AI เครื่องมือเสริมประสิทธิภาพงานองค์กร
กระแสหุ่นยนต์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ที่เป็นหุ่นยนต์มนุษย์ (humanoid robot) กำลังสร้างความหวาดวิตกในอุตสาหกรรมต่างๆ ว่า AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ แย่งงานเราทำ จนทำให้เกิดภาวะตกงานกันถ้วนหน้ารึเปล่า
วันนี้ บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด ได้จับมือกับพันธมิตรบมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงศรีคอนซูมเมอร์ และเอไอเอสอะคาเดมี่ จัดฟอรัมนำ “โซเฟีย” หุ่นยนต์ที่ได้รับสัญชาติพลเมืองซาอุดีอาระเบียตัวแรกของโลก และมีความสามารถเสมือนมนุษย์มากกว่าหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ มาร่วมพูดคุยกับคนไทย เพื่อกระตุ้นองค์กรไทย พัฒนาศักยภาพผู้นำและบุคลากรขององค์กรเตรียมรับกับงานใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เมื่อ AI สามารถเข้ามาทำงานบางอย่างแทนเราได้
“ดร.สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด บอกเลยว่า หุ่นยนต์ทำงานได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ดร.เดวิด ฮันซัน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท ฮันซัน โรบอติกส์ฯ ผู้พัฒนาหุ่นยนต์บอกเองเลยว่าถ้าจะพัฒนา AI หรือหุ่นยนต์มนุษย์ (humanoid robot) ให้มีความสามารถได้เท่าเทียมมนุษย์ ยังต้องอาศัยการพัฒนากว่า 10 ปี
ในการบริหารงาน ผู้นำที่เป็นมนุษย์ ยังมีความรู้สึกมีการวิเคราะห์ตามความรู้สึก มีความเห็นอกเห็นใจ ความใคร่รู้ การตัดสินใจ และการสร้างแรงบันดาลใจ
สิ่งที่มนุษย์ต้องทำขณะนี้คือ การนำ AI มาใช้ให้ถูกที่ถูกจังหวะเพราะ AI คือเครื่องมือเสริมการทำงานของมนุษย์ให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีขึ้น งานที่ AI เหมาะที่จะได้รับมอบหมายให้ทำตอนนี้ คือ งานที่ทำซํ้าๆ งานที่เสี่ยงอันตรายมากกว่า และงานหนักๆ ที่ใช้แรงงาน และจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พบว่าในอีก 25 ปีข้างหน้า 47% ของงานในปัจจุบันจะสูญหายไป เพราะฉะนั้นผู้นำองค์กรต้องให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากร เพื่อเตรียมความพร้อมคนในองค์กร
จากความสามารถของ AI ในลักษณะนี้ แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบกับงานพื้นฐานบางประเภท ดังนั้นมนุษย์ต้องเพิ่มทักษะ เรียนรู้งานในรูปแบบใหม่ๆ ให้มากขึ้น รู้จักบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์กับมนุษย์
กับมุมมองความคิดในอนาคต ที่จะนำหุ่นยนต์ AI มาร่วมทำงานกับพนักงานเอไอเอส อย่างไรได้บ้างนั้น “สมชัย เลิศสุทธิวงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ตอบเลยว่า มีแน่นอนเพราะทุกวันนี้ เอไอเอส คอลล์เซ็นเตอร์ เริ่มใช้เทคโนโลยี AI อย่าง Chatbot เข้ามาใช้ในการให้ข้อมูลลูกค้าแล้ว ช่วยให้คนมีโอกาสไปทำงานที่มี Job Value สูงขึ้น แต่จะทำอย่างนั้นได้คนก็ต้องพัฒนาตัวเองด้วย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้มากขึ้น เพราะในปัจจุบัน ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป และมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะฉะนั้นการตอบโจทย์ของลูกค้า ยังคงต้องการศักยภาพจากคน
ส่วนงานที่เป็น Fundamental จะเป็นงานของหุ่นยนต์แต่หากคนไม่พัฒนาตัวเอง ก็จะพบกับความลำบาก เป็นแนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นในภาพรวมของตลาดแรงงานด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,340 วันที่ 15 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
วันนี้ บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด ได้จับมือกับพันธมิตรบมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงศรีคอนซูมเมอร์ และเอไอเอสอะคาเดมี่ จัดฟอรัมนำ “โซเฟีย” หุ่นยนต์ที่ได้รับสัญชาติพลเมืองซาอุดีอาระเบียตัวแรกของโลก และมีความสามารถเสมือนมนุษย์มากกว่าหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ มาร่วมพูดคุยกับคนไทย เพื่อกระตุ้นองค์กรไทย พัฒนาศักยภาพผู้นำและบุคลากรขององค์กรเตรียมรับกับงานใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เมื่อ AI สามารถเข้ามาทำงานบางอย่างแทนเราได้
ในการบริหารงาน ผู้นำที่เป็นมนุษย์ ยังมีความรู้สึกมีการวิเคราะห์ตามความรู้สึก มีความเห็นอกเห็นใจ ความใคร่รู้ การตัดสินใจ และการสร้างแรงบันดาลใจ
สิ่งที่มนุษย์ต้องทำขณะนี้คือ การนำ AI มาใช้ให้ถูกที่ถูกจังหวะเพราะ AI คือเครื่องมือเสริมการทำงานของมนุษย์ให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีขึ้น งานที่ AI เหมาะที่จะได้รับมอบหมายให้ทำตอนนี้ คือ งานที่ทำซํ้าๆ งานที่เสี่ยงอันตรายมากกว่า และงานหนักๆ ที่ใช้แรงงาน และจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พบว่าในอีก 25 ปีข้างหน้า 47% ของงานในปัจจุบันจะสูญหายไป เพราะฉะนั้นผู้นำองค์กรต้องให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากร เพื่อเตรียมความพร้อมคนในองค์กร
กับมุมมองความคิดในอนาคต ที่จะนำหุ่นยนต์ AI มาร่วมทำงานกับพนักงานเอไอเอส อย่างไรได้บ้างนั้น “สมชัย เลิศสุทธิวงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ตอบเลยว่า มีแน่นอนเพราะทุกวันนี้ เอไอเอส คอลล์เซ็นเตอร์ เริ่มใช้เทคโนโลยี AI อย่าง Chatbot เข้ามาใช้ในการให้ข้อมูลลูกค้าแล้ว ช่วยให้คนมีโอกาสไปทำงานที่มี Job Value สูงขึ้น แต่จะทำอย่างนั้นได้คนก็ต้องพัฒนาตัวเองด้วย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้มากขึ้น เพราะในปัจจุบัน ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป และมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะฉะนั้นการตอบโจทย์ของลูกค้า ยังคงต้องการศักยภาพจากคน
ส่วนงานที่เป็น Fundamental จะเป็นงานของหุ่นยนต์แต่หากคนไม่พัฒนาตัวเอง ก็จะพบกับความลำบาก เป็นแนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นในภาพรวมของตลาดแรงงานด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,340 วันที่ 15 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
