รพ.แพทย์รังสิตทุ่ม500ล้าน ผุดอาคารใหม่รับผู้ป่วย-เพิ่มรายได้เงินสด60%

โรงพยาบาลแพทย์รังสิต เดินหน้าต่อยอดธุรกิจ หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชำระแบบเงินสดเป็น 60% ผุดอาคารแพทย์แห่งที่ 4 มูลค่ากว่า 500 ล้าน พร้อมทุ่มอีก 20 ล้านรีโนเวตโรงพยาบาลแม่และเด็ก ดันผลการดำเนินงานโต 10-20% ซุ่มเตรียมความพร้อมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ระดมทุน

นายชัยนันท์ แย้มสอาดประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทปทุมรักษ์จำกัดผู้บริหารโรงพยาบาลแพทย์รังสิต เปิดเผยว่า ได้วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ จากค่ารักษาพยาบาลในรูปแบบเงินสดเป็น 60% จากปัจจุบันมีสัดส่วน

[caption id="attachment_261588" align="aligncenter" width="335"] ชัยนันท์ แย้มสอาด[/caption]

ประมาณ50%และสัดส่วนรายได้จากการรักษาในรูปแบบประกันสังคม ประกันสุขภาพประมาณ 50% จึงได้ขยายโอกาสทางธุรกิจด้วยการจัดสร้างอาคารผู้ป่วยแห่งใหม่อาคารที่ 4 มูลค่ากว่า 500 ล้านบาทเพื่อรองรับกับจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับอาคารเดิมที่มีอยู่ มีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ และการขยายการให้บริการใหม่ต่างๆ

ทั้งนี้ อาคารดังกล่าวจะมีขนาดสูง7 ชั้น มีเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยจำนวน 59เตียง และจะมีศูนย์การแพทย์ใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดให้บริการที่โรงพยาบาลมาก่อน อาทิ ศูนย์ส่องกล้อง ศูนย์สมอง และศูนย์ความงาม ขณะที่ศูนย์การแพทย์เดิมจะมีการเพิ่มพื้นที่รองรับการบริการที่มากขึ้น อาทิ ศูนย์ทันตกรรม จะเพิ่มจำนวนให้บริการเป็น 10 ห้อง จากเดิมที่มี 3-4ห้องเป็นต้น โดยคาดว่าการก่อสร้างอาคารดังกล่าวจะแล้วเสร็จ และพร้อมให้บริการได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2562
“ปัจจุบันโรงพยาบาลมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการวันละ2,000 คนสัดส่วน25%หรือประมาณ 500 คน

เป็นผู้ป่วยที่ชำระด้วยเงินสดและประกันชีวิต ซึ่งผู้ที่จ่ายเป็นเงินสดจริงจะมีประมาณ 100 คน เป้าหมายทางโรงพยาบาลต้องการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยให้ได้ 20% หรือวันละ 300 คน เพราะผู้เข้ามาใช้บริการกลุ่มเงินสดแม้จำนวนจะน้อย เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยประกันสังคมที่มี 75% แต่ก็สร้างรายได้สัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน จึงต้องการเพิ่มสัดส่วนกลุ่มผู้ใช้บริการรูปแบบเงินสด แต่จากสถานที่ของโรงพยาบาลที่หนาแน่น ไม่สามารถขยายการบริการใหม่ๆ ได้ จึงได้ลงทุนก่อสร้างอาคารหลังที่ 4 ขึ้น”

นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลยังได้เตรียมปรับปรุงโรงพยาบาลแม่และเด็กที่มีขนาด 56 เตียง เพื่อให้มีความทันสมัยและรองรับการบริการที่เพิ่มมากขึ้น โดยเตรียมงบลงทุนไว้ 20 ล้านบาท เพื่อการปรับปรุงอาคารดังกล่าว ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลแม่และเด็ก มีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการวันละ 200 คน หลังการปรับปรุงอาคารแล้วคาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก 10%

นายชัยนันท์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่โรงพยาบาลดำเนินธุรกิจมากว่า 32 ปี มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่เกิน 10% ซึ่งภายหลังจากการก่อสร้างอาคารใหม่ และการปรับปรุงอาคารเดิม คาดว่าจะส่งผลให้โรงพยาบาลมีอัตราการเติบโตได้กว่า 10-20% ซึ่งนโยบายนับจากนี้จะมุ่งเน้นการต่อยอดธุรกิจ การเน้นด้านศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง เพื่อสร้างอัตราการเติบโตและผลกำไรให้กับทางโรงพยาบาล โดยในส่วนของแผนการนำโรงพยาบาลเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการด้านต่างๆ ซึ่งเป้าหมายของการเข้าจดทะเบียนนั้น เพื่อระดมเงินทุนมาเพื่อต่อยอดธุรกิจเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลยังมีพื้นที่เพื่อรอการพัฒนาอีก 5 ไร่ซึ่งอยู่ติดกับบริเวณเดียวกับทางโรงพยาบาล ที่ขณะนี้ได้ใช้เป็นพื้นที่จอดรถซึ่งในอนาคตอาจจะพัฒนาเป็นโรงพยาบาลแม่และเด็กแห่งที่ 2 เมื่อมีโอกาสและความพร้อม ส่วนพื้นที่ด้านหน้าของโรงพยาบาลขนาด 2 ไร่ ได้ให้นักธุรกิจเช่าและพัฒนาเป็นคอมมิวนิตีมอลล์ขนาด 2 ชั้น โดยจะมีร้านอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ชั้นนำมาเปิดให้บริการ เนื่องจากที่ผ่านมาบุคลากรของโรงพยาบาล และญาติของผู้ป่วยมีความต้องการที่จะซื้อสินค้าดังกล่าว แต่ทางโรงพยาบาลไม่มีพื้นที่รองรับเพียงพอ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,342 วันที่ 22 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561