'ทุนจีน' ฮุบ 'คอนโดอีอีซี'!! เปิดทางต่างชาติซื้อ 100% ปลุกราคาที่พุ่งเท่าตัว

18 ก.พ. 2561 | 05:00 น.
1152

ตลาดที่อยู่อาศัย ‘อีอีซี’ คึกคัก! หลังรัฐบาลปลดล็อกต่างชาติซื้อคอนโดฯ 100% ... ผู้ประกอบการมั่นใจช่วยกระตุ้นอสังหาฯ ผวา ‘ทุนจีน’ มาแรง พัฒนา-ขายเอง ทำเอกชนไทยเสียเปรียบ แฉ! ปัจจุบันใช้นอมินีสร้างคอนโดฯ ในชลบุรี พัทยา แล้วกว่า 10 โครงการ




วิษณ-2

กรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน ASA Real Estate Forum Dinner Talk Award 2018 ซึ่งจัดโดย สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท อัลทิเมท พร๊อพเพอร์ตี้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. .... ผ่านความเห็นชอบวาระ 2 และวาระ 3 แล้ว ซึ่งสภานิติบัญญัติ (สนช.) มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ ให้ประกาศเป็นกฎหมาย

โดยมี 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา จะได้รับสิทธิ์พิเศษในการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ 10 โซน โดยเฉพาะพื้นที่ไข่แดง จะได้รับการยกเว้นเกี่ยวกับข้อบังคับทางผังเมือง ตลอดจนการใช้สิทธิ์คนต่างด้าวซื้อที่ดินและอาคารชุดได้ 100% ซึ่งเป็นการผ่อนปรนกฎหมายเดิม เฉพาะพื้นที่อีอีซี

นางพจนี อรรถโรจน์ภิญโญ รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวว่า การเปิดให้ต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมได้ 100% เพื่อรองรับการอยู่อาศัย ซึ่งในกฎหมายอีอีซีไม่ระบุไว้ เข้าใจว่า น่าจะออกเป็นกฎหมายลูกรองรับออกมา


ไม่ลงทุน 3 ปี ตัดสิทธิ์!
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า คนต่างด้าวที่จะสามารถถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน หรือ การซื้ออาคารชุดทั้ง 100% ต้องเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่ลงทุนในอีอีซี ตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการอีอีซีกำหนด

ซึ่งในส่วนของอาคารชุดเดิม กฎหมายกำหนดให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ได้เกิน 49% ของอาคาร แต่ผู้ประกอบธุรกิจต่างชาติบางรายอาจมีความต้องการใช้พื้นที่มากกว่า 49% กฎหมายจึงกำหนดให้สามารถถือกรรมสิทธิ์ได้ 100% แต่มีเงื่อนไขว่า ถ้าไม่ประกอบธุรกิจติดต่อกัน 3 ปี จะต้องขายที่ดิน หรือ อาคารชุด ที่ถือครองกรรมสิทธิ์ภายใน 1 ปี ถ้าไม่ขายออก สำนักงานอีอีซีจะเข้ามาดำเนินการขายแทน พร้อมยืนยันว่า สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้มากกว่าสิทธิประโยชน์ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน

ขณะที่ ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันต่างชาติสามารถถือครองห้องชุดเฉพาะตัวห้องได้ 100% แต่สัดส่วนไม่เกิน 49% ของอาคาร ตามกฎหมายอาคารชุด แต่หากกฎหมายอีอีซีกำหนดให้สามารถซื้อยกตึก รวมทั้งต่างชาติซื้อที่ดินได้ 100% ทำให้ต่างชาติสามารถเป็นดีเวลอปเปอร์ในไทยได้ โดยเฉพาะจีน


appMP33-3176-A

ซึ่งอาจจะกระทบดีเวลอปเปอร์ไทย แต่ข้อดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ไปลงทุนในพื้นที่อีอีซี หากเปิดขายคอนโดมิเนียมให้ต่างชาติยกตึก 100% ก็ช่วยให้ระบายได้ รวมทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบสำหรับผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยในโครงการของไทย ทั้งเช่าและซื้อ


ดันตลาดคอนโดฯ ขายดี!
ด้าน นายสุริยา สุริยาภิวัฒน์ ผู้จัดการสำนักวิจัย บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวว่า การปลดล็อก 3 จังหวัดอีอีซี ถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด 100% จะช่วยกระตุ้นการขายพื้นที่ให้คนต่างชาติได้แบบยกอาคาร ซึ่งเป็นผลดีกับดีเวลอปเปอร์ไทย แต่ไม่เห็นด้วยที่จะเปิดช่องให้ต่างชาติซื้อที่ดิน เพราะจะทำให้ต่างชาติซื้อที่ดินเองและพัฒนาเอง และปัจจุบันชาวต่างชาติก็จะมาในรูปนอมินี หรือ การร่วมทุนกับคนไทย ซึ่งขณะนี้มีการลงทุนจำนวนมากแล้ว


Ad_Online-03-503x62-1

นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จ.ชลบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันจีนเข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในชลบุรีกว่า 10 โครงการ รูปแบบนอมินี มีคนไทยถือหุ้น ขณะเดียวกันยังกว้านซื้อที่ดินรอการพัฒนา ส่วนพัทยา คนจีนจะซื้อคอนโดมิเนียมเหมายกตึก ส่วนที่เกิน 49% จะซื้อในนามนอมินี แต่เน้นรองรับการท่องเที่ยวเป็นหลัก อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลเปิดโอกาสให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ 100% ในเขตอีอีซี จะเป็นผลดีกับดีเวลอปเปอร์ไทย เพราะต่างชาติมีกำลังซื้อที่ดี และอีก 2 ปี จะเห็นการเซ็นสัญญาก่อสร้างและลงทุน ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ย่อมเกิดขึ้น รวมทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบด้วย

สำหรับราคาที่ดินใน จ.ชลบุรี ขยับขึ้น 50-100% จาก 2 ปีก่อน ช่วงกระแสอีอีซี อาทิ ศรีราชา บางแสน แหลมฉบัง ฯลฯ ถนนสายรอง ย่านชุมชน อาทิ ถนนหนองขาม ก่อนถึงอ่างเก็บน้ำหนองค้อ ราคา 8-10 ล้านบาทต่อไร่ จากเดิม 4-5 ล้านบาทต่อไร่ เป็นต้น


จีนจ่อบุกอีอีซี!
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่อีอีซีพัฒนาไปค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่เป็นแนวราบ ถึงวันนี้ก็ไปได้ดี โดยเฉพาะที่ศรีราชา ถือเป็นศูนย์กลางตลาดญี่ปุ่น มีทั้งโรงเรียนนานาชาติ, พัทยา ตลอดคอนโดมิเนียมกำลังจะกลับมา เชื่อว่า หลังจากระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เชื่อว่าจะมีนักลงทุนเข้าไปที่นั่นจำนวนมาก

โดยเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่ ต้องบริหารจัดการดีมานด์และซัพพลายให้เหมาะสม คาดว่าจะเกิดซัพพลายขึ้นค่อนข้างมาก แต่ถ้าซัพพลายมาจากต่างประเทศมาก ก็ต้องมีดีมานด์จากต่างประเทศตามมามากด้วย เพราะด้วยที่ตั้งของประเทศไทยถือเป็นทำเลศักยภาพเป็นศูนย์กลางของอาเซียนอยู่แล้ว


………………..
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,341 วันที่ 18-21 ก.พ. 2561 หน้า 01-02

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว