เปิดใจ‘เสี่ยยักษ์’ ติดดอย ITD

24 ก.พ. 2561 | 10:46 น.
ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในกรอบ 1790-1805 จุด เป็นการปรับลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นยุโรป และตลาดหุ้นเอเชีย นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ในตลาดพัฒนาแล้ว และตลาดเกิดใหม่ ด้วยข้อกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นดอก เบี้ยเร็วและแรงกว่าที่คาดการณ์

แม้นักวิเคราะห์หลายสำนักยังเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยยังไม่เสียอาการ ทรงยังดี ปัจจัยภายในเรื่องของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว การลงทุนทั้งรัฐและเอกชนที่เริ่มกลับมา จะเป็นปัจจัยหนุนให้ดัชนีหุ้นไทยไปถึง 2000 จุดได้ไม่ยาก แต่ระหว่างทางจะมีความผันผวนของดัชนีมาสลับบ้าง

[caption id="attachment_261771" align="aligncenter" width="503"] วิชัย วชิรพงษ์ วิชัย วชิรพงษ์[/caption]

แต่ เสี่ยยักษ์-วิชัย วชิรพงษ์ นักลงทุนรายใหญ่ประจำตลาดหุ้นไทย ที่มีพอร์ตการลงทุนหลายพันล้านบาท มองในทิศทางตรงข้าม เสี่ยยักษ์ มองว่า หุ้นไทยจะไปต่อ เป็นเรื่องยาก เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดัชนีปรับตัวขึ้นทางเดียวมาตลอด จนทุบสถิติสูงสุดเป็นว่าเล่น

“การขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในรอบปี ถือว่าเป็นเรื่องหนักมากสำหรับหุ้น” วิชัย กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ”

อย่างไรก็ตามเสี่ยยักษ์เชื่อว่า ถึงหุ้นไทยจะลงก็คงลงไม่ลึก และไม่มากแล้ว เพราะยังมีปัจจัยสนับสนุน

“หุ้นไทยขึ้นมารอบนี้ ได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินที่เคยลงทุนในตลาดบี/อี กว่า 3-4 แสนล้านบาท ที่ตอนนี้ตลาดบี/อี ตายสนิท ไม่มีคนออกแล้ว บริษัทที่มีเรตติ้งดีๆก็จะไปกู้แบงก์ถูกกว่า เงินเลยไม่รู้จะไปไหน ก็ถูกโยกเข้ากองทุนหุ้น ซึ่งเงินก้อนนี้จะเป็นตัวพยุงดัชนีหุ้นไทยไม่ให้ตกมากเกินไป”

“ตลาดหุ้นแบบนี้บอกได้เลยว่ารายใหญ่เล่นยาก จะทำกำไรยากมาก เพราะต้องซื้อโวลุ่มใหญ่ เวลาจะออกก็ออกลำบาก”

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์ เสี่ยยักษ์ยกตัวอย่างที่ตัวเองถือหุ้นอยู่ในบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (ITD) ที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนี้ หากถือเพียงเล็กน้อยก็คงขายออกไปแล้ว แต่พอถือจำนวนมาก ก็จำเป็นต้องติด เพื่อรอว่าราคาจะกลับมา

“ผมมี ITD อยู่นานแล้ว ซื้อตอนนั้นเพราะเชื่อว่ากลุ่มก่อสร้างกำลังจะมา ก็ถืออยู่ตลอด จริงๆไม่อยากเรียกว่าถือเลย ต้องบอกว่าติดอยู่ ติดอยู่จริงๆ เพียงแต่ว่าทำอะไรไม่ได้”

ล่าสุดเสี่ยยักษ์ ถือหุ้น ITD มาหลายปี ล่าสุดถือ 228,148,600 หุ้น หรือ 4.32% ราคาหุ้น ITD เมื่อ 3 ปีก่อน เคยขึ้นสูงสุดที่ 9.35 บาท และตํ่าสุดที่ 3.30 บาท

“ถ้าผมถือแค่ 3 ล้านหุ้น 5 ล้านหุ้น ก็ตัดสินใจได้ง่าย ขายออกไปก็จบ ตอนนี้ก็ทำได้เพียงแค่รอโอกาส บริษัทก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่เขาอาจจะมีการเปลี่ยนซีอีโอ เหมือนที่รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม บอกเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,342 วันที่ 22 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว