เจาะลึก! 'งานของเล่นและเกม' ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย Hong Kong Toys & Games Fair 2018 (ตอน 2)
... การเติบโตของตลาดของเล่นและเกมสำหรับเด็ก รวมถึงของเล่น ของสะสมสนุก ๆ สำหรับผู้ใหญ่ในปัจจุบัน เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ประกอบการไม่ได้เกาะกลุ่มเฉพาะแต่ผู้ประกอบการรายเดิม ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ในตลาดนี้มาอย่างยาวนาน จนเป็นรายใหญ่ในสินค้าบางประเภท แต่จากการได้เจาะลึกงาน ‘Hong Kong Toys & Games Fair 2018’ ตลอดทั้ง 4 วันจัดงาน คือ ระหว่างวันที่ 8-11 ม.ค. ที่ผ่านมา สิ่งที่เราได้พบ คือ ผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เปลี่ยนจากการเป็นคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าตัวเล็กในบ้าน หันมาผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของตนเอง ทั้งยังสานฝันสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจที่เติบโตในตลาดโลก และที่สำคัญ คือ การเลือก ‘ฮ่องกง’ เป็นที่แรกในการเปิดตัวสินค้าอย่างเป็นทางการ
[caption id="attachment_257892" align="aligncenter" width="503"]
จุดเด่นของผู้ประกอบการซึ่งเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ก็คือ ความมุ่งมั่นที่ผสานแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้าทุ่มเทและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่กำลังเริ่มต้นให้ดีที่สุด ในงานนี้เราได้พบกับ Mr.Jeremy Boreham ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตของเล่น ‘Barney and Buddy’ ซึ่งที่มาของชื่อก็มาจากชื่อลูกชายวัย 4 ขวบครึ่ง และ 3 ขวบ ที่กำลังซุกซนของเขา จุดเริ่มต้นแนวคิดผลิตภัณฑ์มาจากความยากในการอาบน้ำของเจ้าตัวเล็กที่ไม่ยอมอาบน้ำง่าย ๆ และยังไม่ยอมอยู่นิ่งให้ขัดสีฉวีวรรณ
Mr.Jeremy ซึ่งเคยอยู่ในวงการธุรกิจของเล่นมาก่อน จึงเริ่มต้นคิดและผลิตแผ่นพลาสติกสำหรับเล่นในอ่างอาบน้ำ เริ่มต้นด้วยการรังสรรค์เป็นภาพหน้าคนที่สามารถปรับเปลี่ยนไปมาคล้ายกับตุ๊กตากระดาษ เปลี่ยนแว่นตา เปลี่ยนสีผม เปลี่ยนรอยยิ้ม ให้เด็ก ๆ เพลิดเพลินกับชิ้นส่วนทั้ง 36 ชิ้น จนลืมเวลา คุณสมบัติที่สำคัญของของเล่นจาก ‘Barney and Buddy’ คือ คุณสมบัติในการเชื่อมติดและกันน้ำอย่างดีเยี่ยม ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อย่าง การประกอบชิ้นส่วนไม้เล็ก ๆ เป็นรถของเล่นที่สามารถเคลื่อนที่ได้จริง เสริมสร้างการทำงานของสมองผ่านกลไกประสาทสัมผัสแทบทุกส่วน สามารถติดตามผลิตภัณฑ์และติดต่อข้อมูลกับ Mr.Jeremy ได้โดยตรงที่ www.barneyandbuddy.com
สำหรับคุณพ่ออีกหนึ่งท่านที่ผลิตภัณฑ์ของเขาน่ารักน่าเอ็นดูจนเรียกความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่ ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กในตลาดของประเทศตนเองได้ไม่น้อย ก็คือ ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าเด็กแบรนด์ ‘KALILA’ โดย Mr.Bruno Fleurquin ชาวฝรั่งเศสที่มาลงหลักปักฐานหลังการแต่งงานกับดีไซเนอร์สาวมากฝีมือ ซึ่งออกแบบให้กับ Luxury Brands ชั้นนำระดับโลกที่ประเทศสิงคโปร์ เพราะเสื้อผ้า คือ องค์ประกอบที่แนบชิดติดกับร่างกายมากที่สุด ความกังวลเรื่องสารเคมีที่เจือปนในเสื้อผ้าสำหรับเด็ก ซึ่งอาจเกิดอันตรายกับสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
[caption id="attachment_257894" align="aligncenter" width="503"]
Mr.Bruno และภรรยา Mrs.Diana จึงร่วมกันคัดสรรและใส่ใจในทุกรายละเอียด สร้างสรรค์ชุดสำหรับลูกน้อยตั้งแต่เมล็ดฝ้าย ที่ต้องไม่เป็นเมล็ดที่ผ่านการ GMO เพื่อให้ได้เนื้อฝ้ายออร์แกนิกบริสุทธิ์แท้ 100% ลวดลายและสีสันผ่านการคิดค้นเพื่อให้ผ่านกระบวนการที่ปราศจากสารเคมี ทำให้ ‘KALILA’ ไม่เพียงได้รับการันตีว่า เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกแล้ว ภายใต้การออกแบบที่ดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรสนิยมมิกซ์แอนด์แมตช์สีสันได้ไม่เบื่อ ทำให้เสื้อผ้าเด็กแบรนด์ ‘KALILA’ ได้รับรางวัลด้านคุณภาพและงานดีไซน์จาก Harper Bazaar สิงคโปร์อีกด้วย ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ความใส่ใจในธรรมชาติ แบรนด์ ‘KALILA’ ได้ร่วมมือกับองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติที่เข้าไปปลูกป่าในพื้นที่สำคัญ ทั้งในป่าอเมซอน ป่าในประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงป่าในแอฟริกา อย่าง ‘One Tree Planted’ นำรายได้ทุก 1% ของการซื้อ ส่งตรงไปปลูกต้นไม้ต้นใหม่ให้กับโลก ซึ่งหลังจากการเปิดตัวในปี 2016 ขณะนี้ ‘KALILA’ ปลูกต้นไม้ไปแล้วร่วม 1,000 ต้น ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับเสื้อผ้าออร์แกนิกสำหรับเด็กแบรนด์ ‘KALILA’ ได้โดยตรงที่ www.kalilaorganics.com
นี่เป็นเพียงตัวอย่างสินค้าที่เหล่าคุณพ่อมานำเสนอผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง ... ยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ รวมถึงการเจาะลึกในกลุ่มธุรกิจเครื่องเขียน ที่กลุ่มผู้ผลิตสินค้าจากประเทศจีนพร้อมนำเสนอโดยตรง และบางผลิตภัณฑ์อาจเป็นแรงบันดาลใจสร้างธุรกิจใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่แปลกใจเลยที่ใคร ๆ ก็เดินทางมางานแสดงสินค้าที่ฮ่องกง
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,339 วันที่ 11-14 ก.พ. 2561 หน้า 26
