เห่อ‘ไอซีโอ’ เจฟินเกลี้ยง CXOจ่อขาย
คนไทยเห่อเล่นเงินดิจิตอล ไอซีโอ JFin Coin ขายหมดใน 3 วัน ระดมเงิน 660 ล้านบาทฉลุย “คริปโตเวชั่น” เตรียมออกขายโทเคน CXO หรือ CryptovationX ICO ปลายมีนาคมนี้ ระดมทุน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1 พันล้านบาท พัฒนาหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุน
[caption id="attachment_254666" align="aligncenter" width="335"]
ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JVC[/caption]
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC บริษัทย่อยของบริษัทเจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART) กล่าวว่า การระดมทุน ICO (Initial Coin Offering) 100 ล้านเหรียญ (coin) วงเงินรวม 660 ล้านบาท ที่มูลค่าเหรียญละ 6.60 บาท ได้จำหน่ายหมดลงแล้วเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากใช้เวลาเพียง 3 วัน (14-16 ก.พ. 2561) โดยมีจำนวนผู้ซื้อกว่า 2,000 ราย
“ส่วนที่เหลืออีก 200 ล้านเหรียญ(coin) ที่เหลือ ผมขอเวลาไปคิดก่อนว่าจะมีการทบทวนหรือปรับแผนอย่างไรจากการขายในรอบนี้”
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาการระดมทุน ICO (Initial Coin Offering) ของ JVC กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงผลตอบรับจากการเสนอขายโทเคน “ JFin Coin” รอบพรีเซล วันที่ 14-28 กุมภาพันธ์ 61 ว่าพอใจมาก ประกอบกับราคาบิตคอยน์ช่วงนี้ปรับขึ้นจึงเป็นตัวช่วยแรงหนุนอีกทาง
ทั้งนี้ เจ มาร์ท มุ่งมั่นจะขอใบอนุญาต Peer to Peer Lending เพื่อจะใช้ในการปล่อยกู้ให้ทางกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าการกำกับดูแลจะขึ้นอยู่กับหน่วยงานใด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือกระทรวงการคลัง
“เหรียญทุกอย่างมี 2 ด้าน แบงก์ชาตินอกเหนือจากการออกมาเตือนเรื่องนี้ ก็ควรติดอาวุธทางการเงิน ให้ความรู้ช่องทางระดมทุนอื่นๆ เพิ่มด้วย” นายปริญญ์กล่าว
ในขณะที่ JFin Coin ประสบความสำเร็จ ขายหมดใน 3 วัน ระดมเงินทุน 660 ล้านบาท บริษัท คริปโตเวชั่นฯ มีแผนระดมทุนจากไทยและทั่วโลกจำนวน 47,000 ETH (Ethereum) หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท (ปัจจุบันราคาของอีเทอเรียม 1 หน่วย ประมาณ 900 ดอลลาร์สหรัฐฯ)
บริษัทจะออกเหรียญ CXO จำนวน 900 ล้านหน่วย ผู้ซื้อจะต้องใช้สกุลเงินดิจิตอลในการซื้อคือ อีเทอเรียม (ETH) โดย 1 ETH จะซื้อ CXO ได้ 10,800 หน่วย คาดว่าจะออกขายได้ปลายเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นจะนำ CXO เข้าซื้อขายในตลาดรองอย่างน้อย 2 แห่ง
เงินระดมทุนที่ได้มานั้น บริษัทจะนำไปวิจัยพัฒนา Platform และ Robo-advisory ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยบริษัทมีหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนทั้งหมด 3 ตัว คือ “อาร์บี้ (Arbi)” ช่วยสอนและให้ความรู้เกี่ยวกับการทำอาร์บิทราจ ช่วยให้สัญญาณการทำอาร์บิทราจ ทำการซื้อขายแบบอาร์บิทราจให้แบบอัตโนมัติ
“สเปกโต้ (Specto)” ช่วยให้สัญญาณการเก็งกำไร และเทรดเก็งกำไรให้อัตโนมัติ และ “โบรก้า (Broca)” มีความสามารถที่จะช่วยสมัคร Exchange (ให้ข้อมูลกับ Broca ครั้งเดียวแล้วสมัครต่อให้ได้อีกอย่างน้อย 10 Exchange) นอกจากนี้จะยังสามารถช่วยคัดเลือก ICO และกำลังประมวลผล Cloud Mining มาเสนอขายให้ได้อีกด้วย
นายพลเดช อนันชัย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด กล่าวว่า จุดเด่นของเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) คือ นักลงทุนที่ถือเหรียญสามารถใช้บริการหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนทั้ง 3 ตัวของ CrytovationX ได้
ปัจจุบันประชากรโลกส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดเหรียญดิจิตอล และให้ความสนใจในเครื่องมือช่วยการลงทุนมากขึ้นกว่าอดีต สำหรับคนไทยต้องยอมรับว่าเทคโนโลยี Blockchain ยังคงเป็นเรื่องใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอนาคตผู้ลงทุนจะมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น จะส่งผลให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้นด้วย
แนวโน้มที่กำลังมาในปัจจุบัน คือ สังคมไร้เงินสด โดยนายพลเดชอธิบายว่า Cryptocurrency คือ สกุลเงินดิจิตอล หรือ เงินดิจิตอล ที่ออกแบบมาให้เข้ารหัส และกระจายออกไปในส่วนอื่นๆ โดยไม่มีศูนย์กลาง และไม่มีการควบคุมจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือที่เรียกว่า Blockchain ที่เก็บข้อมูลแบ่งออกเป็น ก้อนๆ (block) และกระจายออกไปเชื่อมโยงกันไปอย่างต่อเนื่องเหมือนโซ่ (chain)
“ราคาของ Cryptocurrency ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนในขณะนั้น จึงไม่ได้เกิดจากสภาพเศรษฐกิจหรือในโลกภายนอก มีการซื้อขาย Cryptocurrency ในสกุลเงินต่างๆ ออนไลน์กันอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง หากความต้องการสกุลเงินไหนมาก และเป็นที่นิยมสกุลเงินดังกล่าวก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ”
บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด จดทะเบียนใน 3 ประเทศได้แก่ ประเทศไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ โดยดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเครื่องมือ เพื่อการบริหารจัดการทรัพย์สินดิจิตอล
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,341 วันที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
[caption id="attachment_254666" align="aligncenter" width="335"]
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC บริษัทย่อยของบริษัทเจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART) กล่าวว่า การระดมทุน ICO (Initial Coin Offering) 100 ล้านเหรียญ (coin) วงเงินรวม 660 ล้านบาท ที่มูลค่าเหรียญละ 6.60 บาท ได้จำหน่ายหมดลงแล้วเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากใช้เวลาเพียง 3 วัน (14-16 ก.พ. 2561) โดยมีจำนวนผู้ซื้อกว่า 2,000 ราย
“ส่วนที่เหลืออีก 200 ล้านเหรียญ(coin) ที่เหลือ ผมขอเวลาไปคิดก่อนว่าจะมีการทบทวนหรือปรับแผนอย่างไรจากการขายในรอบนี้”
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาการระดมทุน ICO (Initial Coin Offering) ของ JVC กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงผลตอบรับจากการเสนอขายโทเคน “ JFin Coin” รอบพรีเซล วันที่ 14-28 กุมภาพันธ์ 61 ว่าพอใจมาก ประกอบกับราคาบิตคอยน์ช่วงนี้ปรับขึ้นจึงเป็นตัวช่วยแรงหนุนอีกทาง
ทั้งนี้ เจ มาร์ท มุ่งมั่นจะขอใบอนุญาต Peer to Peer Lending เพื่อจะใช้ในการปล่อยกู้ให้ทางกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าการกำกับดูแลจะขึ้นอยู่กับหน่วยงานใด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือกระทรวงการคลัง
“เหรียญทุกอย่างมี 2 ด้าน แบงก์ชาตินอกเหนือจากการออกมาเตือนเรื่องนี้ ก็ควรติดอาวุธทางการเงิน ให้ความรู้ช่องทางระดมทุนอื่นๆ เพิ่มด้วย” นายปริญญ์กล่าว
ในขณะที่ JFin Coin ประสบความสำเร็จ ขายหมดใน 3 วัน ระดมเงินทุน 660 ล้านบาท บริษัท คริปโตเวชั่นฯ มีแผนระดมทุนจากไทยและทั่วโลกจำนวน 47,000 ETH (Ethereum) หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท (ปัจจุบันราคาของอีเทอเรียม 1 หน่วย ประมาณ 900 ดอลลาร์สหรัฐฯ)
บริษัทจะออกเหรียญ CXO จำนวน 900 ล้านหน่วย ผู้ซื้อจะต้องใช้สกุลเงินดิจิตอลในการซื้อคือ อีเทอเรียม (ETH) โดย 1 ETH จะซื้อ CXO ได้ 10,800 หน่วย คาดว่าจะออกขายได้ปลายเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นจะนำ CXO เข้าซื้อขายในตลาดรองอย่างน้อย 2 แห่ง
เงินระดมทุนที่ได้มานั้น บริษัทจะนำไปวิจัยพัฒนา Platform และ Robo-advisory ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยบริษัทมีหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนทั้งหมด 3 ตัว คือ “อาร์บี้ (Arbi)” ช่วยสอนและให้ความรู้เกี่ยวกับการทำอาร์บิทราจ ช่วยให้สัญญาณการทำอาร์บิทราจ ทำการซื้อขายแบบอาร์บิทราจให้แบบอัตโนมัติ
“สเปกโต้ (Specto)” ช่วยให้สัญญาณการเก็งกำไร และเทรดเก็งกำไรให้อัตโนมัติ และ “โบรก้า (Broca)” มีความสามารถที่จะช่วยสมัคร Exchange (ให้ข้อมูลกับ Broca ครั้งเดียวแล้วสมัครต่อให้ได้อีกอย่างน้อย 10 Exchange) นอกจากนี้จะยังสามารถช่วยคัดเลือก ICO และกำลังประมวลผล Cloud Mining มาเสนอขายให้ได้อีกด้วย
นายพลเดช อนันชัย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด กล่าวว่า จุดเด่นของเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) คือ นักลงทุนที่ถือเหรียญสามารถใช้บริการหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนทั้ง 3 ตัวของ CrytovationX ได้
ปัจจุบันประชากรโลกส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดเหรียญดิจิตอล และให้ความสนใจในเครื่องมือช่วยการลงทุนมากขึ้นกว่าอดีต สำหรับคนไทยต้องยอมรับว่าเทคโนโลยี Blockchain ยังคงเป็นเรื่องใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอนาคตผู้ลงทุนจะมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น จะส่งผลให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้นด้วย
แนวโน้มที่กำลังมาในปัจจุบัน คือ สังคมไร้เงินสด โดยนายพลเดชอธิบายว่า Cryptocurrency คือ สกุลเงินดิจิตอล หรือ เงินดิจิตอล ที่ออกแบบมาให้เข้ารหัส และกระจายออกไปในส่วนอื่นๆ โดยไม่มีศูนย์กลาง และไม่มีการควบคุมจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือที่เรียกว่า Blockchain ที่เก็บข้อมูลแบ่งออกเป็น ก้อนๆ (block) และกระจายออกไปเชื่อมโยงกันไปอย่างต่อเนื่องเหมือนโซ่ (chain)
“ราคาของ Cryptocurrency ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนในขณะนั้น จึงไม่ได้เกิดจากสภาพเศรษฐกิจหรือในโลกภายนอก มีการซื้อขาย Cryptocurrency ในสกุลเงินต่างๆ ออนไลน์กันอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง หากความต้องการสกุลเงินไหนมาก และเป็นที่นิยมสกุลเงินดังกล่าวก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ”
บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด จดทะเบียนใน 3 ประเทศได้แก่ ประเทศไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ โดยดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเครื่องมือ เพื่อการบริหารจัดการทรัพย์สินดิจิตอล
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,341 วันที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
