เจาะย่านเศรษฐกิจใหม่ เพลินจิตถึงพระราม4

24 ก.พ. 2561 | 13:00 น.
แยกเพลินจิตกับวิทยุเป็นทำเลสุดยอดที่มีศักยภาพสูงต่อเนื่องมายาวนานแล้ว เพราะเป็นหนึ่งในทำเลที่มีราคาที่ดินสูงสุดในกรุงเทพมหานคร ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2549 ที่กลุ่มเซ็นทรัลประมูลที่ดินสถานทูตอังกฤษมาในราคา 9.5 แสนบาทต่อตารางวา เพื่อพัฒนาโครง การเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ต่อมาอีกไม่กี่ปีมีการซื้อขายที่ดินกันในราคา 1.5 ล้านบาทต่อตารางวาอีก ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็แพงที่สุดเช่นกัน

ปัจจัยหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าไม่มีที่ดินเหลืออยู่ในทำเลนี้แล้ว แต่ด้วยศักย ภาพของทำเลที่มีทั้งสถานีรถ ไฟฟ้าและอาคารสำนักงานเกรดเอหลายอาคาร ทำให้ความน่าสนใจของที่ดินมีสูง ราคาขายของคอนโดมิเนียมในทำเลนี้จึงสูงมากเช่นกัน

T02-3280-1 นายสุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่าความน่าสนใจของทำเลนี้มีมากขึ้นเมื่อข่าวการซื้อขายที่ดินสถานทูตอังกฤษขนาด 23 ไร่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่ากลุ่มเซ็นทรัลและฮ่องกงแลนด์ได้ไปในราคารวมเกือบ 90,000 ล้านบาท ซึ่งมีข่าวว่าจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ยิ่งช่วยเพิ่มศักยภาพและความน่าสนใจของทำเลนี้มากขึ้นไปอีก เพราะทั้งกลุ่มเซ็นทรัลและฮ่องกงแลนด์ต่างก็มีความชำนาญและศักยภาพในการพัฒนาโครงการอยู่แล้ว จึงเชื่อได้ว่าโครงการที่จะเกิดขึ้นบนที่ดินนี้จะมีความน่าสนใจแน่นอน ประกอบกับกลุ่ม BDMS ที่เข้าไปเทกโอเวอร์ที่ดินโรงแรมปาร์คนายเลิศ นำมาพัฒนาเป็นโครงการ Wellness Center ก็ไม่ไกลจากทำเลนี้เช่นกัน รวมถึงกลุ่มปาร์คนายเลิศเดิม มีแผนจะพัฒนาโครงการนายเลิศ ปาร์ค โฮเต็ล แอนด์ เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ พื้นที่ 20 ไร่ บนที่ตั้งของบ้านปาร์คนายเลิศ ประกอบด้วย ลักชัวรี บูติก โฮเต็ล 60 ห้องและคอนโดมิเนียม ลักชัวรี 100 หน่วย โดยคอนโดมิเนียมจะเปิดเช่าสัญญาระยะยาว (ลีสโฮลด์) 30 ปี เงินลงทุนทั้งโครง การ 1,500 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน

“ศักยภาพของทำเลย่านเพลินจิตหลังจากโครงการขนาดใหญ่ๆ เกิดขึ้นจะมากขึ้นแน่นอน ราคาคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ที่มีอยู่ไม่มากจะยิ่งสูงขึ้น โครงการที่จะเปิดขายใหม่ในอนาคตยิ่งสูงกว่าปัจจุบันเเน่นอน ค่าเช่าอาคารสำนักงานในทำเลนี้ก็สูงกว่าอาคารเกรดเอในทำเลอื่นๆ เช่นกัน”

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก ขณะที่ทำเลแยกพระราม 4 กับถนนวิทยุเพิ่งจะมีความน่าสนใจเมื่อโครงการ One Bangkok ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยกลุ่มทีซีซี และ เฟรเซอร์ ของสิงคโปร์ ที่มีความชำนาญในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่เช่นกัน ซึ่งรูปแบบโครงการจะช่วยและส่งเสริมภายในโครงการกับพื้นที่โดยรอบอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านั้นทำเลแถวนี้แทบไม่มีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นเลย อาจจะเป็นเพราะที่ดินบริเวณนี้เป็นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และกรมธนารักษ์ทำให้มีข้อจำกัดในการพัฒนามากมาย พื้นที่บริเวณรอบสี่แยกนี้จึงมีโครงการของภาคเอกชนเกิดขึ้นไม่มาก พอ One Bangkok เปิดตัวออกมาด้วยงบลงทุนหลักแสนล้านบาทบนที่ดิน 104 ไร่ทำให้ศักยภาพและความน่าสนใจของทำเลนี้สูงขึ้นทันที แม้ว่าโครงการนี้จะใช้เวลาในการพัฒนาหลายปีก็ตาม

อีกทั้งโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่อื่นๆ ก็อยู่บนถนนพระราม 4 เช่นกันซึ่งไม่ไกลจาก One Bangkok และมีรูปแบบโครงการที่คล้ายคลึงกัน ศักย ภาพของทำเลนี้เมื่อมีโครงการขนาดใหญ่ที่มีทั้งพาณิชยกรรม เช่น ค้าปลีก สำนักงาน โรงแรม และโครงการที่อยู่อาศัยแบบเช่าระยะยาว คนจำนวนมากทั้งจากคนที่มาทำงานและนักท่องเที่ยวจะเข้ามาในทำเลนี้มากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้อาจจะมีไม่มากเท่าใดนัก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,342 วันที่ 22 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว