บิวท์ทูบิวด์ เดินเกมบุก โกย900ล.
กลุ่มบิวท์ฯ เผยแผนปี 61 ได้เปิดตัวแบบบ้านใหม่ล่าสุด 6 ดีไซน์ รองรับตลาดบ้านขายดีราคา 3-7 ล้าน ดันยอดขายทั้งกลุ่มปีนี้โตขึ้น 10% ตั้งเป้าไว้ 900 ล้านบาท
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้านประกอบด้วย บริษัท บิวท์ ทู บิวด์ จำกัด บริษัท บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์ จำกัด และ บริษัท สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์ จำกัด เปิดเผยว่าแผนการดำเนินงานในปี 2561 ยังคงเน้นรักษาระดับการเติบโตโดยวางเป้ารายได้เติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 10% มีรายได้ประมาณ 900 ล้านบาท (ปี 2560 ทำได้ 830 ล้านบาท) ควบคู่ไปกับแผนการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานงานก่อสร้างบ้าน
“เชื่อเศรษฐกิจปีนี้แนวโน้มดีขึ้น แต่ยังเป็นห่วงเรื่องขาดแคลนแรงงาน ส่วนแผนการตลาดนั้นยังคงเน้นกิจกรรมที่เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ดีที่สุดอย่างกิจกรรมเยี่ยมชมโครงการ รวมถึงทุ่มงบราว 25 ล้านบาท ดำเนินงานในส่วนของการทำกิจกรรมการตลาด การโฆษณา/ประชาสัมพันธ์กิจกรรมและข่าวสาร โปรโมชัน ตลอดจนการให้บริการแก่ลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย ฯลฯ ผ่านสื่อออนไลน์และสื่อโซเชียลมีเดียให้สอดรับกับผู้บริโภคในยุค 4.0 ได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น”
นอกจากนั้นกลุ่มบริษัทได้ออกแบบบ้านใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “LOFT SERIES” จำนวนทั้งสิ้น 6 แบบ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 130-405 ตารางเมตร ในระดับราคาตั้งแต่ 3-7 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายให้มากขึ้นในปี 2561 ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาบ้านที่กลุ่มบริษัทครองตลาดนี้อยู่จำนวนมาก ด้านออกแบบและดีไซน์ซีรีส์ใหม่ล่าสุดนี้จะมีความหลากหลายทั้งบ้านชั้นเดียว บ้าน 2 ชั้น และบ้านแฝด ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยของลูกค้าตั้งแต่กลุ่ม Startup Family เป็นต้นไปจนถึงกลุ่มลูกค้าวัยผู้สูงวัย เพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มที่ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สามารถอยู่ได้ในทุกยุคสมัย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,339 วันที่ 11 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้านประกอบด้วย บริษัท บิวท์ ทู บิวด์ จำกัด บริษัท บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์ จำกัด และ บริษัท สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์ จำกัด เปิดเผยว่าแผนการดำเนินงานในปี 2561 ยังคงเน้นรักษาระดับการเติบโตโดยวางเป้ารายได้เติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 10% มีรายได้ประมาณ 900 ล้านบาท (ปี 2560 ทำได้ 830 ล้านบาท) ควบคู่ไปกับแผนการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานงานก่อสร้างบ้าน
“เชื่อเศรษฐกิจปีนี้แนวโน้มดีขึ้น แต่ยังเป็นห่วงเรื่องขาดแคลนแรงงาน ส่วนแผนการตลาดนั้นยังคงเน้นกิจกรรมที่เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ดีที่สุดอย่างกิจกรรมเยี่ยมชมโครงการ รวมถึงทุ่มงบราว 25 ล้านบาท ดำเนินงานในส่วนของการทำกิจกรรมการตลาด การโฆษณา/ประชาสัมพันธ์กิจกรรมและข่าวสาร โปรโมชัน ตลอดจนการให้บริการแก่ลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย ฯลฯ ผ่านสื่อออนไลน์และสื่อโซเชียลมีเดียให้สอดรับกับผู้บริโภคในยุค 4.0 ได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น”
นอกจากนั้นกลุ่มบริษัทได้ออกแบบบ้านใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “LOFT SERIES” จำนวนทั้งสิ้น 6 แบบ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 130-405 ตารางเมตร ในระดับราคาตั้งแต่ 3-7 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายให้มากขึ้นในปี 2561 ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาบ้านที่กลุ่มบริษัทครองตลาดนี้อยู่จำนวนมาก ด้านออกแบบและดีไซน์ซีรีส์ใหม่ล่าสุดนี้จะมีความหลากหลายทั้งบ้านชั้นเดียว บ้าน 2 ชั้น และบ้านแฝด ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยของลูกค้าตั้งแต่กลุ่ม Startup Family เป็นต้นไปจนถึงกลุ่มลูกค้าวัยผู้สูงวัย เพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มที่ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สามารถอยู่ได้ในทุกยุคสมัย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,339 วันที่ 11 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
