ไทยบุกงาน‘สัปดาห์สีเขียว’ ผลักดันการทูตเชิงเศรษฐกิจในเยอรมนี(จบ)

18 ก.พ. 2561 | 23:15 น.
ในตอนที่ 3 เราได้เห็นแล้วว่าเยอรมนี เป็นประ เทศต้นแบบเทคโนโลยี 4.0 ใช้นวัตกรรมสมัยใหม่ในการผลิตอาหารที่สด อร่อย ปลอดภัยและมีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคยุคใหม่ รวมทั้งผู้นำทางด้านการพัฒนาการเกษตรเป็นอย่างสูง ในตอนจบนี้เราจะมาดูกันว่าไทยจะสามารถนำนวัตกรรมทางด้านการเกษตรมาปรับใช้อย่างไรบ้าง รวม ทั้งการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานด้านการเกษตรของเยอรมนีเพื่อมาต่อยอดและปรับใช้นวัตกรรมการพัฒนาการเกษตรของไทย

TP10-3341-1B **มาตรฐานคู่นวัตกรรม
“มาตรฐานเยอรมนี” เป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพ เยอรมนีจึงมิได้เป็นเพียงผู้ผลิตสินค้า แต่เป็น “ผู้กำหนดมาตรฐาน” สินค้าและเครื่องจักรกลทางการเกษตรระดับโลก คณะกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้พบหารือกับ GLOBALG. A.P. บริษัทเดียวในโลกที่กำหนดและทดสอบมาตรฐานของเกษตรกรและผู้ผลิตอย่างครบวงจร ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ กรรมวิธีการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว มาตรฐานแรงงาน และ สิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (traceability) ทำให้สินค้าที่ได้รับมาตรฐาน GlobalG.A.P. สินค้าเกษตรที่ได้รับตรา GlobalG.A.P. จะเป็นใบผ่านทางสำคัญให้สามารถวางขายในสหภาพยุโรปได้ ทั้งนี้ ปัจจุบัน สถาบันอาหารได้ร่วมมือกับ GlobalG.A .P. เพื่อยกระดับมาตรฐาน Thai G.A.P. ให้สามารถส่งออกไปยังสหภาพยุโรปได้

TP10-3341-2B **หุ้นส่วนแห่งอนาคตด้านเกษตรและอาหาร
กระทรวงอาหารและการ เกษตรสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMEL) เห็นความสำคัญของไทยในการเป็น “ครัวโลก” ไทยจึงเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ BMEL เปิดสำนักงานเกษตร BMEL ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหาร การวางแผนการผลิตอย่างเป็นระบบ และการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร ซึ่งน่าจะนำมาปรับใช้กับบริบทของไทย
นอกจากนี้ ไทยยังจะร่วมมือกับสมาคมการเกษตรเยอรมนี (German Agricultural Society- DLG) ในการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรไทยที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วม Farming Academy เพื่อก้าวไปสู่การเป็น “เกษตรกรปราดเปรื่อง” (Smart Farmer) ที่สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำการเกษตรอย่างถูกวิธี รวมทั้งสร้างศักยภาพให้ข้าราชการที่ต้องทำงานโดยตรงกับเกษตรกร เพื่อพัฒนาภาคเกษตรอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

สมาคมเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรของไทยยังสนใจที่จะร่วมมือกับสมาพันธ์ธุรกิจเอเชีย-แปซิฟิกแห่งเยอรมนี (OAV) ซึ่งมีสมาชิกที่สนใจจะทำธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิกกว่า 800 ราย โดยให้สตาร์ตอัพไทยด้านอาหารและการเกษตรได้นำเสนอแนวคิดใหม่ในการทำธุรกิจ (pitching) ให้กับภาคธุรกิจของเยอรมนี ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้สนับสนุนการจัดงานดังกล่าวด้วย เพื่อนำไปสู่การจับคู่ทางธุรกิจระหว่างไทย-เยอรมนีในอนาคต

Ad_Online-03 **หน่วยงานไทยผสานพลัง
การเยือนเยอรมนีครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างเครือข่ายระหว่างฝ่ายไทยกับหน่วยงานต่าง ๆ ของเยอรมนี แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งระหว่างภาคส่วนต่างๆ ของไทยเอง เพื่อร่วมกันพัฒนาภาคเกษตรและอาหารของไทยอีกด้วย การทำงานร่วมกันในครั้งนี้ทำให้หน่วยงานต่างๆ เห็นถึงบทบาทสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศที่พร้อมจะเป็นจุดเชื่อมต่อหลักระหว่างหน่วยงานของไทยและต่างประเทศ จนนำไปสู่แนวคิดการสร้าง portfolio นวัตกรรมอาหารที่ไทยมีอยู่จำนวนมาก เพื่อให้สถานทูต-สถานกงสุลของไทยได้ใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมสินค้าไทย

แต่ที่จะลืมไม่ได้คือ พี่น้องเกษตรกรต้นแบบของเราที่ได้แนวคิดสำคัญเกษตรก้าวหน้ากลับมาด้วย คุณวลิต เจริญสมบัติ ประธานแปลงใหญ่ระดับประเทศ ตัวแทนเกษตรแปลงใหญ่ที่เข้าร่วมคณะก็จะนำประสบการณ์จากเยอรมนีไปเล่าให้เครือข่ายแปลงใหญ่ทั่วประเทศ “การเปลี่ยนแปลงแนวคิดการทำการเกษตร ที่จะต้องใช้ ‘การตลาดนำการผลิต’ เลือกปลูกในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต ซึ่งจะทำให้หลุดพ้นจากวงจรทาสนายทุน” คุณวลิตกล่าว
จริงๆ แล้ว ไทยมิได้ด้อยกว่าเยอรมนีในด้านทรัพยากร เลย เพียงแต่หากไทยต้องลง ทุนด้านการสร้างฐานความรู้และนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ให้ตรงจุด ไทยก็ไม่เพียงแต่ก้าวให้ทันโลก แต่มีศักยภาพที่จะก้าวนำโลกในด้านการเกษตรด้วยซํ้า

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,341 วันที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว