เคแอนด์บีรุกโมเดิร์นเทรด สยายปีกตลาดต่างประเทศ วางเป้ารายได้ 400 ล้านบาท

24 กุมภาพันธ์ 2561
เค แอนด์ บี เตรียมแผนขยายตลาดสู่โมเดิร์นเทรดเพิ่มเติมต่อยอดช่องทางจำหน่ายเดิม พร้อมเล็งลุยตลาดกัมพูชา รวมถึงทำผลิตภัณฑ์ในรูปแบบชิ้น และแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ไปสู่การตกแต่งใบหน้า เชื่อสร้างรายได้ 400 ล้านบาทปีนี้

นางสาวเกดกานต์ นิละทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค แอนด์ บี คอสเมติก จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางในรูปแบบของ BB เนื้อครีมแบบซองภายใต้แบรนด์ “นามิ” (NAMI) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในปี 2561 มีแผนที่จะขยายช่องทางในการทำตลาดไปสู่การนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดอื่นเพิ่มเติม นอกเหนือจากเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11),เทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส, ร้าน EVEANDBOY, มินิบิ๊กซีและร้านค้าส่งเครื่องสำอางทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

[caption id="attachment_261393" align="aligncenter" width="335"] เกดกานต์ นิละทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค แอนด์ บี คอสเมติก จำกัด เกดกานต์ นิละทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค แอนด์ บี คอสเมติก จำกัด[/caption]

นอกจากนี้ ยังเตรียมที่จะขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ โดยใช้กลยุทธ์การหาตัวแทนจำหน่าย เพราะจะมีความเชี่ยวชาญในการทำตลาดในประเทศเหล่านั้นมากกว่าการที่บริษัทเข้าไปทำตลาดเอง หลังจากนั้นเมื่อมีการวางรากฐานที่มั่นคงก็จะเข้าไปขยายตลาดด้วยตัวบริษัทเอง จากเดิมที่มีร้านค้าส่งซึ่งรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปจำหน่ายนำไปทำตลาดตามแนวตะเข็บชายแดน โดยจะเริ่มต้นที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทได้

อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนที่จะต่อยอด และขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ไปสู่การทำผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของเมกอัพที่เป็นชิ้น จากเดิมที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะจำหน่ายในรูปแบบซอง อีกทั้งยังจะดำเนินการออกผลิตภัณฑ์ประเภทอายไลเนอร์ ดินสอเขียนคิ้ว หรือเครื่องสำอางประเภทของการตกแต่งใบหน้าเพิ่มมากขึ้นภายใต้แบรนด์ “นามิ” ขณะที่ช่องทางในส่วนของตลาดออนไลน์ ก็จะยังมีการพัฒนาเนื้อหา และรูปแบบการนำเสนอให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นทั้งเฟซบุ๊ก, เว็บไซต์,ไลน์แอด (LINE@) และอินสตาแกรม (IG)

“ในความเป็นจริงบริษัทก็มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลผิวทำตลาดควบคู่ไปด้วย โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาเป็นส่วนประกอบหลักที่สำคัญภายใต้ซีรีส์ I’m Fresh ซึ่งมียอดขายใกล้เคียงกับ BB เนื้อครีมแบบซอง ซึ่งจากกลยุทธ์ในการทำตลาดปีนี้เชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 350 ล้านบาท”

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์ นางสาวเกดกานต์ กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “นามิ” คือการเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สีผิวของผู้หญิงไทยซึ่งส่วนใหญ่จะมีสีผิวโทนเหลือง หากใช้ผลิตภัณฑ์ BB จากต่างประเทศจะทำให้ผิวหน้าเป็นสีเทา หรือวอกจนทำให้หน้าลอย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการควบคุมความมันของผิวหน้าระหว่างวัน และช่วยป้องกันแดด ซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของเมกอัพ โดยจำหน่ายในราคาที่ไม่สูงจนเกินไปที่ซองละ 49 บาท ทำให้ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในวัยเรียนและวัยเริ่มทำงาน ซึ่งอาจจะยังมีกำลังซื้อไม่สูงมากนัก ขณะที่ในช่วงหลังเริ่มมีกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มมากขึ้น

“กุญแจที่ไขประตูไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจที่ยึดถือมาโดยตลอดก็คือ การทำผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดี เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการซื้อซํ้า และมีการบอกต่อจากลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เราขายสินค้าได้อย่างยาวนานและยั่งยืน โดยจะไม่ดำเนินการตามกระแสของตลาดเพียงอย่างเดียว เพราะเชื่อว่าจะทำตลาดได้ไม่นานยอดก็จะตก โดยผลิตภัณฑ์ BB เนื้อครีมเริ่มทำตลาดมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 ก็ได้รับการตอบรับที่ดี และเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,342 วันที่ 22 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว