ที่นี่ไม่มีความลับ : ล้มเลือก ‘กกต.’ ตัดไฟแต่ต้นลม?

ถามกันมามากว่าเหตุไฉนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือ “สภาท็อปบูต” ถึงเลือกใช้แนวทาง “โหวตล้ม” การสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ทั้ง 7 คน ที่เสนอมาส่งผลให้ต้องมีการสรรหาใหม่ที่คาดว่าจะใช้กระบวนการไม่น้อยกว่า 3 เดือน ในการนำเสนอต่อสนช.ได้อีกครั้ง

ปล่อยข่าวกันทั่วสภาฯว่ามีเรื่องร้องเรียนต่อกระบวนการได้มาซึ่งการสรรหาหลายประการโดยเฉพาะเรื่องความชอบในกระบวนการเลือก 2 ใน 7 กกต.ที่มาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เป็นสาเหตุหลัก ถ้าหากมาจากเหตุดังกล่าวจริง สนช.สามารถเลือกโหวตไม่รับรอง 2 ท่านที่มาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเริ่มกระบวนการใหม่ เฉพาะ 2 รายที่เสนอมา แต่นี่ “สภา ท็อปบูต” เลือกโหวตควํ่าทั้งหมดชนิดที่ดูออกว่า “มีใบสั่ง” หากไม่เชื่อสนช.ชุดนี้กล้าให้ตรวจสอบรายชื่อการโหวตเพื่อแยกแยะให้เห็นว่าใครสายไหน โหวตอย่างไรหรือไม่

เมาธ์เรื่องที่ 2 ว่ามาจากความต้องการที่จะให้กระบวนการเลือกตั้งเลื่อนออกไปอีก อันนี้น่าจะไม่จริง เพราะตราบใดที่ไม่ได้ กกต.ใหม่ กกต.เก่าก็ยังคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพราะงานของกกต.หาใช่แค่การจัดเลือกตั้ง ยังต้องทำหน้าที่นายทะเบียนพรรคการเมืองหากไม่มีกกต.ก็จะไม่มีผู้รับรองการจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่ ที่ “ระฆัง” จะลั่นในเดือนมีนาคมนี้แล้ว ประเด็นความต้องการยื้อโรดแมปจึงล้มการสรรหากกต.คงจะตกไป

และถ้าจะเลื่อนโรดแมปการเลือกตั้งออกไป “แม่นํ้า 4 สาย” ที่เหลืออยู่ของคสช.คงเลือกวิธีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ดีกว่า เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างกฎหมายนี้ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญก็ถือว่าตกไปและจะต้องเริ่มกระบวนการยกร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญใหม่ ที่ต้องใช้ระยะเวลาราว 4-6 เดือน โรดแมป การเลือกตั้งถูกขยายด้วยเทคนิคทางกฎหมาย ไม่ต้องมาใช้วิธีการควํ่าการสรรหากกต.แบบนี้

เหลือบไปดูรายชื่อ 7 ว่าที่กกต.ตกสวรรค์ ประชา เตรัตน์, เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ, ฐากร ตัณฑสิทธิ์,

อิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์, ชมพรรณ์ พงษ์เจริญ สุธีรชาติ, ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี, ปกรณ์ มหรรณพ น่าจะเห็นได้ว่าไม่ใช่ “กรรมการการเลือกตั้งพวกตน” (คุยได้) หรืออาจจะมีหลายคนในนั้นยังมีข้อสงสัยในสายสัมพันธ์กับ “คนแดนไกล” (ที่ช่วงนี้มาทัวร์ใกล้ๆ) จึงทำให้ต้องล้มกระบวนการสรรหา เพราะกกต.มีบทบาทในการให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่าน ส.ส.ที่จะมาทำหน้าที่โหวตเลือก นายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง ฉะนั้น “ตัดไฟแต่ต้นลม” ล้มกระบวนการสรรหากกต.เพื่อให้ได้ชุดใหม่ที่ปลอดภัยกว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ “ดีที่สุด”