คอนวีเนียนสโตร์เดือด ‘ลอว์สัน108-แฟมิลี่มาร์ท’ ชูโมเดลญี่ปุ่นสู้ศึก

24 ก.พ. 2561 | 15:50 น.
“ลอว์สัน 108-แฟมิลี่มาร์ท” สู้ศึกคอนวีเนียนสโตร์ ปรับแผนรุกชูเจแปนนิส สไตล์ดักกำลังซื้อรายวัน ยํ้าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน เข้าใช้บริการเพิ่มเหตุสะดวก หลากหลายทั้งอาหารและบริการ

ขณะที่อุตสาหกรรมค้าปลีกโดยรวมมีการเติบโตในสัดส่วน 4-5% แต่ค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อยังมีการเติบโตกว่า 10% ต่อเนื่องทุกปี ด้วยเหตุผลเพราะมีสาขาจำนวนมาก ทำให้ใช้บริการได้สะดวก รวดเร็ว อีกทั้งยังมีสินค้าหลากหลายตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกเพศ ทุกวัย และสำคัญคือโปรโมชันตลาดที่ดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ แม้เบอร์ 1 ในธุรกิจอย่างเซเว่น อีเลฟเว่นจะขึ้นเป็นผู้นำด้วยเพราะมีสาขามากกว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ทิ้งห่างคู่แข่งแต่เบอร์รองอย่าง “แฟมิลี่มาร์ทและลอว์สัน 108” ก็เดินหน้าสู้ ด้วยการสร้างโพสิชันนิงที่แตกต่างเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ โดยเฉพาะการชูจุดขายความเป็นเจแปนนิส สไตล์

นายโคอิชิ ฮิโรเซะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สห ลอว์สัน จำกัด ในเครือสหพัฒน์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อแบรนด์ “ลอว์สัน 108” เปิดเผยว่า แนวทางการทำตลาดมุ่งเน้นความเป็นร้านสะดวกซื้อสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งล่าสุดได้เปิดร้านต้นแบบแห่งแรกที่สาขาเมืองไทยภัทร ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการให้มากขึ้น ได้แก่ การเพิ่ม “Lawson Cafe” ที่จำหน่ายกาแฟ และเครื่องดื่มเกล็ดหิมะ “Lawson 108 Snow Drink” สไตล์ญี่ปุ่น การเพิ่มขนาดพื้นที่ตู้แช่ขึ้นอีกเท่าตัว จากปกติมี 4 ตู้แช่เป็น 8 ตู้แช่ เพื่อรองรับกับอาหารชิล เบนโตะ เพิ่มเมนูอาหารทำที่ร้าน (Instore Cooking) เป็นต้น

รวมทั้งการทำตลาดจะเน้นการสื่อสารและสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น ด้วยการนำวง BNK48 มาร่วมโปรโมตสินค้าใหม่หลายรายการ อาทิ เบอร์เกอร์, แซนด์วิช, เบนโตะ, ข้าวกล่อง เป็นต้น

mp36-3342-a ขณะที่การขยายสาขาของบริษัทนับจากนี้จะมุ่งเน้นสาขาในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ เป็นหลัก หลังจากที่ก่อนหน้าขยายไปยังพื้นที่ชานเมือง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะแบรนด์ไม่เป็นที่รู้จัก จึงได้ปรับกลยุทธ์หันมาจับตลาดกลุ่มคนทำงานในใจกลางเมืองแทน ขณะเดียวกันหากเป็นสาขาในต่างจังหวัด จะขยายเฉพาะในส่วนของพื้นที่ตั้งโรงงานของชาวญี่ปุ่น ในแถบจังหวัดใกล้ๆ กับจังหวัดกรุงเทพฯ อาทิ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา และอยุธยา เป็นต้น

โดยในปีนี้บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่ม 20 แห่ง แบ่งเป็นสาขาในย่านใจกลางจังหวัดกรุงเทพฯ และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินประมาณ 11 แห่ง และอีก 9 แห่งจะเปิดในโรงงานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่เมืองไทย เป็นต้น ทำให้สิ้นปีนี้จะมีสาขาทั้งสิ้น 123 แห่ง ส่วนในปี 2562 จะเพิ่มเป็น 158 แห่ง และ 208 แห่งในปี 2563 ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะมีรายได้ 2,400 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 2,202 ล้านบาท

ด้านนางจิรนันท์ ผู้พัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ผู้บริหารร้านแฟมิลี่มาร์ท กล่าวว่า วันนี้ร้านสะดวกซื้อต้องปรับตัวเพื่อรองรับเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ตามทางเลือกที่เพิ่มมากขึ้น และความนิยมของแปลกใหม่ ขณะที่แฟมิลี่มาร์ทเองมุ่งเน้นการบริการในรูปแบบ one stop shopping 24 ชม. โดยนำเสนอเทรนด์ใหม่ๆ ตามไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค พร้อมนำเสนอความเป็นญี่ปุ่นหรือเจแปนนิส สไตล์ ทั้งสินค้าและบริการที่เป็นเลิศ ทั้งด้านการพัฒนาเมนูใหม่ๆ อาทิ ข้าวปั้นโอนิกิริ, โอเด้ง, ไก่ทอดสูตร ญี่ปุ่น, ข้าวกล่อง, กาแฟสด Coffee Arigato, ชาเขียวจากเกียวโต, ชูครีม, แซนด์วิชสไตล์ญี่ปุ่น เป็นต้น

“ล่าสุดแฟมิลี่มาร์ทได้พลิกโฉมแซนด์วิชในร้านสะดวกซื้อ โดยจับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ตอบโจทย์ทุกมื้ออาหารในช่วงเวลาเร่งด่วนนำเสนอแซนด์วิชสูตรญี่ปุ่นแท้ แบบเฮลตี้ ทั้งขนมปังเนื้อนุ่ม ไม่ฟอกขาว ปราศจากสารปรุงแต่ง สารฟอกสีและ Low sugar จาก บริษัท ไทยยามาซากิ จำกัด และเนื้อ สัตว์และไข่ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานจากบริษัท เบทาโกร จำกัด”

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ รูปแบบการให้บริการแบบวัน สต็อป ช็อปปิ้ง จะเป็นการสร้างความสะดวกสบาย ขณะเดียวกันการบริหารจัดการก็ต้องให้ทันกับความต้องการ เช่น สินค้าต้องสดใหม่เสมอ ฯลฯ ขณะที่การรับชำระเงินก็ต้องมีความหลากหลายทั้ง Credit Card, Rabbit Card, Alipay รวมถึงการจำหน่ายบัตรกิฟท์ การ์ด การเติมเงินผ่าน Line pay เป็นต้น

ขณะที่ผลการวิจัย FoodTrip ของบริษัท นีลเส็น ประเทศไทย พบว่า ร้านสะดวกซื้อกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในการทานข้าวนอกบ้าน โดยผู้บริโภคเข้าร้านสะดวกซื้อเฉลี่ย 21 ครั้งต่อเดือน เพราะ “ร้านสะดวกซื้อ” สามารถบรรเทาความหิวได้ โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคจะทานอาหารมากกว่า 3 มื้อต่อวัน โดยเน้นเป็นอาหารมื้อหลักหรืออาหารพร้อมทาน (RTE :Ready To Eat) ที่นิยมมากที่สุด (Chilled RTE ) โดยเหตุผลที่ว่าอาหารเหล่านี้ประหยัดเวลาในการเตรียมวัตถุดิบและการทำความสะอาดหลังประกอบอาหาร ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จึงส่งผลให้ร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารต่างต้องเพิ่มความหลากหลายของตัวเลือกให้มาก ขึ้น เพื่อสอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของการรับประทานอาหารนอกบ้านของลูกค้า

อย่างไรก็ดี บริษัทเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองหลัก โดยปลายปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวแฟมิลี่มาร์ทแพลตฟอร์มใหม่ใจกลางสุขุมวิท ในบรรยากาศแบบญี่ปุ่นสไตล์มินิมอล เพื่อรองรับลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศโดยเน้นสินค้าและบริการที่หลากหลาย รวมทั้งเปิดพื้นที่โอเพ่น สเปซ ให้คนรุ่นใหม่ นักท่องเที่ยว และคนทำงานในย่านนั้นมาพบปะสังสรรค์ตลอด 24 ชม. และล่าสุดยังเปิดให้บริการสาขาขอนแก่น เป็นฟูด เดสติเนชันแห่งใหม่ของภาคอีสาน และริมหาดป่าตอง จ.ภูเก็ตด้วย โดยปัจจุบันแฟมิลี่มาร์ทมีสาขารวมทั้งสิ้น 1,139 แห่งทั่วประเทศ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,342 วันที่ 22 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
e-book