คิดและพัฒนาโปรเจ็กต์ พิสูจน์ฝีมือให้ทีมงานยอมรับ
การเป็นทายาท ไม่ได้หมายความว่า คุณจะได้แต้มต่อกว่าพนักงานคนอื่นๆ การที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ ต้องแสดงฝีมือ และสร้างผลงานให้ประจักษ์ นั่นจึงจะเป็นแนวทางของนักบริหารมืออาชีพจริงๆ
แนวคิดนี้ คือ แนวคิดของนักบริหารสาวรุ่นใหม่ “พิชชาภัสร์ ฐิติปุญญา” ทายาทของ “ทรงวิทย์ ฐิติปุญญา” เจ้าของธุรกิจรถเช่า บริษัท ซินเนอร์ เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ asap ที่ถือเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตเป็นที่น่าจับตา
[caption id="attachment_258723" align="aligncenter" width="335"]
พิชชาภัสร์ ฐิติปุญญา[/caption]
“พิชชาภัสร์” เข้ารับตำแหน่ง ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซินเนอร์ เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ asap หลังจากสะสมประสบการณ์ทำงานด้านการเงินมาจากหลายที่ ตั้งแต่การเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อ ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ และเป็นนักวิจัยเชิงคุณภาพของ ทิสโก้-ดอยซ์แบงก์ รวมทั้งยังผ่านงานด้านคอร์ปอเรตไฟแนนซ์ ของ PWC ไทยแลนด์ โดยโปรเจ็กต์แรกที่เข้ามาจับในบทบาทของนักพัฒนาธุรกิจใหม่ ของ asap คือ ผู้จัดการโครงการ asap GO
นักบริหารสาวคนนี้ บอกว่า คุณพ่อไม่ได้วางว่าทายาทจะต้องเข้ามาเป็น เจน 2 แต่เธอเข้ามาก็เหมือนเป็นพนักงานคนหนึ่ง ที่เข้ามารับหน้าที่บริหารและคิดพัฒนาโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ให้กับองค์กร และasap GO ก็เป็นโปรเจ็กต์แรกที่เธอเข้ามารับผิดชอบ โดยยูนิตใหม่นี้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 2560 เป็นโครงการรถเช่ารายชั่วโมง ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทำให้ผู้ใช้เกิดความสะดวกสบายที่สุด ซึ่งผู้ใช้สามารถจ่ายเงินได้ตามการใช้งานจริง
การที่ “พิชชาภัสร์” เข้ามาทำงานใน asap เธอมองว่า asap เป็นธุรกิจรถเช่าที่มีพอร์ตรถยนต์ที่ใหญ่เกินกว่า 1 หมื่นคัน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มีศักยภาพในการทำตลาดมาก และรูปแบบธุรกิจก็สามารถปรับเปลี่ยน (Diversify) ไปได้อีกมาก จากเดิมที่ทำแค่รถเช่าระยะยาว ตอนนี้ก็พัฒนาไปสู่การทำรถเช่าระยะสั้น การทำรถเช่าพร้อมคนขับ และล่าสุด ยังจับมือกับบริษัทไอคาร์ เอเชีย (ไทยแลนด์) ผู้นำด้านเครือข่ายยานยนต์ออนไลน์ One2Car.com นำเสนอรถยนต์ที่ครบสัญญาเช่า ที่ผ่านการดูแลภายใต้ศูนย์บริการของโตโยต้า จัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการจำหน่ายรถยนต์มือ 2 ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อรถยนต์มือ 2 ที่มีคุณภาพ ซึ่งได้รับการดูแลซ่อมบำรุงภายใต้มาตรฐานการดูแลจากศูนย์โตโยต้า
และเธอยังมีอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ยักษ์ คือ ออโต้ พาร์ค ที่จะเปิดปลายเดือน 3 หรือต้นเดือน 4 นี้ ออโต้ พาร์ค จะเป็นเหมือนออโต้มอลล์ มีบริหารครบวงจร ทั้งรถเช่าระยะสั้น โชว์รูมรถมือสอง และรีเทลต่างๆ ซึ่งจะพัฒนาและผลักดันให้รูปแบบธุรกิจนี้ขยายตัวได้ ผ่านการทำแฟรนไชส์ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว กว่าการที่ asap จะลงทุนเองทั้งหมด โดยมีแผนว่า ภายใน 5 ปีจะเปิดได้ 30 สาขาทั่วประเทศ
ในฐานะนักคิด และนักพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ของ asap “พิชชาภัสร์” บอกว่า เธอยังมีโปรเจ็กต์อีกค่อนข้างเยอะ โดย ณ วันนี้ การขยายธุรกิจ จะมองไปที่เรื่องของการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาพัฒนา พร้อมๆ กับการหาพันธมิตรมาสร้างเครือข่ายให้แข็งแรง ทั้งพาร์ตเนอร์ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและไม่เกี่ยวเนื่อง เพราะการขยายธุรกิจสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ และการสร้างอะไรใหม่ๆ ก็ถือเป็นการกระตุ้นตลาดให้มีความตื่นตัวตลอดเวลา
การเป็นนักคิดรุ่นใหม่ที่ต้องนำเสนอโปรเจ็กต์ผ่าน “คุณพ่อ” สาวน้อยคนนี้บอกว่าไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการทำงานต้องเป็นไปตามขั้นตอน หากโปรเจ็กต์ไม่เวิร์กก็มีสิทธิเสนอไม่ผ่าน แม้จะมีสายสัมพันธ์พ่อลูก แต่การทำงาน คือ การทำงานแบบมืออาชีพ เธอก็คือพนักงานคนหนึ่งที่ต้องทำทุกอย่างตามขั้นตอน ต้องรอบอร์ดอนุมัติ
“ตอนที่เข้ามา เราไม่ได้โพสิชันตัวเองว่าอยู่ระดับไหน เราอยากให้คนในทีมยอมรับเราจากความสามารถ เราจะคลุกคลีกับพนักงาน ทำงานตามโพรเซสทั้งหมด ค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ และส่วนหนึ่งก็มีคุณพ่อเป็นผู้ถ่ายทอดทักษะการทำงาน พร้อมให้คำแนะนำ”
ทายาท asap คนนี้บอกว่า เธอเป็นนักรับฟัง และไม่เคยทำงานข้ามหัว ไม่ข้ามขั้นตอน เธอคิดว่าความเป็นทายาท ไม่ได้ทำให้เธอสามารถกระโดดข้ามขั้นตอนการทำงานในรูปแบบขององค์กร หรือทำงานข้ามหัวเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ได้ การที่จะทำให้เป็นที่ยอมรับของทุกคน คือ การแสดงฝีมือ โชว์ความสามารถในการทำงานให้ทุกคนได้เห็น
“โปรเจ็กต์ที่เสนอแล้วไม่ผ่านก็มี วิธีการแก้ไขของเรา คือ ถ้าเสนอไปแล้วไม่ผ่าน เราต้องฟังเหตุผล มองดูอะไรคือสิ่งที่เขาคิดแตกต่างจากเรา และสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็มาคิดใหม่ หาวิธีใหม่” ความสำเร็จของเธอ อยู่ที่การที่ทุกคนยอมรับในความสามารถ...และนี่แหละ คือ สิ่งที่ท้าทายของทายาท ที่ต้องเข้ามาทำงานในองค์กรของครอบครัว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,340 วันที่ 15 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
แนวคิดนี้ คือ แนวคิดของนักบริหารสาวรุ่นใหม่ “พิชชาภัสร์ ฐิติปุญญา” ทายาทของ “ทรงวิทย์ ฐิติปุญญา” เจ้าของธุรกิจรถเช่า บริษัท ซินเนอร์ เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ asap ที่ถือเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตเป็นที่น่าจับตา
[caption id="attachment_258723" align="aligncenter" width="335"]
“พิชชาภัสร์” เข้ารับตำแหน่ง ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซินเนอร์ เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ asap หลังจากสะสมประสบการณ์ทำงานด้านการเงินมาจากหลายที่ ตั้งแต่การเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อ ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ และเป็นนักวิจัยเชิงคุณภาพของ ทิสโก้-ดอยซ์แบงก์ รวมทั้งยังผ่านงานด้านคอร์ปอเรตไฟแนนซ์ ของ PWC ไทยแลนด์ โดยโปรเจ็กต์แรกที่เข้ามาจับในบทบาทของนักพัฒนาธุรกิจใหม่ ของ asap คือ ผู้จัดการโครงการ asap GO
นักบริหารสาวคนนี้ บอกว่า คุณพ่อไม่ได้วางว่าทายาทจะต้องเข้ามาเป็น เจน 2 แต่เธอเข้ามาก็เหมือนเป็นพนักงานคนหนึ่ง ที่เข้ามารับหน้าที่บริหารและคิดพัฒนาโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ให้กับองค์กร และasap GO ก็เป็นโปรเจ็กต์แรกที่เธอเข้ามารับผิดชอบ โดยยูนิตใหม่นี้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 2560 เป็นโครงการรถเช่ารายชั่วโมง ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทำให้ผู้ใช้เกิดความสะดวกสบายที่สุด ซึ่งผู้ใช้สามารถจ่ายเงินได้ตามการใช้งานจริง
และเธอยังมีอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ยักษ์ คือ ออโต้ พาร์ค ที่จะเปิดปลายเดือน 3 หรือต้นเดือน 4 นี้ ออโต้ พาร์ค จะเป็นเหมือนออโต้มอลล์ มีบริหารครบวงจร ทั้งรถเช่าระยะสั้น โชว์รูมรถมือสอง และรีเทลต่างๆ ซึ่งจะพัฒนาและผลักดันให้รูปแบบธุรกิจนี้ขยายตัวได้ ผ่านการทำแฟรนไชส์ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว กว่าการที่ asap จะลงทุนเองทั้งหมด โดยมีแผนว่า ภายใน 5 ปีจะเปิดได้ 30 สาขาทั่วประเทศ
การเป็นนักคิดรุ่นใหม่ที่ต้องนำเสนอโปรเจ็กต์ผ่าน “คุณพ่อ” สาวน้อยคนนี้บอกว่าไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการทำงานต้องเป็นไปตามขั้นตอน หากโปรเจ็กต์ไม่เวิร์กก็มีสิทธิเสนอไม่ผ่าน แม้จะมีสายสัมพันธ์พ่อลูก แต่การทำงาน คือ การทำงานแบบมืออาชีพ เธอก็คือพนักงานคนหนึ่งที่ต้องทำทุกอย่างตามขั้นตอน ต้องรอบอร์ดอนุมัติ
“ตอนที่เข้ามา เราไม่ได้โพสิชันตัวเองว่าอยู่ระดับไหน เราอยากให้คนในทีมยอมรับเราจากความสามารถ เราจะคลุกคลีกับพนักงาน ทำงานตามโพรเซสทั้งหมด ค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ และส่วนหนึ่งก็มีคุณพ่อเป็นผู้ถ่ายทอดทักษะการทำงาน พร้อมให้คำแนะนำ”
“โปรเจ็กต์ที่เสนอแล้วไม่ผ่านก็มี วิธีการแก้ไขของเรา คือ ถ้าเสนอไปแล้วไม่ผ่าน เราต้องฟังเหตุผล มองดูอะไรคือสิ่งที่เขาคิดแตกต่างจากเรา และสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็มาคิดใหม่ หาวิธีใหม่” ความสำเร็จของเธอ อยู่ที่การที่ทุกคนยอมรับในความสามารถ...และนี่แหละ คือ สิ่งที่ท้าทายของทายาท ที่ต้องเข้ามาทำงานในองค์กรของครอบครัว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,340 วันที่ 15 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
