ธปท.เปิดทาง JFin ขาย ICO

“เจ มาร์ท” เดินหน้าขาย “ดิจิตอล โทเคน” อ้างเคลียร์แบงก์ชาติเรียบร้อยแล้ว มาตรการไม่ได้ห้ามระดมทุนไอซีโอ เชื่อนักลงทุนตอบรับ เหตุมีโครงการรองรับชัดเจน เป้าระดมทุนเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีเครือข่าย บล็อกเชน และระบบสกอริ่ง

นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยกับสปริงนิวส์ว่าหนังสือเวียนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งถึงสถาบันการเงินทุกแห่ง ขอความร่วมมือไม่ให้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิตอล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี ไม่ส่งผลกระทบกับการระดมทุนขายโทเคนผ่านไอซีโอ ที่บริษัทจะเปิดขายแบบพรีเซลในวันนี้ (14 ก.พ.) เนื่องจากมาตรการดังกล่าวไม่ได้ห้ามธนาคารพาณิชย์เรื่องการเปิดบัญชีลูกค้าที่ซื้อขายโทเคนแบบไอซีโอแต่เน้นในเรื่องการซื้อขายเงินดิจิตอลที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงหรือฟอกเงิน อีกทั้งเรื่องไอซีโอนั้น ภาครัฐไม่มีนโยบายปิดกั้น โดยที่ผ่านมาธปท.ได้เชิญบริษัทไปให้ข้อมูลการเปิดขายไอซีโอ เพื่อหามาตรการดูแลที่เหมาะสมเนื่องจากยังมีกฎหมายกำกับดูแล และในช่วงบ่ายวานนี้ (13 ก.พ.) นี้ยังจะเข้าชี้แจงข้อมูลต่อคณะอนุกรรมการฯกำกับการซื้อขายเงินดิจิทัลของกระทรวงการคลังด้วย

นายธนวัฒน์ ยํ้าว่า โทเคน ที่บริษัทขายให้นักลงทุนมีมูลค่ารวมเพียง 660 ล้านบาทซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดทรัพย์สินของบริษัทเจ มาร์ทฯที่มีรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท และยังมีพื้นฐานรองรับจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มีตัวตนยังอ้างอิงได้ ซึ่งเมื่อเทียบกับการซื้อขายเงินดิจิตอลที่นักลงทุนมีความเสี่ยงอาจไม่สามารถหาตัวตนจริงของผู้ซื้อขายได้

นางสาวการดี เลียวไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัทไอโคลา ไอซีโอ อาร์เอฯ หนึ่งในทีมงานของนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง (ที่ปรึกษาในการออกไอซีโอ ให้กับบริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด “JVC”) กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ามาตรการของ ธปท. ไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อการเสนอขายไอซีโอ (Initial Coin Offering ICO ) ของ JVC

เนื่องจาก 1.คำสั่งธปท.เป็นการห้ามธุรกรรมคลิปโตเคอร์เรนซี ไม่ใช่ห้ามการระดมทุนออกไอซีโอ 2. การระดมทุนของ JFin Coin มีโครงการรองรับชัดเจน และ 3. ยืนยันว่าการซื้อ JFin Coin สามารถที่จะโอนเงินชำระผ่านธนาคารพาณิชย์ได้

“ทันทีที่แบงก์ชาติมีมาตรการออกมา เรา (ไอโคลาฯ) ซึ่งช่วย ก.ล.ต.ประสานงานการระดมทุนไอซีโอในไทยและภูมิภาคอาเซียน ได้สอบถามแบงก์ชาติเพื่อสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้ ยืนยันได้ว่า คำสั่งนี้ไม่เกี่ยวกับการออกไอซีโอแต่อย่างไร ที่สำคัญการระดมทุนออกไอซีโอของ JVC บริษัทย่อยของ “เจ มาร์ท” ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีโครงการรองรับชัดเจน”

เจ มาร์ท ระบุว่าเป้าหมายการระดมทุนไอซีโอ เพื่อนำไปใช้พัฒนาโครงการแพลตฟอร์มรวมถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยีเครือข่ายบล็อกเชน , ระบบการตรวจสอบเครดิตลูกหนี้ “เครดิตสกอริ่ง”, การวิเคราะห์ข้อมูล, ลง ทุนงานวิจัยและจัดทำแคมเปญทางการตลาด

ทั้งนี้ JVC จะระดมทุนไอซีโอรอบแรกวงเงิน 660 ล้านบาท จำนวน 100 ล้านเหรียญ (coin) มูลค่าเหรียญละ 6.60 บาท เสนอขายวันแรก 14 กุมภาพันธ์ -31 มีนาคม 2561

นายศรพล ตุลยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า การระดมทุนออกไอซีโอ อยู่ภายใต้กำกับของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และไม่น่าจะอยู่ในข่ายคริปโตเคอร์เรนซี

ด้านนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า คริปโตเคอร์เรนซีไม่ใช่ธุรกรรมหลักของธนาคารจึงไม่ส่งผลกระทบกับธุรกิจ ขณะเดียวกันเรื่องการเปิดบัญชีลูกค้าจะมีระบบการตรวจสอบ ทั้งระบบ KYC ที่ต้องรู้จักลูกค้าของตนเอง รวมถึงการมอนิเตอร์บัญชีของลูกค้าเพื่อดูความเคลื่อนไหวผิดปกติที่ทุกธนาคารทำอยู่

สำหรับมาตรการของ ธปท. ห้าม 5 กรณี ประกอบด้วย 1.ห้ามการมีส่วนร่วม หรือสนับสนุนการเข้าไปลงทุน หรือซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อผลประโยชน์ของสถาบันการเงินเอง หรือผลประโยชน์ของลูกค้า 2.ห้ามให้บริการรับแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีผ่านช่องทางให้บริการของสถาบันการเงิน 3.ห้ามการสร้างแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นสื่อกลางให้ลูกค้าทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีระหว่างกัน 4.ห้ามทำธุรกรรมการให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตเคอร์เรนซี และ 5.ห้ามสถาบันการเงินสนับ สนุน หรือให้คำปรึกษากับลูกค้าเกี่ยว กับการลงทุน หรือ การแลก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,340 วันที่ 15 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561