กัมพูชาดิ้นขายไฟฟ้า ทางเลือกป้อนภาคใต้

16 ก.พ. 2561 | 03:30 น.
สนพ.ระบุสร้างโรงไฟฟ้าหลักภาคใต้ยังจำเป็น พร้อมบรรจุอยู่ในแผนพีดีพีใหม่ แต่ไม่ฟันธงเป็นเชื้อเพลิงประเภทไหน ขณะที่กลุ่มทุนจากกัมพูชา เสนอขายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงถ่านหินที่เกาะกง เป็นทางเลือก

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลได้ชะลอการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินออกไป 3 ปี ซึ่งมีมาตรการต่างๆ ออกมารองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เช่น การเร่งก่อสร้างสายส่งจากภาคกลางเพิ่มเติม รวมทั้งการพัฒนาพลังงานทดแทน 300 เมกะวัตต์นั้น

[caption id="attachment_169968" align="aligncenter" width="503"] ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร[/caption]

อย่างไรก็ตาม มองว่าพื้นที่ภาคใต้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เติบโตจากการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก ดังนั้น การก่อสร้างโรงไฟฟ้าหลัก จึงมีความจำเป็นในอนาคต และจะต้องบรรจุอยู่ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(พีดีพี)ฉบับใหม่ ส่วนจะเป็นเชื้อเพลิงประเภทใดอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำพีดีพีอยู่

ส่วนกรณีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา ขนาด 4 พันเมกะวัตต์ เพื่อป้อนไฟฟ้าให้กับภาคใต้นั้นเคยมีการเสนอมายังรัฐบาลและพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มาแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่ได้นำเรื่องนี้มาให้การไฟฟ้าพิจารณา แต่ยืนยันว่าอีก 20 ปี อาจต้องซื้อไฟจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากก๊าซธรรมชาติในประเทศมีจำกัด

ad-bkk แหล่งข่าวจากวงการพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีความพยายามเคลื่อน ไหวของกลุ่มทุนใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีการลงทุนอยู่ในกัมพูชาอยู่แล้ว เพื่อผลักดันให้กระทรวงพลังงานรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เกาะกง เป็นทางเลือกหนึ่ง หากโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยจะก่อสร้างสายส่งจากเกาะกง ผ่านปอยเปต มายังอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และจะก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูง ที่อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ระยะทาง 1,150 กม. มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1 แสนล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,339 วันที่ 11 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว