เหล็ก GI ป่วน! นำเข้าล้านตัน บี้รัฐเร่ง 'เอดี'

18 ก.พ. 2561 | 07:18 น.
1409

พาณิชย์ยังไร้ข้อสรุปใช้มาตรการ ‘เอดี’ เล่นงานสินค้าเหล็ก GI จากจีน เกาหลี ไต้หวัน หลังผู้ประกอบการระบุ ทะลักเข้าไทยพุ่ง 1 ล้านตันต่อปี ... 10 ผู้ผลิตในประเทศนั่งไม่ติด ของนอกตีตลาดดัมพ์ราคาถูกกว่า 2-3 พันบาทต่อตัน

จากที่กระทรวงพาณิชย์ได้รับเรื่องจากเอกชนถึงความเดือดร้อนจากผลกระทบเหล็กแผ่นรีดเย็นเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (GI) จากจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน เข้ามาทุ่มตลาด และได้เริ่มเปิดไต่สวนเพื่อพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 2559 เวลาล่วงเลยมากว่า 1 ปี 5 เดือน ภาคเอกชนหวังทางกระทรวงจะเร่งสรุปผลการไต่สวน เพื่อใช้หรือไม่ใช้มาตรการเอดีนั้น

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) ที่มี น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2561 ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาผลการไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กประเภทดังกล่าวจากทั้ง 3 ประเทศข้างต้น ได้รับรายงานว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะตัดสินใจใช้มาตรการเอดีหรือไม่ เพราะยังต้องการมีการพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างรอบด้าน

 

[caption id="attachment_242487" align="aligncenter" width="503"] นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์[/caption]

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุที่ ทตอ. ยังไม่ตัดสินว่า จะใช้มาตรการเอดี จะต้องวิเคราะห์ข้อมูลว่า ราคาเหล็กที่นำเข้ามาจำหน่ายขายในราคาต่ำกว่าเหล็กชนิดเดียวกันที่จำหน่ายในประเทศต้นทางหรือไม่ นอกจากนี้ ต้องพิจารณาข้อมูลจากผู้มีส่วนได้เสียในประเทศอย่างรอบด้าน ซึ่งในการพิจารณาว่า เข้าข่ายจะใช้มาตรการเอดีหรือไม่ จะดูว่า มีการทุ่มตลาดจริง เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายในของประเทศผู้นำเข้า และความเสียหายนั้นเป็นผลจากการทุ่มตลาด ขณะที่ ความเสียหายจะดูจากหลายองค์ประกอบ เช่น สินค้าในประเทศถูกตัดราคา ไม่สามารถขยับราคาให้สูงขึ้นได้ ปริมาณการผลิตลดลง สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น ส่วนแบ่งตลาดลดลง สินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เป็นต้น ส่วนอีกด้านหนึ่งจะดูว่า การนำเข้าเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะหรือไม่

แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นเคลือบสังกะสี (GI) เผยว่า ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินมาตรการเอดี ขณะนี้ เหล็ก GI มียอดนำเข้ามาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 5-6 แสนตันต่อปี ขยับขึ้นมาถึงหลัก 1 ล้านตันต่อปีแล้ว ทำให้กดดันผู้ผลิตเหล็ก GI ในประเทศมากขึ้น เนื่องจากราคาเหล็กดังกล่าวนำเข้ามาในราคาถูกกว่าซื้อในประเทศ 2,000-3,000 บาทต่อตัน อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปีก่อน จากที่ตลาดในประเทศซื้อขายอยู่ที่ราคาตั้งแต่ 27,000-34,000 บาทต่อตัน ส่วนใหญ่ลูกค้ามาจากกลุ่มผู้ผลิตท่อเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า

“ผู้ผลิตในประเทศ 8-10 ราย กำลังเผชิญปัญหาการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากมีกำลังผลิตรวมในประเทศราว 1 ล้านตันต่อปี เพียงพอต่อการใช้ในประเทศ แต่กลับถูกแข่งขันโดยการนำเข้ามาขายในราคาต่ำกว่าในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเป็นล้านตันต่อปี”


15400302_996850513787258_791654734524104406_n
แหล่งข่าว ระบุอีกว่า การนำเข้าที่สูงขึ้นส่วนใหญ่มาจาก 3 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่อยู่ระหว่างไต่สวน โดยจีนจะมีอัตราการนำเข้าสูงสุดถึง 5 แสนตัน อีก 2 แสนตัน จากเกาหลีใต้และไต้หวัน และอีก 3 แสนตัน นำเข้าจากประเทศอื่น ๆ

แหล่งข่าวอีกรายกล่าวว่า ขณะนี้ วงการผลิตเหล็ก GI จับตาผลการพิจารณาขั้นสุดท้าย กรณีการเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าเหล็ก GI จากจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่พบว่า มีการทุ่มตลาดจริง แต่คณะกรรมการฯ อาจให้ความเห็นว่า อุตสาหกรรมภายในไม่เสียหาย ทั้ง ๆ ที่ผลไต่สวนพบว่า มีการดัมพ์ราคาจากประเทศที่ถูกกล่าวหา ซึ่งเวลานี้ตั้งข้อสังเกตกันว่า ถ้าไม่เสียหายแล้ว ทำไมอัตราการใช้กำลังผลิตของอุตสาหกรรมภายในเหลืออยู่เพียง 30% ขณะที่ ยอดนำเข้าเพิ่มจาก 4 แสนตัน เป็น 7 แสนตัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง


Ad_Online-03-503x62-1

“หากรัฐบาลไม่ใช้มาตรการเอดีปกป้องอุตสาหกรรมภายใน จะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมเหล็กอื่น ๆ ทั้งระบบด้วย ไม่เพียงแต่เหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กแผ่นรีดเย็น ที่เป็นวัตถุดิบของเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีเท่านั้น แต่ยังกระทบไปยังอุตสาหกรรมเหล็กอื่น ๆ ที่นำเหล็ก GI ไปใช้เป็นวัตถุดิบ หรือ ใช้เป็นสินค้าทดแทนได้ เช่น กลุ่มท่อและเหล็กแปรรูปต่าง ๆ และจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเหล็กไทย รวมทั้งจะเป็นครั้งแรกในระดับโลกที่พบการทุ่มตลาดเหล็กจากจีน แต่ให้ยุติการไต่สวนและไม่ใช้มาตรการตอบโต้ใด ๆ”

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศ พบว่า ณ ปัจจุบัน นอกจากไทยอยู่ระหว่างเปิดไต่สวนใช้มาตรการเอดีกับสินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นเคลือบสังกะสีจาก 3 ประเทศข้างต้นแล้ว ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนใช้มาตรการเอดีกับสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วนจากออสเตรเลีย


………………..
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,341 วันที่ 18-21 ก.พ. 2561 หน้า 01-15

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว