ทางออกนอกตำรา : หมาเฝ้าบ้าน พร้อมตรวจสอบเงินอเมริกัน

 

 

กองบรรณาธิการ“ฐานเศรษฐกิจ”ได้นำเสนอข่าวเรื่อง “กองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา : National Endowment for Democracy ( NED)” องค์กรที่รับรู้กันว่ามีบัญชีเงินสนับสนุนอยู่ในกระทรวงต่างประเทศ  สหรัฐฯ และอนุมัติงบประมาณในแต่ละปีโดยสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ในการให้เงินสนับสนุนกิจกรรมในประเทศต่างๆ ผ่านองค์กรเอกชน และนิติบุคคลที่มีกิจกรรมสอดรับกับวัตถุประสงค์ของ NED

เราประเมินกันตั้งแต่ต้นว่า เป็นเรื่องที่สำคัญที่ประชาชนคนไทยพึงรู้

เรารับทราบว่า เมื่อนำเสนอออกไปจะมีคนชอบ และไม่ชอบ และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างของบรรดาองค์กร และบุคคลที่ถูกพาดพิงถึง

เรารับทราบว่า “คมหอกปลายดาบ” จะพุ่งเข้ามาหาเราแน่นอน

 เรารับทราบว่า จะมีบางคนที่พร้อมอธิบายและชี้แจง และจะมีบางคนที่ตำหนิ ติเตียน

แต่เราต้องทำหน้าที่นำสาร ผ่านสื่อ ให้ประชาชนได้เห็นภาพที่แท้จริงของแหล่งที่มาของเงินในการจัดกิจกรรมของแต่ละองค์กรเอกชนที่ไม่มุ่งแสวงหากำไร

เราต้องทำหน้าที่หมาเฝ้าบ้าน เห่า เพื่อปลุกให้คนไทยได้ตื่น ได้รับรู้ แล้วพิจารณาถึงบทบาทการทำงานของแต่ละองค์กรกันเอง

เราไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า ใครดีไม่ดี เราพุ่งเป้าไปที่รายละเอียดของเงินสนับสนุนที่ NED ระบุในรายงานประจำปีของเขาผ่าน https://www.ned.org/region/asia/thailand-2017 ซึ่งเขาประกาศให้เงินสนับสนุนว่า เงินอุดหนุนที่บริหารโดย “อดีตหัวหน้าทำเนียบขาว” บริหารอยู่นั้น ถูกจัดสรรลงไปที่องค์กรใด เพื่อกิจกรรมใดเป็นหลัก มิได้นำเสนอข้อมูลลอยๆที่กล่าวหาใคร

และเราประกาศชัดหลังการนำเสนอข่าวว่า ใครที่อยากจะชี้แจงอธิบาย เชิญส่งข้อมูลมาได้เต็มที่

[caption id="attachment_257996" align="aligncenter" width="490"] วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ กรรมการมูลนิธิชีววิถี (BioThai)[/caption]

วันนี้ คุณวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ กรรมการมูลนิธิชีววิถี (BioThai) ออกมาชี้แจงข้อมูล หลังกองบ.ก.ฐานเศรษฐกิจนำเสนอเนื้อข่าวบางตอนว่า....

 “NED ยังจ่ายเงิน 80,000 ดอลลาร์ เพื่อให้มูลนิธิอาสาสมัคร เพื่อสังคม ที่มีนักเคลื่อนไหวชื่อดังในสังคมเป็นกรรมการ เช่น นางสุรัสวดี หุ่นพยนต์ นายโคทม อารียา นายเดช พุ่มคชา นายประพจน์ เภตรากาศ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ นายจอน อึ๊งภากรณ์ นายนิมิตร์ เทียนอุดม”

คุณวิฑูรย์ ชี้แจงมาอย่างดุเดือดเช่นเดียวกับที่ผมได้นำเสนอข้อมูลอย่างดุเดือดว่า

“ตามที่สื่อบางกลุ่มซึ่งถูกกล่าวหาว่าถูกครอบครองกิจการโดยนักธุรกิจที่พัวพันจากการปั่นหุ้นได้รายงานว่า องค์กรของสหรัฐฯ ที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากการอนุมัติผ่านสภาคองเกรสได้ให้ความช่วยเหลือองค์กรต่างๆในประเทศไทยเพื่อบงการองค์กรเหล่านั้นให้ดำเนินกิจกรรมเพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา โดยระบุรายชื่อของกรรมการบริหารองค์กรต่างๆที่ได้รับความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น นายเกริกไกร จีระแพทย์ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก นายบัณฑิต นิจถาวร อดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นางนวลพรรณ ลํ่าซำ ผู้จัดการทีมชาติฟุตบอลหญิง และนายสราวุฒิ เฮ้งสวัสดิ์ หรือนิ้วกลม นักเขียนชื่อดัง เป็นต้น
ในรายชื่อของผู้ที่ถูกกล่าวหา  มีรายชื่อของผมรวมอยู่ด้วย เนื่องจากเป็นหนึ่งในกรรมการของ “มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม” ซึ่งมูลนิธิแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนเงินทุน 80,000 ดอลลาร์สำหรับกิจกรรมส่งเสริมคนรุ่นใหม่เพื่อให้การช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชนบท เป็นต้น

การกล่าวหามูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม องค์กรต่างๆ และระบุชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้องดังที่ได้ระบุข้างต้น เป็นการทำงานของสื่อที่น่าละอายและไม่อยู่ในมาตรฐานที่ควรจะเป็น เพราะเป็นการกล่าวหาด้านเดียวโดยปราศจากหลักฐานใดๆที่ชี้ให้เห็นว่าองค์กรเหล่านั้นดำเนินงานเพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และควรทราบว่าหน่วยงานของรัฐบาลเป็นจำนวนมากได้รับความช่วยเหลือในลักษณะใกล้เคียงกันนี้จากต่างประเทศเป็นจำนวนเงินมากกว่าหลายเท่า

กล่าวเฉพาะมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคมนั้น เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ซึ่งดำเนินงานส่งเสริมคนรุ่นใหม่รุ่นแล้วรุ่นเล่าที่ไม่ประสงค์จะรับราชการหรือประกอบธุรกิจ ให้ได้มีโอกาสทำงานสานฝันอุดมคติเพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่า องค์กรนี้ดำเนินงานอย่างโปร่งใส ภายใต้รัฐธรรมนูญ ได้รับการตรวจสอบตามกฎหมาย มีเกียรติภูมิ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในแวดวงการพัฒนาสังคม สถาบันทางวิชาการ และหน่วยงานของรัฐมาอย่างยาวนาน โดยผู้บริหารของมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคมมีกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดในการรับการสนับสนุนไม่ว่าจากองค์กรใดก็ตาม และพร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบมาทุกยุคทุกสมัย
สำหรับมูลนิธิชีววิถี (BioThai)นั้น ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากองค์กรที่ปรากฏในสื่อดังกล่าว โดยปัจจุบันการสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากหลายหน่วยงานของรัฐบาลที่มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างเคร่งครัด เปิดเผย และโปร่งใสตามระเบียบของหน่วยงานที่สนับสนุนงบประมาณ และการบริจาคจากประชาชนทั่วไป

เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของมูลนิธิมีจิตวิญญาณร่วมกันในการสร้างสังคมที่เป็นธรรมและมีสุขภาวะ เราต่อต้านการดำเนินการใดๆของกลุ่มทุนและผู้มีอำนาจทุกรูปแบบที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย และผู้บริโภคในประเด็นที่เกี่ยวกับทรัพยากรชีวภาพ เกษตรกรรมเชิงนิเวศ และความมั่นคงทางอาหาร

ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา  BioThai มีบทบาทสำคัญทั้งในการส่งเสริมการฟื้นฟูพันธุ์พืชท้องถิ่น สนับสนุนเกษตรกรรายย่อยและชุมชนเพื่อให้ขยายการผลิตและการตลาดที่เป็นธรรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมๆกับการต่อต้านการคุกคามของบรรษัทข้ามชาติเพื่อปกป้องความมั่นคงและอธิปไตยทางอาหาร เช่น การต่อต้านการจดสิทธิบัตรข้าวหอมมะลิ การคัดค้านการลงนามเอฟทีเอกับสหรัฐฯและประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรชีวภาพ การรณรงค์ให้แบนสารพิษกำจัดศัตรูพืชที่มีพิษภัยร้ายแรงของบรรษัทสารพิษที่ประเทศของตนห้ามใช้แล้วแต่ยังคงใช้วิธีสกปรกตั้งองค์กรบังหน้า เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยอมรับการนำเข้าสารพิษที่คร่าชีวิตเกษตรกร และทำลายสุขภาพของผู้บริโภคให้ตายผ่อนส่ง เป็นต้น เราควรใช้โอกาสนี้ตรวจสอบการทำงานของสื่อและสำนักข่าวที่ไม่ได้ทำหน้าที่ตามมาตรฐานที่พึงมี ลากไส้องค์กรบังหน้าของบรรษัทที่ผุดขึ้นในนามสมาคม สมาพันธ์  หรือผลักดันให้มีการเปิดเผยเส้นทางการเงินและผลประโยชน์ของกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จากสารพิษในทุกระดับ เพื่อสังคมไทยที่ดีกว่าและโลกที่ดีกว่า

เราพร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบทุกรูปแบบ ย้อนหลังไปตลอดการทำงาน 20 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน และสิ่งที่เราจะทำในอนาคต”.....

ผมไม่ตัด ไม่ทอนคำชี้แจงของคุณวิฑูรย์ออกแม้แต่คำเดียว เพราะเราทำหน้าที่นำสาร ผ่านสื่อ ไปยังประชาชนให้เห็นภาพ เราวิพากษ์ วิจารณ์คนอื่นได้ คนอื่นก็วิพากษ์วิจารณ์เราได้เช่นกัน

บทบาทของคนทำสื่อ ต้องเปิดใจรับ เช่นเดียวกับบทบาทของบรรดาเอ็นจีโอ กลุ่มคนดีเหล่านี้ต้องพร้อมน้อมรับการตรวจสอบเช่นกัน

ที่ผ่านมาบทบาทของแต่ละท่านทำงานหนักเพื่อสังคมหนักเบาตามสถานะนั้น ทุกท่านต้องยอมรับเช่นกันว่า เอ็นจีโอ และแต่ละองค์กรที่รับเงินจาก NED ที่รับรู้กันในวงการต่างประเทศว่าเป็น CIA ภาคพลเมืองของสหรัฐฯนั้น อยู่ในฝ่ายตรวจสอบอำนาจรัฐมาโดยตลอด เมื่อถูกตรวจสอบกันบ้าง ก็ไม่เห็นจะเป็นไร

และที่คุณวิฑูรย์บอกว่า การกล่าวหามูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม องค์กรต่างๆ และระบุชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้องดังที่ได้ระบุข้างต้น เป็นการทำงานของสื่อที่น่าละอายและไม่อยู่ในมาตรฐานที่ควรจะเป็น เพราะเป็นการกล่าวหาด้านเดียวโดยปราศจากหลักฐานใดๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าองค์กรเหล่านั้นดำเนินงานเพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และควรทราบว่าหน่วยงานของรัฐบาลเป็นจำนวนมากได้รับความช่วยเหลือในลักษณะใกล้เคียงกันนี้จากต่างประเทศเป็นจำนวนเงินมากกว่าหลายเท่า

ผมก็ว่า น่าจะดูถูกการทำงานของเราไม่น้อย  เราไม่ได้กล่าวหา เราบอกข้อมูลที่ “กองทุน CIA ภาคพลเมือง” ของสหรัฐฯเขาแจ้งไว้ในเว็ปไซด์เขา ถ้ากองทุนที่อดีตหัวหน้าทำเนียบขาวจ่ายเงินให้ใคร คนอื่นอาจเงียบเฉย แต่เราไม่เฉยครับ เราจะตามไปดูครับ ไม่เฉพาะของคุณวิฑูรย์...

เราไม่ทะเลาะกับใคร แต่เราต้องร่วมกันตรวจสอบเพื่อบ้านเมืองของเรา อย่ากลัวเลยครับ คนดี องค์กรดี ตกนํ้าไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้แน่ครับ...

อ่านเพิ่ม : สหรัฐฯ 'ยัดเงิน' เอ็นจีโอ-สื่อ บงการไทย!!
......................
คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา/ หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3339 ระหว่างวันที่ 11-14 ก.พ.2561