สิ่งหนึ่งที่ KBANK เหนือคู่แข่งมาตลอดคือ การสร้างคนขึ้นมาเองในรูปแบบของนักเรียนทุนจำนวนมาก การเปลี่ยนผู้บริหารในแต่ละครั้ง เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ผู้ที่ขึ้นมาส่วนใหญ่จะมาจากบัญชีนักเรียนทุน จากรุ่นสู่รุ่น รับ-ส่งสลับปรับเปลี่ยนกันภายในเป็นไปโดยราบรื่น
KBANK จึงเป็นแหล่งฟูมฟักและสะสมนักบริหารมืออาชีพรุ่นใหม่ๆที่ใครๆก็ยอมรับ
ปี 2535 คุณปั้น บัณฑูร ลํ่าซำ ซีอีโอ KBANK ปฏิวัติวงการ เป็นแบงก์แห่งแรกที่ re-engineering นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อปฏิรูประบบงานธนาคารทั้งระบบ
[caption id="attachment_262088" align="aligncenter" width="503"]
บัณฑูร ลํ่าซำ[/caption]
3 นักเรียนทุนที่ได้รับความไว้วางใจให้รับงานใหญ่ในครั้งนั้นคือ อำพล โพธิ์โลหะกุล สมเกียรติ ศิริชาติไชย และ ธีรนันท์ ศรีหงส์
เป็น 3 ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นมาทั้งที่วัยไม่ถึง 40 ปี
อำพล ดูแล Retail Banking ธีรนันท์ ดูแล Corporate Banking ส่วน สมเกียรติ เข้ามารับด้านวางแผน ปรับองค์กรทั้งระบบ ดูแลสำนักกรรมการผู้จัดการด้วย
นี่คือ 3 ลูกหม้อที่มีบทบาทสำคัญในอดีต ก่อนที่ต่อมาจะถูกลดบทบาท ในที่สุดทั้ง 3 คนก็ทยอยลาจากถิ่นเก่า สมเกียรติ ถูกคุณปั้น ส่งไปทำงานที่เมืองไทยประกันชีวิต ธุรกิจอีกขาของตระกูลลํ่าซำ ตามมาด้วย ธีรนันท์ ออกไปตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี
[caption id="attachment_262085" align="aligncenter" width="467"]
อำพล โพธิ์โลหะกุล[/caption]
ล่าสุด อำพล โพธิ์โลหะกุล ที่ย้ายข้ามค่าย ย้ายข้ามสี จากสีเขียวไปสีนํ้าเงินคู่แข่งสำคัญในระนาบเดียวกันคือธนาคารกรุงเทพ และยังหอบ อาจ วิเชียรเจริญ ที่ถือว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ซึ่งเพิ่งเกษียณไป ร่วมชายคาบัวหลวงด้วยกัน
มึนกันไปทั้งคุ้งเจ้าพระยา สะพานพระราม 9 ว่า เกิดอะไรขึ้นกับ KBANK
...................
คอลัมน์:ข่าวห้ามเขียน / หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับ 3342 ระหว่างวันที่ 22-24 ก.พ.2561