เศรษฐกิจดิจิตอล...?

14 ก.พ. 2561 | 08:52 น.
6525265

ในขณะที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติว่าจะยกระดับการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวขึ้นไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อเดินเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอลที่จะมีเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อโลกการค้าในอนาคตอย่างไม่มีพรมแดนอีกต่อไป

แพลตฟอร์มโลกการค้าดิจิตอลไม่ได้จำกัดวงแคบอยู่เพียงแค่การค้าขาย การแลกเปลี่ยนสินค้า แบบอี-คอมเมิร์ซ เว็บไซต์ คิวอาร์โค้ดเท่านั้น หากแต่การชำระเงิน การระดมทุนในโลกดิจิตอลก็แปรเปลี่ยนมาเป็นเงินสกุลดิจิตอล ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างหลากหลาย ซึ่งนั่นหมายถึงว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการเงิน การระดมทุน การซื้อขายตราสารหนี้ จะต้องมีการปรับตัวให้ทันกับโลกการค้าในยุคดิจิตอลกันขนานใหญ่ แต่ดูเหมือนประเทศไทย ไม่ได้เดินไปตามแนวนโยบายแห่งรัฐอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน แต่ละองค์กรต่างมีพรมแดนแห่งความคิดและแนวปฏิบัติที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เกิดความสับสนในทางปฏิบัติอย่างเห็นได้ชัด
bitcoin-gambling-investments-5 ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดทางให้บริษัทจำกัด (มหาชน) เปิดให้นักลงทุนสามารถซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) บิตคอยน์ฟิวเจอร์สอย่างเป็นทางการ คล้อยหลังไม่นานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็เปิดให้บริษัทลูกของบริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดระดมทุนด้วยดิจิตอลโทเคน“JFin Coin” 300 ล้านเหรียญหน่วยละ6.6บาท โดยโยนความเสี่ยงไปให้ลูกค้าทำการศึกษาผลิตภัณฑ์ หากไม่เข้าใจก็ควรหลีกเลี่ยงการลงทุน
AW_Online-03 ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศขอความร่วมมือสถาบันการเงินทุกแห่ง ไม่ให้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี หรือสกุลเงินดิจิตอล โดยห้ามการมีส่วนร่วม หรือสนับสนุนการเข้าไปลงทุน หรือซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี ห้ามร่วมสร้างแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นสื่อกลางให้ลูกค้าทำธุรกรรม ห้ามทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตในการซื้อคริปโตเคอร์เรนซี ห้ามสถาบันการเงินสนับสนุน หรือให้คำปรึกษากับลูกค้าเกี่ยวกับการลงทุน หรือแลกเปลี่ยน
bitcoin ธปท.ต้องออกประกาศนี้ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันเกิดเงินสกุลดิจิตอลหลายร้อยสกุล บางประเภท ไม่สามารถระบุผู้ออกได้ชัดเจน ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันตามมูลค่า ไม่มีสินทรัพย์อ้างอิง ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ในไทยยังไม่มีคุณสมบัติเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

โรดแมปเศรษฐกิจดิจิตอลที่รัฐบาลประกาศไว้จึงสับสนอลหม่าน ถึงเวลาที่หน่วยงานที่กับดูแลจะต้องมานั่งพูดคุยหารือกำหนดแนวทางปฏิบัติให้เป็นแบบเดียวกันก่อนที่ภาคเอกชนจะเกิดความเสียหาย เสียโอกาสทางการค้ามากกว่านี้
.................
บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับ 3340 ระหว่างวันที่ 15-17 ก.พ.2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว