ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ว่าที่ปิกอัพแพงที่สุดของไทย

13 ก.พ. 2561 | 23:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

เปิดตัวสู่สายตาสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ปิกอัพสายพันธุ์แกร่งจากค่ายฟอร์ด โดยงานนี้ได้เลือกประเทศไทยในการเป็นเวทีเผยโฉมแบบเวิลด์ พรีเมียร์ ครั้งแรกของโลก

อย่างไรก็ดีฟอร์ด ยังไม่ได้เคาะราคาขายของรถรุ่นใหม่ พร้อมทั้งไม่บอกกล่าวว่าจะขายเมื่อไร มีเพียงข้อมูลรายละเอียดของตัวรถรวมไปถึงดีไซน์ต่างๆเท่านั้นที่สามารถเปิดเผยได้

MP33-3339-3A สำหรับ ฟอร์ด แร็พเตอร์ ใหม่ ใช้แนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance) เข้ากับความแข็งแกร่งของฟอร์ด เรนเจอร์ ส่งผลให้หน้าตาดูดุดัน โดยกระจังหน้าที่มีโลโกฟอร์ดแปะอยู่ได้แรงบันดาลใจมาจากฟอร์ด เอฟ-150 แร็พเตอร์ ส่วนแก้มข้างรถคู่หน้าแบบใหม่เอาใจขาออฟโรด เพราะผลิตจากวัสดุคอมโพสิต ที่ดูแข็งแกร่ง และทนต่อการบุบและรอยขีดข่วน

MP33-3339-2A ส่วนมิติของฟอร์ด แร็พเตอร์ ใหม่ มาพร้อมความสูงถึง 1,873 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,180 มิลลิเมตร และความยาว 5,398 มิลลิเมตร ระยะช่วงล้อหน้าและหลังกว้างขึ้นเป็น 1,710 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถเพิ่มขึ้นเป็น 283 มิลลิเมตร อีกทั้งยังมาพร้อมมุมไต่ที่ 32.5 องศา มุมคร่อมที่ 24 องศา และมุมจากที่ 24 องศา ซึ่งฟอร์ดเคลมว่าเหนือกว่ารถรุ่นอื่นๆที่เคยมีมา ความพิเศษอีกอย่างคือส่วนท้ายปิกอัพมีพื้นที่ใช้งานด้วยขนาด 1,560 x 1,743 มิลลิเมตร
ภายในห้องโดยสาร มีการออกแบบเบาะพิเศษ เพื่อรองรับการใช้งานแบบออฟโรด เลือกใช้วัสดุคือหนังกลับ ที่จะช่วยการยึดเกาะที่นั่งของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยภายในนั้น ตัวพวงมาลัยมาพร้อมกับแป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ที่ผลิตจากแม็กนีเซียมนํ้าหนักเบาซึ่งถือเป็นดีเอ็นเอใหม่ของแร็พเตอร์ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างฉับไว เพิ่มความแม่นยำในการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการ และขอบพวงมาลัยยังสลักลายโลโกแร็พเตอร์อีกด้วย ด้านแผงหน้าปัดก็แสดงฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ

MP33-3339-1A ไฮไลต์อีกอย่างของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือ แชสซีส์ ที่ออกแบบใหม่ เพื่อรองรับกับการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูง และยังทนต่อแรงกระแทก อีกทั้งยังมีระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่รวมถึงระบบวัตต์ลิงก์และสปริงคอยล์โอเวอร์โช้กที่ว่ากันว่าจะช่วยให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง มีผลต่อการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น

ระบบช่วงล่าง รองรับการขับขี่ที่ความเร็วสูงบนสภาพพื้นผิวขรุขระ และยังมีโช้กแบบ Position Sensitive Damping (PSD) และโช้กอัพคู่หน้าและหลังถูกออกแบบโดย Fox Racing Shox ใช้ลูกสูบขนาด 46.6 มิลลิเมตร ซึ่งได้ออกแบบมาเพื่อช่วยซับแรงกระแทกขณะขับออฟโรด แต่ด้วยระบบบายพาสภายใน (Internal Bypass technology) ก็จะทำให้การขับขี่บนถนนทางเรียบเป็นไปอย่างราบรื่น

MP33-3339-5A นอกจากนั้นแล้ว เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมีปีกนกที่ทำจากอะลูมิเนียม โดยปีกนกบนทำด้วยวิธีการฟอร์จและปีกนกล่างใช้วิธีการหล่อ เพื่อให้ระบบช่วงล่างทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แข็งแรงทนทานต่อการขับขี่แบบออฟโรดที่จะช่วยซับแรงกระแทกเมื่อขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง พร้อมยาง All-terrain BF Goodrich 285/70 R17

เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมาพร้อมกับระบบ Terrain Management System (TMS) สามารถเลือกโหมดการขับขี่ทั้งหมด 6รูปแบบ ได้แก่ โหมดการขับขี่ทางเรียบ ที่ประกอบไปด้วย 2 รูปแบบคือ โหมดปกติ, โหมดสปอร์ต ต่อมาเป็นแบบโหมดการขับขี่ออฟโรด ที่ประกอบไปด้วย 4 รูปแบบ โหมดหญ้า/กรวดหิน/หิมะ,โหมดโคลน/ทราย, โหมดหิน และสุดท้ายคือ โหมดบาฮา (เหมาะกับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูงเสมือนนักแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮา
เครื่องยนต์ดีเซลใหม่แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า และแรงบิดที่มากถึง 500 นิวตัน-เมตร โดยวิศวกรของฟอร์ดบอกว่า แรงบิดของรถรุ่นใหม่นี้สูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตรเสียอีก !!
ad-bkk
สิ่งที่ทีมวิศวกรต้องการนำเสนออีกอย่างคือ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ซึ่งมาจากแร็พเตอร์ เอฟ-150 ผลิตจากวัสดุเหล็กกล้า อะลูมิเนียมอัลลอยและคอมโพสิตเพื่อให้ความความทนทานและมีนํ้าหนักเบาเนื่องจากเกียร์มีทั้งหมด 10 จังหวะทำให้มีอัตราทดที่แคบลงส่งผลให้มีอัตราเร่งและการตอบสนองที่ดีขึ้น

เรียกว่ามาเต็ม จัดหนัก สำหรับฟังก์ชัน ฟีเจอร์ต่างๆที่ใส่เข้ามาใน เรนเจอร์ แร็พเตอร์ และแม้จะยังไม่ได้ประกาศราคา แต่คาดว่าจะอยู่แถวๆ 1.5-1.7 ล้านบาท

Ranger Raptor_Exterior_2_web Ranger Raptor_Exterior_3_web Ranger Raptor_Interior_2_web Ranger Raptor_Outdoor_2_web Ranger Raptor_Outdoor_6_web Ranger Raptor_Outdoor_7_web จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,339 วันที่ 11 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
e-book-1-503x62