EPG เตรียมขยับราคา สู้บาทแข็ง-ต้นทุนพุ่ง
EPG ปรับกลยุทธ์รักษากำไร เตรียมขึ้นราคาสินค้าส่งออก สู้ต้นทุนพุ่ง-เงินบาทแข็งค่า พร้อมขยายลงทุนเพิ่มกำลังผลิตฉนวนกันความร้อนบุกตลาดสหรัฐฯ หลังไตรมาส 3 กำไรวูบ 45%
นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ปฯ (EPG) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2560/2561 มีรายได้จากการขาย 7,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% มีกำไรสุทธิ 761 ล้านบาท ลดลง 31% จากงวด 9 เดือนของปีก่อนหน้า โดยในไตรมาส 3 ปี 2560/2561 มีรายได้จากการขาย 2,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% และมีกำไรสุทธิ 183 ล้านบาท ลดลง 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
[caption id="attachment_259645" align="aligncenter" width="503"]
เฉลียว วิทูรปกรณ์[/caption]
ทั้งนี้รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 ตํ่ากว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ เนื่องจากปัจจัยหลายประการที่เข้ามากระทบพร้อมกัน ทั้งการแข็งค่าของเงินบาททำให้รายได้จากต่างประเทศลดลง ต้นทุนขายสินค้าเพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น และการใช้กำลังการผลิตในกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่ได้ Economy of Scale
นายเฉลียว กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินการปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตของผลประกอบการอย่างต่อเนื่องในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก โดยในส่วนของธุรกิจฉนวนกันความร้อน-เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX บริษัทเริ่มทยอยลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตด้วยเครื่องจักร High speed ในสหรัฐอเมริกา เพื่อมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่ เช่น อาคารสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม และที่พักอาศัย เป็นต้น และจะเริ่มทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศ
สำหรับตลาดในประเทศเตรียมลงทุนขยายโรงงานโดยการเพิ่มกำลังการผลิตฉนวนยางประเภท EPDM และ โพลิเมอร์ คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 250 ล้านบาท จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2560/2561 ของ AEROFLEX มีรายได้จากการขาย 709.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS บริษัทได้เข้าทำการเข้าซื้อกิจการ Flexiglass ซึ่งประกอบกิจการร้านจำหน่ายสินค้าตกแต่งรถกระบะ และ SUV ประเภทขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ในประเทศออสเตรเลีย โดยมี distributors และ dealers มากกว่า 100 แห่ง และมีสาขาของตนเองรวม 5 แห่ง
การเข้าลงทุนดังกล่าวจะสามารถเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับ AEROKLAS ถือเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญ โดยบริษัทมีแผนร่วมกันขยายธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีฐานลูกค้าและการให้บริการครบวงจร ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3 มีรายได้จากการขาย 1,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9%
ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP เร่งทำการตลาดเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภททั่วไปแบรนด์ eici ซึ่งการทำการตลาดในกลุ่มนี้จะมุ่งเน้นการใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่ 32,000 ตัน ให้สูงขึ้น โดย EPP มีรายได้จากการขาย 568 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,340 วันที่ 15 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ปฯ (EPG) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2560/2561 มีรายได้จากการขาย 7,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% มีกำไรสุทธิ 761 ล้านบาท ลดลง 31% จากงวด 9 เดือนของปีก่อนหน้า โดยในไตรมาส 3 ปี 2560/2561 มีรายได้จากการขาย 2,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% และมีกำไรสุทธิ 183 ล้านบาท ลดลง 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
[caption id="attachment_259645" align="aligncenter" width="503"]
ทั้งนี้รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 ตํ่ากว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ เนื่องจากปัจจัยหลายประการที่เข้ามากระทบพร้อมกัน ทั้งการแข็งค่าของเงินบาททำให้รายได้จากต่างประเทศลดลง ต้นทุนขายสินค้าเพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น และการใช้กำลังการผลิตในกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่ได้ Economy of Scale
นายเฉลียว กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินการปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตของผลประกอบการอย่างต่อเนื่องในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก โดยในส่วนของธุรกิจฉนวนกันความร้อน-เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX บริษัทเริ่มทยอยลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตด้วยเครื่องจักร High speed ในสหรัฐอเมริกา เพื่อมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่ เช่น อาคารสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม และที่พักอาศัย เป็นต้น และจะเริ่มทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศ
สำหรับตลาดในประเทศเตรียมลงทุนขยายโรงงานโดยการเพิ่มกำลังการผลิตฉนวนยางประเภท EPDM และ โพลิเมอร์ คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 250 ล้านบาท จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2560/2561 ของ AEROFLEX มีรายได้จากการขาย 709.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS บริษัทได้เข้าทำการเข้าซื้อกิจการ Flexiglass ซึ่งประกอบกิจการร้านจำหน่ายสินค้าตกแต่งรถกระบะ และ SUV ประเภทขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ในประเทศออสเตรเลีย โดยมี distributors และ dealers มากกว่า 100 แห่ง และมีสาขาของตนเองรวม 5 แห่ง
การเข้าลงทุนดังกล่าวจะสามารถเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับ AEROKLAS ถือเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญ โดยบริษัทมีแผนร่วมกันขยายธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีฐานลูกค้าและการให้บริการครบวงจร ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3 มีรายได้จากการขาย 1,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9%
ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP เร่งทำการตลาดเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภททั่วไปแบรนด์ eici ซึ่งการทำการตลาดในกลุ่มนี้จะมุ่งเน้นการใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่ 32,000 ตัน ให้สูงขึ้น โดย EPP มีรายได้จากการขาย 568 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,340 วันที่ 15 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
