‘MQDC’รับอานิสงส์อีอีซี จีน-ญี่ปุ่นแห่จอง-ปลายมี.ค.เปิด วิสซ์ดอม อินสปาย
MQDC รับอานิสงส์แผนการพัฒนาอีอีซีและรถไฟฟ้าเผยยอดซื้อจากลูกค้าจีนและญี่ปุ่นเพิ่มต่อเนื่อง ประกาศความสำเร็จโครงการ “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” ยอดจองทะลุเป้า เตรียมเปิดโครงการใหม่ “วิสซ์ดอม อินสปาย” เจาะกลุ่มนิวเจน ปลายมี.ค.นี้
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ในเครือบริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการพัฒนาพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟฟ้าและรถไฟความเร็วสูงของรัฐบาลว่า ส่งผลดีต่อยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทดังจะเห็นได้จากลูกค้าที่เป็นชาวจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และญี่ปุ่นที่มาลงทุนในโครงการต่างๆโซนภาคตะวันออกได้สนใจซื้อห้องชุดในโครงการเป็นจำนวนมาก
[caption id="attachment_262369" align="aligncenter" width="355"]
วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์[/caption]
“นโยบายรัฐบาลไทย ญี่ปุ่นและจีนที่มาลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงและพื้นที่อีอีซีก่อให้เกิดเทรนด์ที่ดีในภูมิภาค รอบๆประเทศไทยตามไปด้วย โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย ดังนั้นยอดขายในโครงการจึงได้อานิสงส์ตามไปด้วย โดยสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศโดยเฉพาะจากจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่นคิดเป็นประมาณ 30%”
ทางด้านความสำเร็จโครงการ “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” ที่มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หนึ่งในโครงการมิกซ์ยูสชั้นนำของประเทศไทยได้ตอกยํ้าความเป็นผู้นำโครงการคุณภาพยอดเยี่ยมด้วยแนวคิดเมืองอัจฉริยะ Smart City และนวัตกรรมด้านการอยู่อาศัยแบบยั่งยืนนั้น โดยเฉพาะที่พักอาศัย ส่วนแรก คอนโดมิเนียม High-Rise จำนวน 3 อาคาร ได้รับการตอบรับที่ดีบรรลุเป้าการขาย ทำยอดขายได้กว่า 90% ร้านค้าในพื้นที่ขายได้ 80% อีกทั้งพื้นที่สำนักงานบรรลุเป้าการขาย 100% โดยได้จับมือกับ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” พัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายสุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ประธานผู้อำนวยการ MQDC กล่าวว่าช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้คอนโดมิเนียม “วิสซ์ดอม อินสปาย” จะเปิดการขายอย่างเป็นทางการจำนวนกว่า 500 ยูนิตคาดว่าภายในปีนี้จะขายได้หมดจำนวน 1 อาคาร ส่วนอาคาร “วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์” พร้อมเข้าอยู่ตั้งแต่ปลายปีนี้ ประกอบกับปลายปีนี้พื้นที่รีเทลและออฟฟิศเปิดให้บริการ ดังนั้นช่วงกลางปี 2562 จะมีความสมบูรณ์เต็มพื้นที่มากขึ้น
“โดยเตรียมเปิดตัว ‘Whizdom Inspire’ เจาะกลุ่มนิวเจน ให้คนรุ่นใหม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ด้วยตัวเอง พร้อมสังคมคุณภาพ เราเชื่อว่าเมื่อพร้อมเปิดให้บริการจะเป็นหนึ่งในโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพยอดเยี่ยมแห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยแนวคิดเมืองอัจฉริยะ Smart City และเป็น Third Place ที่ตอบโจทย์เรื่อง Creating Shared Value (CSV) และนวัตกรรมการอยู่อาศัยอีกทั้งจะเป็นแลนด์มาร์ก แห่งใหม่สำหรับคนกรุงเทพฯ ด้วยสังคมคุณภาพ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,343 วันที่ 25 - 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ในเครือบริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการพัฒนาพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟฟ้าและรถไฟความเร็วสูงของรัฐบาลว่า ส่งผลดีต่อยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทดังจะเห็นได้จากลูกค้าที่เป็นชาวจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และญี่ปุ่นที่มาลงทุนในโครงการต่างๆโซนภาคตะวันออกได้สนใจซื้อห้องชุดในโครงการเป็นจำนวนมาก
[caption id="attachment_262369" align="aligncenter" width="355"]
“นโยบายรัฐบาลไทย ญี่ปุ่นและจีนที่มาลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงและพื้นที่อีอีซีก่อให้เกิดเทรนด์ที่ดีในภูมิภาค รอบๆประเทศไทยตามไปด้วย โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย ดังนั้นยอดขายในโครงการจึงได้อานิสงส์ตามไปด้วย โดยสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศโดยเฉพาะจากจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่นคิดเป็นประมาณ 30%”
ทางด้านความสำเร็จโครงการ “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” ที่มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หนึ่งในโครงการมิกซ์ยูสชั้นนำของประเทศไทยได้ตอกยํ้าความเป็นผู้นำโครงการคุณภาพยอดเยี่ยมด้วยแนวคิดเมืองอัจฉริยะ Smart City และนวัตกรรมด้านการอยู่อาศัยแบบยั่งยืนนั้น โดยเฉพาะที่พักอาศัย ส่วนแรก คอนโดมิเนียม High-Rise จำนวน 3 อาคาร ได้รับการตอบรับที่ดีบรรลุเป้าการขาย ทำยอดขายได้กว่า 90% ร้านค้าในพื้นที่ขายได้ 80% อีกทั้งพื้นที่สำนักงานบรรลุเป้าการขาย 100% โดยได้จับมือกับ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” พัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“โดยเตรียมเปิดตัว ‘Whizdom Inspire’ เจาะกลุ่มนิวเจน ให้คนรุ่นใหม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ด้วยตัวเอง พร้อมสังคมคุณภาพ เราเชื่อว่าเมื่อพร้อมเปิดให้บริการจะเป็นหนึ่งในโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพยอดเยี่ยมแห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยแนวคิดเมืองอัจฉริยะ Smart City และเป็น Third Place ที่ตอบโจทย์เรื่อง Creating Shared Value (CSV) และนวัตกรรมการอยู่อาศัยอีกทั้งจะเป็นแลนด์มาร์ก แห่งใหม่สำหรับคนกรุงเทพฯ ด้วยสังคมคุณภาพ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,343 วันที่ 25 - 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
