ลุ้นยางทะลุ50บาทหลังตรุษจีน พ่อค้า-ชาวสวนตุนของรอขาย-จี้รัฐเอาจริงดัน65บ./กก.
ผู้ค้า-เกษตรกรลุ้นราคายางขยับเหนือ 50 บาท/กก.หลังตรุษจีน เล็งออร์เดอร์แดนมังกรทะลัก 4 ภาคเริ่มปิดกรีดยางหน้าแล้ง ทำผลผลิตวูบ พ่อค้าเริ่มแย่งซื้อตุนสต๊อกรอขาย จี้รัฐดัน 7 มาตรการหวัง 65 บาท/กก.
จากมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 19 ธันวาคม 2560 ได้เห็นชอบ 7 มาตรการเพื่อผลักดันราคายางพาราสู่เป้าหมายที่ 65 บาท/กิโลกรัม (กก.) ซึ่ง ณ ปัจจุบันราคายางทุกชนิดทั้งในตลาดกลางยางพารา และตลาดท้องถิ่นยังอยู่ในระดับไม่เกิน 50 บาท/กก.นั้น
นายหลักชัย กิตติพล ประธานกิตติมศักดิ์ บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สถาน การณ์ราคายางพาราในประเทศต้นปีนี้เทียบกับช่วงเดียวของปีที่แล้วถือว่าตํ่ากว่า ผลจากสภาพอากาศที่สู่ภาวะปกติ ทำให้มีผลผลิตออกมามากในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ช่วงนี้ตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่สุดของไทย (สัดส่วน 48% ของการส่งออกในปีที่ผ่านมา) หยุดซื้อเนื่องจากเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ราคายางในประเทศและในตลาดส่งออกไม่ขยับขึ้น แต่คาดเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์หลังสิ้นสุดเทศกาลตรุษจีนต่อเนื่องไปถึงเดือนมีนาคม ราคายางจะค่อยๆ ขยับขึ้นเหนือระดับ 50 บาท/กก.จากที่จีนและอีกกว่า 70 ประเทศที่ซื้อยางจากไทยจะมีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น
“ในสิ้นเดือนนี้ต่อเนื่องถึงเดือนมีนาคม ราคายางมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นเกิน 50 บาท/กก.จากจีนกลับมาซื้อ และจากการหยุดกรีดยางที่เวลานี้ภาคเหนือ อีสานและตะวันออก ยกเว้นภาคใต้ เริ่มหยุดกรีดยางแล้วจากเข้าสู่ฤดูแล้ง ยางผลัดใบ กรีดไม่มีนํ้ายาง สินค้ามีน้อย ผู้ค้าเริ่มแย่งซื้อตุนสต๊อก ส่วนอนาคตจะถึง 65 บาท/กก.ตามเป้าหมายรัฐบาลหรือไม่คงขึ้นกับมาตรการของรัฐจะเห็นเป็นรูปธรรมได้มากน้อยเพียงใด เช่นเพิ่มการใช้ยางในประเทศ การจำกัดการส่งออกยาง 3 เดือน รวมถึงสถานการณ์ที่เกี่ยวเนื่องในต่างประเทศ”
สอดคล้องกับนายนิพนธ์ ตันติ์ทวิสุทธิ์ เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดลำพูน ที่เผยว่า ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และภาคตะวันออกส่วนใหญ่ปิดกรีดยางแล้ว ในพื้นที่ลำพูนที่ยังพอกรีดยางได้ส่วนใหญ่ขายเป็นยางก้อนถ้วย ได้ราคาเฉลี่ยที่ 18.25 บาท/กก. โดยสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดลำพูนแจ้งจะปิดรับซื้องวดสุดท้ายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ และจากนี้ไปอีกราว 3 เดือนหรือจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมที่จะเข้าสู่ฤดูฝนจะทำให้เกษตรกรขาดรายได้จากยางพารา แต่ก็ยังพออยู่ได้จากมีรายได้ทางอื่นเสริม
นายเทอดศักดิ์ เสริมศรี ประธานกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สวนยางในภาคอีสานเริ่มปิดกรีดแล้ว สิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้คาดจะปิดกรีดทั้งหมด ราคายางที่เกษตรกรยังพอมีของ ในส่วนของยางก้อนถ้วยขายได้เฉลี่ย 19-20 บาท/กก. ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ได้มากกว่า 20 บาท/กก. และยางแผ่นดิบชั้น 3 ขายได้ที่ 44 บาท/กก.จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขายได้มากกว่า 60 บาท/กก.โดยพ่อค้าในพื้นที่ที่มารับซื้ออ้างเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน จีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดหยุดรับซื้อ
“หวังราคายางหลังตรุษจีนจะขยับดีขึ้น ส่วนหนึ่งของเกษตรกรจึงเก็บยางไว้รอขาย”
นายธนพล ทองหวาน ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเขตภาคใต้ตอนล่าง(สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) กล่าวว่า ราคายางที่เกษตรกรขายได้ในพื้นที่เวลานี้ค่อยขยับดีขึ้น โดยนํ้ายางสดหน้าสวนที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 39-41 บาท/กก. และยางแผ่นดิบในระดับใกล้เคียงกัน แต่จากต้นทุนการผลิตเฉลี่ยที่ 62 บาท/กก.ถือว่ายังขาดทุน ทั้งนี้ภาคใต้จะเริ่มปิดกรีดในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเปิดกรีดอีกครั้งช่วงปลายเดือนเมษายน
อนึ่ง มาตรการดันราคายางสู่เป้าหมาย 65 บาท/กก.อาทิ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยางวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท,สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนผู้ประกอบกิจการยางวงเงิน 2 หมื่นล้านบาทเพื่อดูดซับยาง 3.5 แสนตัน และส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานรัฐเป้าหมาย 2 แสนตัน เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,339 วันที่ 11 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
จากมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 19 ธันวาคม 2560 ได้เห็นชอบ 7 มาตรการเพื่อผลักดันราคายางพาราสู่เป้าหมายที่ 65 บาท/กิโลกรัม (กก.) ซึ่ง ณ ปัจจุบันราคายางทุกชนิดทั้งในตลาดกลางยางพารา และตลาดท้องถิ่นยังอยู่ในระดับไม่เกิน 50 บาท/กก.นั้น
นายหลักชัย กิตติพล ประธานกิตติมศักดิ์ บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สถาน การณ์ราคายางพาราในประเทศต้นปีนี้เทียบกับช่วงเดียวของปีที่แล้วถือว่าตํ่ากว่า ผลจากสภาพอากาศที่สู่ภาวะปกติ ทำให้มีผลผลิตออกมามากในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ช่วงนี้ตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่สุดของไทย (สัดส่วน 48% ของการส่งออกในปีที่ผ่านมา) หยุดซื้อเนื่องจากเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ราคายางในประเทศและในตลาดส่งออกไม่ขยับขึ้น แต่คาดเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์หลังสิ้นสุดเทศกาลตรุษจีนต่อเนื่องไปถึงเดือนมีนาคม ราคายางจะค่อยๆ ขยับขึ้นเหนือระดับ 50 บาท/กก.จากที่จีนและอีกกว่า 70 ประเทศที่ซื้อยางจากไทยจะมีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น
สอดคล้องกับนายนิพนธ์ ตันติ์ทวิสุทธิ์ เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดลำพูน ที่เผยว่า ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และภาคตะวันออกส่วนใหญ่ปิดกรีดยางแล้ว ในพื้นที่ลำพูนที่ยังพอกรีดยางได้ส่วนใหญ่ขายเป็นยางก้อนถ้วย ได้ราคาเฉลี่ยที่ 18.25 บาท/กก. โดยสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดลำพูนแจ้งจะปิดรับซื้องวดสุดท้ายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ และจากนี้ไปอีกราว 3 เดือนหรือจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมที่จะเข้าสู่ฤดูฝนจะทำให้เกษตรกรขาดรายได้จากยางพารา แต่ก็ยังพออยู่ได้จากมีรายได้ทางอื่นเสริม
นายเทอดศักดิ์ เสริมศรี ประธานกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สวนยางในภาคอีสานเริ่มปิดกรีดแล้ว สิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้คาดจะปิดกรีดทั้งหมด ราคายางที่เกษตรกรยังพอมีของ ในส่วนของยางก้อนถ้วยขายได้เฉลี่ย 19-20 บาท/กก. ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ได้มากกว่า 20 บาท/กก. และยางแผ่นดิบชั้น 3 ขายได้ที่ 44 บาท/กก.จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขายได้มากกว่า 60 บาท/กก.โดยพ่อค้าในพื้นที่ที่มารับซื้ออ้างเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน จีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดหยุดรับซื้อ
นายธนพล ทองหวาน ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเขตภาคใต้ตอนล่าง(สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) กล่าวว่า ราคายางที่เกษตรกรขายได้ในพื้นที่เวลานี้ค่อยขยับดีขึ้น โดยนํ้ายางสดหน้าสวนที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 39-41 บาท/กก. และยางแผ่นดิบในระดับใกล้เคียงกัน แต่จากต้นทุนการผลิตเฉลี่ยที่ 62 บาท/กก.ถือว่ายังขาดทุน ทั้งนี้ภาคใต้จะเริ่มปิดกรีดในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเปิดกรีดอีกครั้งช่วงปลายเดือนเมษายน
อนึ่ง มาตรการดันราคายางสู่เป้าหมาย 65 บาท/กก.อาทิ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยางวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท,สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนผู้ประกอบกิจการยางวงเงิน 2 หมื่นล้านบาทเพื่อดูดซับยาง 3.5 แสนตัน และส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานรัฐเป้าหมาย 2 แสนตัน เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,339 วันที่ 11 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
