Play
สิงห์-คริสตัลเปิดศึกนํ้าดื่ม ลุยตลาดดิจิตอล เพิ่มส่วนแบ่ง-ดึง ‘วู้ดดี้’ สร้างแบรนด์
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
ตลาดนํ้าดื่มแข่งเดือด บิ๊กแบนด์แห่ทำตลาดปั๊มยอดขาย รักษาส่วนแบ่งการตลาด สิงห์ เตรียมลุยดิจิตอล ด้านคริสตัล ดึงวู้ดดี้สร้างแบรนด์ พร้อมสยายปีกบุกอาเซียน
ปีที่ผ่านมามูลค่าตลาดนํ้าดื่มมีประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ตลาดติดลบ 2% จากปัจจัยภาพรวมเศรษฐกิจระดับรากหญ้าไม่ค่อยดี และมีเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน แต่ภาวะการแข่งขันตลาดนํ้าดื่มยังคงรุนแรง จากบรรดาผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ทำตลาด ซึ่งกลยุทธ์หลักที่นำมาใช้เป็นอาวุธเพื่อการแข่งขัน ยังคงเป็นสงครามราคาและโปรโมชันที่รุนแรง ขณะที่ปี 2561 ดูเหมือนบรรยากาศภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อ เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น แต่สงครามการตลาดของกลุ่มนํ้าดื่ม ก็ไม่ได้กลับลดน้อยลงแต่อย่างใด
[caption id="attachment_260255" align="aligncenter" width="335"]
ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด[/caption]
นายภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่าในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการนำกลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งในการสร้างการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น หลังจากที่ภาพรวมธุรกิจนํ้าดื่มสิงห์ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาลดลงอย่างต่อเนื่อง จากที่เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งจาก 27% ลดลงเหลือ 25% และ 20% ตามลำดับ ทำให้บริษัทต้องมีการปรับกลยุทธ์การทำตลาดอีกเพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อทวงคืนตลาดส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มนํ้าดื่มอีกครั้ง
“ที่ผ่านมาภาพรวมตลาดนํ้าดื่มมีการแข่งขันเรื่องราคารุนแรงมาก ทำให้สิงห์พลาดเป้าและส่วนแบ่งทางการตลาดลดลง ซึ่งหากไม่อยากเสียมาร์เก็ตแชร์ไป ก็สามารถทำได้ เพียงแค่ใช้เม็ดเงินพร้อมกับอัดโปรโมชันก็สามารถทำได้แล้ว โดยที่ผ่านมานํ้าดื่มสิงห์มีการเติบโต 15-20%ต่อปีอยู่แล้วแต่เป็นการเติบโตที่ไม่เทียบเท่าตลาดและให้ความสำคัญกับผลกำไรแต่ต้นทุนมากกว่า โดยในปีนี้บริษัทได้เตรียมแผนงานในการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้ดีขึ้นอีกครั้ง”
โดยปีที่ผ่านมาธุรกิจนํ้าสิงห์มีรายได้ 8,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 20% เป็นเบอร์ 2 รองจากคริสตัล ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด 20% โดยในสิ้นปีนี้บริษัทวางเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 23% ขณะที่ภาพรวมบุญรอดเทรดดิ้งฯในสิ้นปีที่ผ่านมามีรายได้ราว1.2แสนล้านบาทแบ่งเป็น กลุ่มสินค้าแอลกอฮอล์ 80% และสินค้าไม่มีแอลกอฮอล์ 20% ขณะที่กลุ่มธุรกิจเบียร์ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 62% หรือมียอดขาย 1,320 ล้านลิตร
อย่างไรก็ตาม นโยบายของบริษัทนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาบุคลากร ให้เหมาะสมกับเนื้องานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดการมองหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริมพอร์ตสินค้าเดิมของบริษัทอยู่เสมอ ทั้งรูปแบบการร่วมทุนและจับมือกับพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งยังมองหาธุรกิจที่หลากหลาย เช่นพลังงานทดแทน อสังหาริมทรัพย์ เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ
ด้านนายเลสเตอร์เต็ก ชวน ตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนํ้าดื่มคริสตัลกล่าวว่า บริษัทจะรุกตลาดนํ้าดื่มเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดในไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำแบรนด์คริสตัลขยายตลาดไปยังภูมิภาคอาเซียน เบื้องต้นขณะนี้กำลังวางแผนงานระยะยาว 2563-2568 เพื่อให้สอดคล้องกับวิชันของไทยเบฟเวอเรจ 2020 วางเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดได้เปิดแคมเปญการตลาดในช่วงหน้าร้อน “สั่งนํ้าดื่ม เจาะจงคริสตัล” ตอกยํ้าแบรนด์นํ้าดื่มคุณภาพตัวจริง พร้อมร่วมมือกับ“วู้ดดี้ เวิลด์” จัดกิจกรรมนำเทรนด์“Community Workout” ชวนคนไทยแข็งแรงสุขภาพดีด้วยการ ออกกำลังกาย กับ “นาย ณภัทร” “โดม ปกรณ์” เพื่อสร้างการเข้าถึงในกลุ่มคนรุ่นใหม่สำหรับปีที่ผ่านมาคริสตัลมีการเติบโต 11%โดยคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 20% จากปีที่ผ่านมาที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด 17% โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 25% ซึ่งช่องทางการจำหน่ายหลักของบริษัทได้แก่ร้านค้าทั่วไป 60% และโมเดิร์นเทรด 40%
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแนวคิดการนำเครื่องดื่มคริสตัลเข้าไปทำตลาดอาเซียน โดยบริษัทจะพิจารณาใช้ฐานการผลิตของเอฟแอนด์เอ็น ซึ่งมีโรงงานผลิต ที่ มาเลเซีย และกลุ่มซาเบโก โดยใช้ฐานการผลิตในเวียดนามเนื่องจากการผลิตในไทยแล้วส่งออกหรือในรัศมีเกินกว่า 200 กิโลเมตร ไม่คุ้มกับต้นทุนการดำเนินธุรกิจ เพราะนํ้าดื่มเป็นสินค้าราคาไม่สูงมากนักสำหรับการลงทุนในไทยปีนี้บริษัททุ่มงบ 350 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ทางภาคเหนือซึ่งจะเป็นโรงงานแห่งที่13ของบริษัทเสริมสุข โดยวางวิสัยทัศน์จะให้แบรนด์คริสตัลเป็นผู้นำในตลาด South East Asia ภายในปี 2025
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,341 วันที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ปีที่ผ่านมามูลค่าตลาดนํ้าดื่มมีประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ตลาดติดลบ 2% จากปัจจัยภาพรวมเศรษฐกิจระดับรากหญ้าไม่ค่อยดี และมีเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน แต่ภาวะการแข่งขันตลาดนํ้าดื่มยังคงรุนแรง จากบรรดาผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ทำตลาด ซึ่งกลยุทธ์หลักที่นำมาใช้เป็นอาวุธเพื่อการแข่งขัน ยังคงเป็นสงครามราคาและโปรโมชันที่รุนแรง ขณะที่ปี 2561 ดูเหมือนบรรยากาศภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อ เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น แต่สงครามการตลาดของกลุ่มนํ้าดื่ม ก็ไม่ได้กลับลดน้อยลงแต่อย่างใด
[caption id="attachment_260255" align="aligncenter" width="335"]
นายภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่าในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการนำกลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งในการสร้างการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น หลังจากที่ภาพรวมธุรกิจนํ้าดื่มสิงห์ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาลดลงอย่างต่อเนื่อง จากที่เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งจาก 27% ลดลงเหลือ 25% และ 20% ตามลำดับ ทำให้บริษัทต้องมีการปรับกลยุทธ์การทำตลาดอีกเพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อทวงคืนตลาดส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มนํ้าดื่มอีกครั้ง
“ที่ผ่านมาภาพรวมตลาดนํ้าดื่มมีการแข่งขันเรื่องราคารุนแรงมาก ทำให้สิงห์พลาดเป้าและส่วนแบ่งทางการตลาดลดลง ซึ่งหากไม่อยากเสียมาร์เก็ตแชร์ไป ก็สามารถทำได้ เพียงแค่ใช้เม็ดเงินพร้อมกับอัดโปรโมชันก็สามารถทำได้แล้ว โดยที่ผ่านมานํ้าดื่มสิงห์มีการเติบโต 15-20%ต่อปีอยู่แล้วแต่เป็นการเติบโตที่ไม่เทียบเท่าตลาดและให้ความสำคัญกับผลกำไรแต่ต้นทุนมากกว่า โดยในปีนี้บริษัทได้เตรียมแผนงานในการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้ดีขึ้นอีกครั้ง”
โดยปีที่ผ่านมาธุรกิจนํ้าสิงห์มีรายได้ 8,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 20% เป็นเบอร์ 2 รองจากคริสตัล ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด 20% โดยในสิ้นปีนี้บริษัทวางเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 23% ขณะที่ภาพรวมบุญรอดเทรดดิ้งฯในสิ้นปีที่ผ่านมามีรายได้ราว1.2แสนล้านบาทแบ่งเป็น กลุ่มสินค้าแอลกอฮอล์ 80% และสินค้าไม่มีแอลกอฮอล์ 20% ขณะที่กลุ่มธุรกิจเบียร์ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 62% หรือมียอดขาย 1,320 ล้านลิตร
อย่างไรก็ตาม นโยบายของบริษัทนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาบุคลากร ให้เหมาะสมกับเนื้องานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดการมองหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริมพอร์ตสินค้าเดิมของบริษัทอยู่เสมอ ทั้งรูปแบบการร่วมทุนและจับมือกับพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งยังมองหาธุรกิจที่หลากหลาย เช่นพลังงานทดแทน อสังหาริมทรัพย์ เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ
ด้านนายเลสเตอร์เต็ก ชวน ตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนํ้าดื่มคริสตัลกล่าวว่า บริษัทจะรุกตลาดนํ้าดื่มเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดในไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำแบรนด์คริสตัลขยายตลาดไปยังภูมิภาคอาเซียน เบื้องต้นขณะนี้กำลังวางแผนงานระยะยาว 2563-2568 เพื่อให้สอดคล้องกับวิชันของไทยเบฟเวอเรจ 2020 วางเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดได้เปิดแคมเปญการตลาดในช่วงหน้าร้อน “สั่งนํ้าดื่ม เจาะจงคริสตัล” ตอกยํ้าแบรนด์นํ้าดื่มคุณภาพตัวจริง พร้อมร่วมมือกับ“วู้ดดี้ เวิลด์” จัดกิจกรรมนำเทรนด์“Community Workout” ชวนคนไทยแข็งแรงสุขภาพดีด้วยการ ออกกำลังกาย กับ “นาย ณภัทร” “โดม ปกรณ์” เพื่อสร้างการเข้าถึงในกลุ่มคนรุ่นใหม่สำหรับปีที่ผ่านมาคริสตัลมีการเติบโต 11%โดยคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 20% จากปีที่ผ่านมาที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด 17% โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 25% ซึ่งช่องทางการจำหน่ายหลักของบริษัทได้แก่ร้านค้าทั่วไป 60% และโมเดิร์นเทรด 40%
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแนวคิดการนำเครื่องดื่มคริสตัลเข้าไปทำตลาดอาเซียน โดยบริษัทจะพิจารณาใช้ฐานการผลิตของเอฟแอนด์เอ็น ซึ่งมีโรงงานผลิต ที่ มาเลเซีย และกลุ่มซาเบโก โดยใช้ฐานการผลิตในเวียดนามเนื่องจากการผลิตในไทยแล้วส่งออกหรือในรัศมีเกินกว่า 200 กิโลเมตร ไม่คุ้มกับต้นทุนการดำเนินธุรกิจ เพราะนํ้าดื่มเป็นสินค้าราคาไม่สูงมากนักสำหรับการลงทุนในไทยปีนี้บริษัททุ่มงบ 350 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ทางภาคเหนือซึ่งจะเป็นโรงงานแห่งที่13ของบริษัทเสริมสุข โดยวางวิสัยทัศน์จะให้แบรนด์คริสตัลเป็นผู้นำในตลาด South East Asia ภายในปี 2025
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,341 วันที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
