พาณิชย์เปิดตัวข้าว กข ๔๓ ข้าวคุณภาพน้ำตาลต่ำ พร้อมขยายพื้นที่ปลูก

09 ก.พ. 2561 | 09:41 น.
พาณิชย์เปิดตัวข้าว กข ๔๓ ข้าวคุณภาพน้ำตาลต่ำ พร้อมขยายพื้นที่ปลูกหากความต้องการสูงขึ้น

[caption id="attachment_257780" align="aligncenter" width="503"] นางสาวชุติมา บุณยประภัศร นางสาวชุติมา บุณยประภัศร[/caption]

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้การส่งเสริมการผลิตพันธุ์ข้าวใหม่เพื่อให้ตรงตามความต้องการของตลาดและช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับเกษตรกร โดยล่าสุดพันธุ์ข้าวกข๔๓ ได้ผ่านการวิจัยและสามารถทดลองปลูก เพื่อการจำหน่ายและการบริโภคได้แล้ว โดยข้าวพันธุ์ดังกล่าวมีลักษณะใกล้เคียงกับข้าวขาวแต่มีความนุ่มและมีคุณสมบัติให้น้ำตาลต่ำเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและผู้ป่วยโรคเบาหวาน,โรคไต จึงถือเป็นข้าวคุณภาพและมีราคาสูงกว่าข้าวขาวปกติ

เนื่องจากปัจจุบันมีการเพาะปลูก ข้าว พันธุ์นี้ ค่อนข้างน้อยและ ให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่น้อยโดยมีผลผลิตอยู่ที่ไร่ละ 420 กิโลกรัม จากปกติข้าวข้าวทั่วไปจะให้ผลผลิตอยู่ที่ 700-800 กิโลกรัมต่อไร่ และเพาะปลูกยาก จึงทำให้มีราคาสูงกว่าข้าวขาวทั่วไป โดยจำหน่ายที่กิโลกรัมละ 80 บาท จึงเกรงว่าอาจจะมีปลอมปน  ดังนั้นกรมการข้าวได้ออกเครื่องหมายรับรองข้าวพันธุ์แท้ให้เป็นสัญลักษณ์เพื่อเป็นหลักประกันแก่ผู้บริโภค โดยในขณะนี้ต้องการให้ผู้ที่สนใจจะนำข้าว กข๔๓ ไปจำหน่ายให้ยื่นเสนอมายังกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อให้ได้ทราบปริมาณความต้องการที่ชัดเจนก่อนจะมีการขยายพื้นที่การผลิตซึ่งข้าวพันธุ์ดังกล่าวสามารถปลูกได้ในที่นาภาคกลางเท่านั้น โดยล่าสุดมีพื้นที่การเพาะปลูกและมีผลผลิตอยู่ที่ 3,000 ไร่ผลผลิต 600 ตันข้าวสาร และพร้อมที่จะขยายพื้นที่ได้สูงสุดถึง 300,000ไร่ หากมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เครื่องหมายรับรองพันธุ์ข้าวที่กรมการข้าวออกให้นั้น หากผู้ใดลอกเลียนแบบ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ แต่หากมีการปลอมเครื่องหมายจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

และในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้กระทรวงพาณิชย์จะเชิญกลุ่มสหกรณ์,ตัวแทนที่ต้องการจำหน่ายมาหารือเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งข้าวพันธุ์ดังกล่าวถือเป็นอนาคตของข้าวไทยที่จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตของเกษตรกรได้

ทั้งนี้ ในปีการผลิต 2560/61 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้คัดเลือกสหกรณ์ที่มีศักยภาพ วางแผนการผลิตภายใต้ระบบนาแปลงใหญ่ นาปี มีพื้นที่รวม 100 ไร่ ผลผลิตรวม 20 ตันข้าวเปลือก วางตลาดโดยสหกรณ์การเกษตรดอนเจดีย์ จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย สำหรับนาปรังมีพื้นที่รวมประมาณ 3,000 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิตประมาณ 600 ตันข้าวเปลือก และจะทำการขยายการเพาะปลูกในปีการผลิต 2561/62 ในพื้นที่นาแปลงใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง

สำหรับสถานการณ์ข้าวนาปรังปีนี้ มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวรวม 11 ล้านไร่ ซึ่งผลผลิตจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดช่วยปลายเดือนมีนาคม-เมษายน โดยคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผลผลติใกล้เคียงกับปี 2560 ที่ปริมาณ 7 ล้านตันข้าวเปลือก และยืนยันว่าการระบายข้าวที่เหลือในสต๊อกรัฐปริมาณ 2 ล้านตันจะไม่กระทบต่อราคาข้าวในตลาด เนื่องจากเป็นการระบายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม ซึ่งในสัปดาห์หน้าคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวจะมีการประชุมเพื่อหาช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การระบายต่อไปส่วนการซื้อขายข้าวรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ปริมาณ 1 ล้านตันกับ COFCO รัฐวิสาหกิจจีน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาราคาเพื่อส่งมอบข้าวแสนที่ 5 ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว