ThaiWPS รุกคลาวด์ชิงแชร์ไมโครซอฟท์

13 ก.พ. 2561 | 11:30 น.
ไทย ดับเบิ้ลยูพีเอส ผนึก ไอเน็ต พัฒนา ซูเปอร์ดั๊ก คลาวด์ แพลตฟอร์มโปรแกรมสำนักงานสัญชาติไทยรายแรก หวังชิงส่วนแบ่งตลาดไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ ตั้งเป้าผู้ใช้ 8 ล้านราย ภายใน 3 ปี พร้อมขยายฐานลูกค้าสู่อาเซียน

นายพงศ์พรหม ยามะรัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอ็มไอ โกลบัล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ให้บริการ ไทย ดับเบิ้ลยูพีเอส (ThaiWPS) กล่าวว่า ไทยดับเบิ้ลยูพีเอสได้ร่วมกับ บริษัท อินเตอร์ เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET เพื่อพัฒนาคลาวด์โซลูชัน ภายใต้ชื่อ SuperDuck (ซูเปอร์ดั๊ก) โปรแกรมจัดการเอกสาร นำเสนองาน และการคำนวณ สำหรับสำนักงานและองค์กรต่างๆ ที่สามารถใช้ทำงานได้จากทุกที่และเข้าถึงได้หลากหลายอุปกรณ์ ทั้งบน PC หรืออุปกรณ์อิเล็ก ทรอนิกส์แบบพกพาต่างๆ

เนื่องจากปัจจุบันคนไทยมีการใช้งานซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายสูงถึง 70-75% ของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหมดในประเทศไทย ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายส่วนใหญ่มักแฝงมาด้วยมัลแวร์ต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายและความไม่ปลอดภัยจากการถูกขโมยข้อมูลสำคัญขององค์กร

MP20-3339-B โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักนั้นเป็นหน่วยงานที่มีความต้องการใช้โปรแกรมจำนวนมาก และต้องการลดค่าใช้จ่ายเรื่องลิขสิทธิ์ แต่ยังต้องการความปลอดภัยด้านข้อมูลสูง ซึ่งซูเปอร์ดั๊ก สามารถช่วยลดต้นทุนให้กับองค์กรได้ถึง 40-60% ล่าสุดได้มีการเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์คือ One Office 2561 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 199 บาท และ One VDI 2561 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่เดือนละ 999 บาท โดยมีหน่วยงานที่ให้ความสนใจทั้งภาครัฐและเอกชนแล้ว 14 ราย ประกอบไปด้วยกลุ่มธนาคาร 3 ราย โดยตั้งเป้าผู้ใช้งาน 8 ล้านราย ภายในระยะเวลา 3 ปี และขยายฐานลูกค้าสู่อาเซียนภายใน 5 ปี ทั้งนี้ในปีแรกจะเน้นนำเสนอบริการให้กับกลุ่มฐานลูกค้าของไอเน็ต ที่มีความต้องการใช้งานโปรแกรมสำนักงาน รวมทั้งลูกค้าองค์กรทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและเอสเอ็มอี ผ่านการโรดโชว์ตามสถานที่ต่างๆ จากนั้นจะเริ่มขยายไปสู่การให้บริการภาคครัวเรือนต่อไป ด้วยความตั้งใจที่จะให้คนไทยเข้าถึงการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกกฎหมาย เนื่อง จากในอนาคตอาวุธของอาชญากรคือการเข้าถึงข้อมูลสำคัญผ่านทางไซเบอร์

ด้านนางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเน็ต (INET) กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีข้อได้เปรียบในเรื่องของจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่มากถึง 57 ล้านคนหรือคิดเป็น 83.5% จากประชากรทั้งหมด จึงต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเข้ามา รวมถึงการดึงผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเข้ามาทำงานให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ของไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยบริการคลาวด์ของไอเน็ตที่ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งตั้งบนดาต้าเซ็น เตอร์ 3 แห่งในประเทศไทย

ad-bkk ขณะที่ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้บริการของไอเน็ตมีอัตราการเติบโตมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้วยยอดผู้ใช้บริการกว่า 1,400 ราย จากแนวคิดที่สอดคล้องกับทางไทย ดับเบิ้ลยูพีเอสนั้น จึงได้ร่วมกันพัฒนาซูเปอร์ดั๊กขึ้น โดยนำโปรแกรมสำนักงาน ไทยดับเบิ้ลยูพีเอส ออฟฟิศ มาประยุกต์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานในไทย ผนวกกับช่องทางการให้บริการของไอเน็ตที่ช่วยให้ผู้ใช้ สามารถใช้งานและจัดเก็บข้อมูลได้ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์บนระบบคลาวด์ที่มีความปลอดภัยมากกว่าการใช้งานในรูปแบบเดิม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,339 วันที่ 11 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
e-book-1-503x62