ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ”แล้ว ยังมีแผนพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มเติมในส่วนของธุรกิจโรงแรมซึ่งอยู่ภายใต้เชนแมริออทและไฮแอท จะใช้ความเป็นบริษัทบริหารจัดการด้านโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และฐานลูกค้ากว่า 100 ล้านคนมาช่วยสนับสนุนผลักดันในเรื่องรายได้ ขณะเดียวกันปีนี้คิโรโระ รีสอร์ทจะมีความร่วมมือกับบริษัทด้านสกีระดับโลกมาช่วยสนับสนุนเพิ่มจำนวนลูกค้าให้มากขึ้นทำให้สามารถต่อยอดธุรกิจทั้งในส่วนโรงแรมและที่พักอาศัย ซึ่งในส่วนของที่พักอาศัยมีแผนพัฒนาโครงการต่อเนื่องบนที่ดินเปล่าFreehold ประมาณ 300 ไร่ โดยนอกจากการลงทุนในโครงการ “ยู คิโรโระ” คอนโดมิเนียมมูลค่า 4,000 ล้านบาทที่เพิ่งเปิดตัวไปแล้วนั้น ยังมีแผนจะพัฒนาโครงการในรูปแบบวิลล่า มูลค่า 4,500 ล้านบาทร่วมกับบริษัทชั้นนำในธุรกิจที่อยู่อาศัยของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

กลุ่มบริษัทยังมีแผนเพิ่มรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าภายใน3 ปี คาดจะมีรายได้รวม30,000 ล้านบาท โดยธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปีนี้มีแผนเปิดโครงการใหม่ 25โครงการมูลค่ารวม 35,823 ล้านบาท ด้านธุรกิจโรงแรม ปีนี้แกรนด์ แอสเสทฯ จะเปิดดำเนินการโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท รวมทั้งยังได้เข้าซื้อกิจการโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน

นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังจะเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร ทั้งการบริหารจัดการต้นทุนการเงินและควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหาร รวมถึงนำแลนด์แบงก์มาพัฒนาและขายมากขึ้นเพื่อเพิ่มอัตราการทำกำไรขั้นต้นประมาณการรายได้ของกลุ่มบริษัทปีนี้ตั้งไว้ที่ 24,090 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 14,000 ล้านบาท  รายได้ของแกรนด์ แอสเสทฯ ในส่วนของคอนโดมิเนียม 2,200 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจโรงแรม 3,530 ล้านบาท  รายได้จากการขายที่ดิน 4,000 ล้านบาทและจากธุรกิจให้เช่าอีก 360ล้านบาทโดยตั้งเป้าอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิ (Net IBD/E) ให้อยู่ระดับ  1.2 เท่า

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์ สำหรับแผนงานในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นายวงศกรณ์ เผยว่า ปีนี้กลุ่มบริษัทตั้งเป้าขาย 20,900 ล้านบาทประกอบด้วย เป้าขายของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 19,400 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ 11,000 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 7,000 ล้านบาท คอนโดและวิลล่าประเทศญี่ปุ่น 1,400 ล้านบาท สำหรับ แกรนด์ แอสเสทฯ ตั้งเป้าขายโครงการคอนโดมิเนียม 1,500 ล้านบาทปีนี้พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีแผนเปิดโครงการใหม่23 โครงการ มูลค่า 27,523 ล้านบาท เป็นแนวราบ20 โครงการ มูลค่า23,243 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม3โครงการ มูลค่า4,280ล้านบาทขณะที่แกรนด์ แอสเสทฯมีแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท และ วิลล่า 1 โครงการ มูลค่า 2,300 ล้านบาท บริษัทยังจะมียอดขายจากตลาดต่างประเทศ โดยวางเป้าไว้ที่ 2,400 ล้านบาท จากคอนโดมิเนียมทำเลใกล้รถไฟฟ้า  6  โครงการ และยังมีแผนเปิดโครงการคอนโดประชารัฐ ราคาห้องละ 880,000 บาท ในเขตกรุงเทพฯ อีกด้วย  สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้ บริษัทมีแผนยกระดับคุณภาพสินค้าภายใต้แนวคิด “เพอร์เฟค สมาร์ท ซิตี้”ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการให้มีความน่าอยู่ จากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ โดยร่วมมือกับ เอไอเอสในการนำ IoT (Internet of Things) มาใช้ในโครงการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยทั้งด้านความสะดวกสบาย ปลอดภัย และประหยัดพลังงานอาทิเช่น เสาไฟฟ้าอัจฉริยะ ระบบควบคุมการใช้ไฟฟ้าในบ้าน ระบบติดตามตัว ระบบระบุตำแหน่งของรถรับส่งในโครงการ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจะมีความร่วมมือกับMobikeผู้ริเริ่มบริการจักรยานสาธารณะอัจฉริยะรายแรกของโลก มาให้บริการในโครงการด้วย

ทิศทางการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมนั้น นายไพสิฐเปิดเผยว่า ในปีนี้ประมาณการรายได้จากธุรกิจโรงแรมภายในประเทศจะเพิ่มเป็น2,100 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 92% จากปี 2560 โดยมาจากการปรับเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (ADR) ของทั้ง 3 โรงแรมที่ดำเนินการอยู่เน้นธุรกิจ MICE เพื่อเพิ่มรายได้ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มจากการรับรู้รายได้จากโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท ที่จะเปิดดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้และจากการรับรู้รายได้จากโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน  สำหรับการเปิดโครงการใหม่ แกรนด์ แอสเสทฯ มีแผนลงทุนโครงการแบบมิกซ์ยูส เป็นรีสอร์ทผสมผสานกับคอนโดมิเนียมและพูลวิลล่า บริเวณหาดแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง จะขยายในส่วนของโรงแรมเพื่อรองรับ EEC ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัท มีจำนวนห้องพักรวม 1,079 ห้อง เป็นห้องพักโรงแรมในประเทศ 657 ห้องต่างประเทศ 422 ห้องและจะเพิ่มขึ้นในปีนี้อีก 999 ห้อง จากโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท 273 ห้องและจากโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน 726 ห้อง ซึ่งบริษัทได้เข้าซื้อกิจการมา ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว