บอร์ดสสว.อัดฉีดงบ 2 พันล้าน จัดสรรกองทุน 6 ส่วนเพิ่มขีดความสามารถSMEต่อเนื่อง

15 ม.ค. 2559 | 09:00 น.
บอร์ดเอสเอ็มอีแต่งตั้งอนุกรรมการบริหารสสว. พร้อมเดินหน้าอัดฉีดงบประมาณอีกกว่า 2 พันล้านบาท เพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่อเนื่อง

นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เผยผลประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เฉพาะกิจ)ครั้งที่ 1/2559 ว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อมเพื่อให้การปฏิบัติงานของ สสว.เกิดความคล่องตัว โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และนางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานอนุกรรมการบริหาร นอกจากนี้ยังมีมติให้ความเห็นชอบการจัดสรรเงินกองทุนของ สสว.จำนวน 1,977.645 ล้านบาทตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2558 เพื่อบูรณาการงานส่งเสริม SMEs ของประเทศให้เติบโตได้ตามศักยภาพและต่อเนื่อง โดยจัดสรรเงินกองทุนออกเป็น 6 ส่วน ประกอบด้วย

1.การจัดสรรเงินกองทุน 437.17 ล้านบาทให้กับ 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม งบประมาณ 100 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ งบประมาณ 187.17 ล้านบาท และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี งบประมาณ 150 ล้านบาท 2.จัดสรรเงินกองทุน 1,000 ล้านบาทเพื่อจัดตั้งกองทุนพลิกฟื้น SMEs โดยให้ สสว. ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ SMEs และธุรกิจการเกษตรที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ โดยจะคัดเลือกจากลูกค้าธนาคารของรัฐที่มีปัญหาในการจ่ายชำระหนี้ แต่มีความบริสุทธิ์ใจ และมีเจตนาที่จะทำกิจการต่อไป 3.จัดสรรเงินกองทุน 200 ล้านบาท ดำเนินโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start-up) โดย ตั้งเป้าหมายสร้างผู้ประกอบการใหม่ 3-4 หมื่นราย

4.จัดสรรเงินกองทุน 200 ล้านบาท ดำเนินโครงการส่งเสริม SME ที่ทำกิจการอยู่แล้วให้เติบโตได้ยิ่งขึ้น (SMEs Strong/Regular) มีเป้าหมาย 10,000 ราย ภายในปี 2559 5. จัดสรรเงินกองทุน 40.475 ล้านบาท ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ให้บริการครบวงจร (SMEs One-stop Service Center:OSS) เพิ่มอีก 20 แห่ง รวมเป็น 31 แห่ง เพื่อทำหน้าที่เป็นเสมือนสาขาของ สสว.ให้คำปรึกษาแนะนำด้านธุรกิจแก่ SMEs เป็นตัวกลางประสานระหว่าง SMEs กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ดูแล SMEs ที่ได้รับการส่งเสริมจาก สสว.โดยตรงและจากหน่วยงานร่วมของ สสว.

6.จัดสรรเงินกองทุน 100 ล้านบาท ดำเนินโครงการประชารัฐเพื่อวิสาหกิจชุมชน ด้วยการจัดตั้งร้านค้าประชารัฐจำนวน 148 แห่งทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตสินค้า OTOP และวิสาหกิจชุมชนให้มีที่ขายสินค้าถาวร รวมทั้งปรับมาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ต้องการ ภายใต้ความร่วมมือจาก 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนการสร้างร้านค้าจำนวน 148 แห่ง ซึ่งบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) สนับสนุนพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.โดยไม่คิดค่าเช่า ส่วนกรมการพัฒนาชุมชน และ สสว. ร่วมกันคัดสรรสินค้าจากวิสาหกิจชุมชน โดยปรับมาตรฐานและรับรองคุณภาพสินค้า รวมทั้งช่วยดูแลการบริหารจัดการของร้านค้าประชารัฐ เช่น การจัดหาบุคลากร และการขนส่งสินค้า

ขณะที่ธนาคารเอสเอ็มอีจะช่วยสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ชุมชนที่ส่งสินค้ามาขายตั้งเป้าหมายให้ชุมชนสามารถบริหารร้านค้าประชารัฐได้ด้วยตนเองภายในเวลา 3 ปีและสามารถยกระดับวิสาหกิจชุมชนขึ้นเป็นผู้ประกอบการ SMEs คาดว่า โครงการดังกล่าวจะเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2559

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,122 วันที่ 14 - 16 มกราคม พ.ศ. 2559